หนา ด้าน ทน

อาการ “โพล่ง!” ร่วมแสดงความยินดีกับ ”รัฐบาลใหม่” ของไทย จาก “ผู้นำกัมพูชา” ไม่ว่าจะเป็นคน “รุ่นพ่อ” หรือ “รุ่นลูก” พวกเขายังคงคุณสมบัติและคุณลักษณะสุดพิเศษ! “ไม่จริงใจ หนา ด้าน ทน” แบบไม่สนโลก!!!  “นายกฯอนุทิน” จึงต้องหนักแน่นต่อการจะสานต่อความสัมพันธ์อันดีครั้งใหม่

ระหว่างที่เปิดปฏิบัติการ “ยั่วยุ ปั่นป่วน ให้ร้าย” และพร้อมจะ ก่อเหตุ! นำสู่การปะทะกัน อยู่นั้น ทว่า “ผู้นำกัมพูชา” ก็ยังสามารถจะส่งหนังสือแสดงความยินดีกับ “ผู้นำคนใหม่” ของไทย

ประกาศ…พร้อมแล้วจะสานต่อความสัมพันธ์อันดีต่อกัน

สิ่งนี้…มัน สุดติ่งกระดิ่งแมว! แบบสุดๆ คนอะไร… “หนา ด้าน ทน” ได้ขนาดนี้!!!.

“รัฐบาลใหม่” ยังอยู่ระหว่างการเซ็ตตัว! คาดว่าจะแล้วเสร็จในเร็ววันนี้ ล่าสุด มีกระแสข่าวว่า…รายชื่อ “ครม.อนุทิน” ครบหมดแล้ว แต่อาจบางตำแหน่งต้องปรับแต่งเพิ่มเติมเล็กน้อย

เมื่อแล้วเสร็จ 100% รายชื่อคณะรัฐมนตรีทั้งหมดไม่เกิน 36 คน จะส่งไปทำการตรวจสอบคุณสมบัติและประวัติจากหน่วยงาน/องค์กรที่เกี่ยวข้อง นั่นคือ…

สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI), คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.), สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.), สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รวมถึงสำนักข่าวกรองแห่งชาติ และฝ่ายความมั่นคง

จากนั้น…เข้าสู่ขั้นตอนของการทูลเกล้าฯ เพื่อให้ได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี และพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณฯ

จึงจะถือเป็นรัฐบาลที่สมบูรณ์ และ “ครม.อนุทิน” ก็สามารถจะเริ่มปฏิบัติหน้าที่ได้ตามอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด

ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญ มาตรา 162 กำหนดว่าภายใน 15 วันนับแต่วันเข้ารับหน้าที่ ครม. ต้องแถลงนโยบายต่อรัฐสภา

นั่นคือ กระบวนการทั้งหมดหลังจากวันนี้…

สำหรับกลุ่ม “รัฐมนตรีคนนอก” เป็น…นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เอง ที่เดินสายเจรจาและเชื้อเชิญให้หลายบุคคลสำคัญเข้าร่วมคณะรัฐมนตรี (ครม.)

นอกจาก…นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ที่จะเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รมว.คลัง นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รมว.พลังงาน นายวรภัค ธันยาวงษ์ รมช.คลัง แล้ว

ล่าสุด ได้ พล.ต.ท.ชาญชัย พงษ์พิชิตกุล รองผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 3 มาดำรงตำแหน่ง รมว.ยุติธรรม, นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) รมว.พาณิชย์ และคนสุดท้าย คือ..นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ทำหน้าที่…รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย 

ที่ แทรกกลางวง!!!…ระหว่างการจัดตั้ง “ครม.อนุทิน” ก็คือ… การที่ นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้ส่งหนังสือแสดงความยินดีมายัง “ผู้นำไทย”???

