‘เน็ตคนละครึ่ง’ มากกว่า…นโยบายดิจิทัลราคาถูก!

เน็ตคนละครึ่ง…สัญญาณทางการเมือง! ที่สะเทือนถึง “ผู้ถือบัตรคนจน” 14 ล้านชีวิต ถือเป็นมาตรการ “อัพ!” คุณภาพชีวิต ความสุข โอกาสทางเศรษฐกิจ และสุขภาพจิต “คนฐานราก” ที่เคยถูกทิ้งไว้ข้างหลังมานาน? “รัฐบาลอนุทิน” ปรับใช้แผนนี้ได้อย่างเหนือชั้น! วางเกม “ยึดหัวใจ” คนจนยุคดิจิทัล หนุนการเข้าถึง “โลกออนไลน์” ให้เป็นสิทธิพื้นฐานคนไทย

การขยับของ…รัฐบาล ภายใต้การนำของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ต่อแผนการผลักดัน โครงการ “เน็ตคนละครึ่ง” ที่เตรียมเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี

กลายเป็นหนึ่งใน สัญญาณทางการเมือง ที่น่าสนใจที่สุด! ในรอบหลายเดือน

ไม่ใช่เพียงเพราะเป็น…มาตรการช่วยเหลือค่าบริการอินเทอร์เน็ต แก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กว่า 14 ล้านคน แต่เพราะมันสะท้อนการ “เปลี่ยนยุทธศาสตร์ภาครัฐ” ที่มอง “อินเทอร์เน็ต” ไม่ใช่สินค้าอีกต่อไป แต่เป็นสาธารณูปโภคที่เทียบเท่ากับน้ำ ไฟ และการเดินทาง ซึ่งเป็น…โครงสร้างพื้นฐานขั้นต่ำของคุณภาพชีวิตคนจนในศตวรรษที่ 21

คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เสนอให้ รัฐบาล…สนับสนุนค่าบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 40 GB ต่อเดือน เป็นเวลา 3 เดือน ในราคาเพียง 160 บาทต่อเดือน

โดยใช้เงินจาก กองทุน กทปส. ซึ่งมี วัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์สาธารณะด้านโทรคมนาคมโดยตรง และกำลังอยู่ในขั้นตอนเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.

หากผ่าน…ก็จะเปิดให้ ประชาชนลงทะเบียนภายในปี 2568

จุดเปลี่ยนสำคัญ! ของนโยบายนี้ คือ การทำให้ประชาชนรายได้น้อยเข้าระบบดิจิทัลได้จริง สิ่งนี้…ได้รับคำยืนยันจาก น.ส.อัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ระบุว่า “จะควบคุมคุณภาพความเร็วอินเทอร์เน็ตให้ใช้งานได้จริง ครอบคลุมทุกพื้นที่”

ในทางการเมือง นี่คือ…การ “ประกาศจุดยืน!” ของ “รัฐบาลอนุทิน” ต่อกลุ่มประชาชนที่มักถูกมองว่า “ไม่มีน้ำหนักทางเศรษฐกิจ” แต่มี…น้ำหนักทางสังคมและการเมืองสูงที่สุด!!!

เพราะเป็น…ฐานเสียงที่มีขนาดใหญ่ และกระจัดกระจายอยู่ทั่วประเทศ

การออกนโยบายที่ “กระทบโดยตรง” ต่อชีวิตประจำวันของผู้ถือบัตรคนจน ไม่ได้เป็นเพียงการสนับสนุนค่าใช้จ่าย แต่คือ…การเข้าไปแตะ “ความรู้สึกว่ารัฐเห็นคุณค่าและให้ความสำคัญกับพวกเขา” ซึ่งเป็น องค์ประกอบสำคัญที่สุดของความชอบธรรมทางการเมือง???

นักวิเคราะห์การเมืองบางคน? มองว่า…นโยบายนี้ เข้าข่ายลักษณะ “ประชานิยมสร้างโอกาส” มากกว่าจะเป็น…“ประชานิยมแบบแจกเงิน”

เพราะสิ่งที่…รัฐบาลให้ คือ โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่ช่วยให้คนหาเงินเองได้มากขึ้น ทั้งการขายของออนไลน์, การเข้าถึงงานพาร์ตไทม์, การใช้แอปภาครัฐ และการศึกษาผ่านระบบดิจิทัล

ขณะที่ ภาคสาธารณสุขเอง มีข้อสังเกตว่า…ผู้มีรายได้น้อย มักเผชิญภาวะเครียดสะสมสูง การเข้าถึงความบันเทิงออนไลน์ ที่เคยเป็นของ “ฟุ่มเฟือย” สำหรับบางครอบครัว กลับมีผล “ลด” ความเครียดและความโดดเดี่ยวได้อย่างชัดเจน!