สรุปเนื้อหาสั้นๆ เพื่อให้เข้าใจง่ายๆ…รัฐบาลกัมพูชา พร้อมตั้งตาคอยที่จะทำงานร่วมกับรัฐบาลใหม่ของไทยอย่างใกล้ชิด เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างกัมพูชาและไทย ให้กลับคืนสู่ภาวะปกติ สร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกัน และเปลี่ยนพรมแดนร่วมกันระหว่างสองราชอาณาจักรให้เป็นพื้นที่แห่งสันติภาพ ความร่วมมือ การพัฒนา และความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน

และที่มีตามมาติดๆ ก็คือ เสียงทวงถามถึงโครงการความร่วมมือและความช่วยเหลือจากรัฐบาลไทย สมัย “รัฐบาลแพทองธาร” ที่ได้ทำเอาไว้กับฝั่งกัมพูชา

แต่ดูเหมือนใน ฝั่งของคนไทย ส่วนใหญ่ไม่ต้องการให้ “รัฐบาลอนุทิน” สานต่อในสิ่งนี้

หากเป็นไปได้ ก็ควรล้มเลิกโครงการนี้ไปเลย!!!

การคบค้าสมาคมกับรัฐบาลกัมพูชาและคนกัมพูชา ก็น่าจะมีแต่ “เสียกับเสีย…ไม่มีได้” เลย!

อันเป็นผลมาจาก…คุณสมบัติของคนชาติพันธุ์นี้ นั่นเอง!!!

ต้องยอมรับว่า…นาทีนี้ ความสัมพันธ์ของ 2 ชาติ อยู่ในภาวะตึงเครียดอย่างรุนแรงและเปราะบางที่สุดในรอบหลายปี

เหตุปะทะชายแดน การกล่าวร้ายต่อกันในที่สาธารณะ และการดำเนินการเชิงทหารที่ท้าทายไทย ล้วน สะท้อนถึงพฤติกรรมของ “ผู้นำกัมพูชา” ที่ถูกมองว่า…เป็นการแสดงความแข็งกร้าว ไร้ความยับยั้ง และไม่แยแสต่อความปรารถนาดีของประชาคมภูมิภาค

แม้ใน เชิงการทูต…จะมีการส่งสารแสดงความยินดีและถ้อยคำที่สวยหรูถึง “รัฐบาลใหม่” ของไทย แต่เมื่อพิจารณาจากการกระทำจริง! กลับพบว่า…มีความย้อนแย้งและเต็มไปด้วยความพยายามยั่วยุไทยอย่างต่อเนื่อง

ท่าทีเหล่านี้ กำลังทดสอบ “รัฐบาลใหม่” ภายใต้การนำของ นายกฯอนุทิน ที่แม้จะประกาศชัดว่า…จะไม่ยอมเสียดินแดนแม้แต่ตารางเซนติเมตรเดียว แต่ก็ต้องเผชิญกับแรงกดดันมหาศาล

ทั้งจากการโจมตีของกัมพูชา และจากเสียงเรียกร้องในประเทศ ที่ต้องการให้ รัฐบาลกัมพูชา ยืนหยัดอย่างแข็งกร้าวยิ่งขึ้น!

ซี่งการเคลื่อนไหวหลายเรื่องของฝั่งกัมพูชา ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา สะท้อนถึงพฤติกรรมที่ไม่เพียงแต่ละเมิดความมั่นคงของไทย แต่ยังเป็นการท้าทายอย่างจงใจ! ต่อหลักการสันติภาพที่ทั้ง 2 ฝ่าย ที่เคยให้คำมั่นสัญญากันไว้

การกระทำที่ได้สร้างบาดแผลแก่ประชาชนในพื้นที่ชายแดน…ที่ต้องอพยพ สูญเสียบ้านเรือน และเผชิญความหวาดกลัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ความรู้สึกไม่ไว้วางใจ…ฝังลึก! ลงไปในสังคมไทย โดยเฉพาะผู้ที่เคยเผชิญเหตุการณ์ปะทะจริง ทำให้ยากที่ประชาชนจำนวนมากจะเชื่อถือคำพูดใดๆ จากฝ่ายกัมพูชา ได้อีกต่อไป

การใช้กลยุทธ์แข็งกร้าว, บิดเบือนข้อเท็จจริง และกล่าวร้ายต่อไทย คือ พฤติกรรมที่กลายเป็นภาพจำของ “ผู้นำกัมพูชา” ในสายตาคนไทย ไปแล้ว

การตัดสินใจใดๆ ของ “รัฐบาลอนุทิน” ต่อการ “ตอบรับ” ความต้องการของรัฐบาลกัมพูชา ย่อมนำมาซึ่งความรู้สึกร่วมของคนไทยทั้งประเทศ อย่างที่สุด!