สิ่งนี้…จึงทำให้ โครงการ “เน็ตคนละครึ่ง” กลายเป็น…มาตรการที่ผสาน “สวัสดิการเศรษฐกิจ + สุขภาพจิต + โอกาสทางสังคม” เข้าไว้ด้วยกันโดยปริยาย

แม้จะยังไม่มีการแถลงโดยตรงจาก นายกฯอนุทิน ต่อโครงการนี้ แต่การเปิดทางให้ กสทช. เดินหน้าเต็มรูปแบบสะท้อนภาพชัด ว่า…รัฐบาลต้องการขยายการเข้าถึงบริการดิจิทัลเป็นวาระแห่งชาติ

น.ส.อัยรินทร์ ชี้ว่า…โครงการดังกล่าวคือก้าวสำคัญของไทยสู่สังคมดิจิทัลอย่างยั่งยืน พร้อมย้ำว่า…มาตรการนี้มีเป้าหมายลดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัล ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้คนจนขาดโอกาสด้านการศึกษา การทำงาน และการเข้าถึงบริการรัฐในยุคที่ทุกอย่างเคลื่อนสู่ระบบออนไลน์

ในเชิงยุทธศาสตร์ การใช้ กองทุน กทปส. สนับสนุนแทนการใช้เงินงบประมาณปกติ ยังทำให้รัฐบาลหลีกเลี่ยงแรงเสียดทานทางการเมืองเรื่องภาระงบประมาณโดยตรง

เพราะ กองทุนนี้…มีหน้าที่ตามกฎหมายในการส่งเสริมการเข้าถึงเทคโนโลยีของประชาชนอยู่แล้ว จึงถูกมองเป็น “งบที่ถูกที่ควรถูกใช้” มากกว่าจะเป็น “งบประชานิยม” เพื่อหวังคะแนนนิยม

สร้างภาพว่า…รัฐบาลใช้งบอย่างมีเหตุผลและมีฐานกฎหมายรองรับอย่างชัดเจน!!!

คำถามเชิงนโยบาย ที่น่าจับตา ก็คือ เมื่อสิทธิอินเทอร์เน็ตราคาถูกถูกมอบให้ผู้ถือบัตรคนจน 14 ล้านคนแล้ว รัฐมีแผนต่อเนื่องอย่างไร? หลังครบกำหนดเวลา 3 เดือนแรก

เพราะ “การเข้าถึงอินเทอร์เน็ต” ไม่ใช่โครงการประเภท 90 วันแล้วจบ แต่เป็นโครงสร้างที่ต้องมีความต่อเนื่องเพื่อให้เกิดผลลัพธ์จริง ทั้งด้านการศึกษาดิจิทัล การทำงาน การค้าขายออนไลน์ และการเข้าถึงบริการสุขภาพ

การกำหนดระยะเวลา 3 เดือน อาจเหมาะในเชิง ทดลองนโยบาย แต่หากไม่ขยายโครงการหรือปรับ ให้เป็นมาตรการระยะยาว ก็อาจ “สูญเสีย” ต้นทุนทางสังคมมหาศาลที่เริ่มสร้างไปแล้ว

สำหรับ ประชาชนฐานราก มาตรการนี้…อาจเป็น “ครั้งแรก” ที่พวกเขารู้สึกว่า “รัฐมอบความสามารถใหม่ให้” มากกว่าแค่ “รัฐให้เงินชั่วคราว”

การเชื่อมต่อกับ “โลกออนไลน์” ไม่ว่า…จะเพื่อ หาความรู้, สมัครงาน, ดูหนังฟังเพลง หรือเข้าโรงพยาบาลผ่านระบบดิจิทัล ล้วนเป็น “ปัจจัย” ที่เปลี่ยนคุณภาพชีวิตได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องรอให้เศรษฐกิจโต หรือรายได้เพิ่ม

 ซึ่งเป็น…เหตุให้มาตรการนี้ มีศักยภาพสร้างผลกระทบต่อความสุขและศักดิ์ศรีของผู้มีรายได้น้อยในระดับที่ลึกกว่านโยบายสวัสดิการทั่วไป

ในมุมการเมือง โครงการนี้ อาจ ถูกตีความได้ 2 ทาง เป็นทั้ง…เครื่องมือสร้างคะแนนนิยมของรัฐบาล และเป็นการวางรากฐานโครงสร้างดิจิทัลให้ผู้มีรายได้น้อยอย่างแท้จริง

แต่ไม่ว่าจะตีความแบบใด? ความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ ก็คือ มาตรการนี้สะเทือนลงถึงระดับครัวเรือนและความรู้สึกของประชาชนที่มักรู้สึกว่าชีวิตของตัวเอง “เล็กเกินกว่าที่รัฐจะมองเห็น”

การได้รับอินเทอร์เน็ตที่ใช้งานได้จริง อาจเป็น “จุดเริ่มต้น” ของการรู้สึกว่า “รัฐยังไม่ทิ้งพวกเขาไว้ข้างหลัง”

โครงการ “เน็ตคนละครึ่ง” จึงไม่ใช่เพียงเรื่องความเร็วอินเทอร์เน็ต หรือแพ็กเกจราคาถูก แต่คือ…บททดสอบสำคัญของรัฐบาลชุดนี้ ว่า ต้องการสร้างสวัสดิการดิจิทัลที่ยั่งยืนจริงหรือไม่? และพร้อมหรือยัง? ที่จะ “ยกระดับ” โครงสร้างพื้นฐานทางสังคมให้คนจนเข้าถึงโลกดิจิทัลได้เท่าเทียมกับคนเมืองและคนชั้นกลาง

นี่คือ…ภาพสะท้อนความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ที่ถูกแปรรูปเป็นนโยบาย และอาจกลายเป็น “หนึ่งในก้าวสำคัญที่สุด!” ของ “รัฐบาลอนุทิน” ต่อฐานราก 14 ล้านคน

ในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลเต็มรูปแบบ!!!.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password