แน่นอนว่า…มันคงทำให้ “นายกฯอนุทิน” ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก เพราะต้องรักษาสมดุลระหว่างการตอบสนองต่อความรู้สึกของประชาชนในประเทศ ที่ไม่อาจทนต่อการยั่วยุได้อีกต่อไป กับการรักษาช่องทาง “ทางการทูต” เพื่อป้องกันไม่ให้ความตึงเครียดลุกลาม…กลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ!!!

การที่ “นายกฯอนุทิน” แถลงยืนยันว่า…จะไม่ยอมเสียดินแดนแม้ตารางเซนติเมตรเดียว

แม้จะสร้างความมั่นใจในหมู่ประชาชน แต่แรงกดดัน “อย่าคบค้าสมาคมกับกัมพูชา” ก็ยังคงอยู่ ในท่ามกลางภาวะที่ฝ่ายกัมพูชา ยังคงเลือกเดินเกมแข็งกร้าวต่อไป

สถานการณ์นี้ อาจกดดันให้ฝ่ายไทย ต้องหันไปใช้แนวทางแข็งกร้าวมากขึ้น ซึ่งจะยิ่งทำให้ความสัมพันธ์เสื่อมถอยและสร้างความเสียหายแก่ทั้ง 2 ประเทศอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้

“นายกฯอนุทิน” ในฐานะ “ผู้นำใหม่” ของไทย จึงต้องใช้สติปัญญาและความเด็ดขาดในการรักษาผลประโยชน์ของชาติ ขณะเดียวกันก็ต้องตระหนักว่า…ความสัมพันธ์ระดับ “ทวิภาคี” นั้น ไม่อาจพึ่งพาถ้อยคำที่สวยหรูได้ แต่ต้องพิจารณาจากการกระทำจริงที่เกิดขึ้นต่อหน้าประชาชน

หากฝ่ายกัมพูชายังเลือกเส้นทางแข็งกร้าวและไม่จริงใจ ความร่วมมือใด ๆ ที่พูดถึง…ย่อมเป็นเพียงภาพลวงตา และไทยจำเป็นต้องเตรียมความพร้อม ทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจ และการทหาร เพื่อรับมือกับเพื่อนบ้านที่เลือกสร้างปัญหาแทนที่จะสร้างมิตรภาพ

ถึงตรงนี้! กับภาพความเป็นจริง! ของ “ผู้นำกัมพูชา” นับแต่ “รุ่นพ่อ” นายฮุน เซน จนถึง “รุ่นลูก” นายฮุนมาเนต ที่ปรากฏให้เห็นมาตลอด นั่นคือ…ความไม่จริงใจ ที่พ่วงมาด้วยคุณลักษณะพิเศษ…

“หน้าหนา หน้าด้าน และหน้าทน” ชนิดไม่สนใจโลก!!!

ระหว่างที่เปิดปฏิบัติการ “ยั่วยุ ปั่นป่วน ให้ร้าย” และพร้อมจะ ก่อเหตุ! นำสู่การปะทะกัน อยู่นั้น ทว่า “ผู้นำกัมพูชา” ก็ยังสามารถจะส่งหนังสือแสดงความยินดีกับ “ผู้นำคนใหม่” ของไทย

ประกาศ…พร้อมแล้วจะสานต่อความสัมพันธ์อันดีต่อกัน

สิ่งนี้…มัน สุดติ่งกระดิ่งแมว! แบบสุดๆ คนอะไร… “หนา ด้าน ทน” ได้ขนาดนี้!!!.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password