เอาตัวรอด!!??

หลุด-ไม่หลุด! อนาคต “นายกฯแพทองธาร” ในกำมือของศาลรัฐธรรมนูญ แต่ที่แน่ๆ “คนเป็นพ่อ” อย่าง…นายทักษิณ ชินวัตร ก็มั่นใจใน “ดีลใหม่” นั่นแหละ? ที่สุด! ลูกสาว…คือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะรอด!!!

แต่ต้อง “ลากยาว” ในเกมคำวินิจฉัยปม “คลิปหลุด! – สนทนา Uncle ฮุน เซน” ออกไปให้นานที่สุดเท่าที่จำทำได้

ว่ากันว่า…ยิ่งลากยาว ด้วยการขอ “ยื้อ” ขยายเวลาส่งคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญออกไปอีก 15 วัน และอาจขอยื้อเวลารอบใหม่ ตามมาอีก ด้วยข้ออ้างที่ว่า…เตรียมเอกสารไม่ทัน

รอเพียงให้เลยวันเกิดครบรอบ 39 ปี…21 ส.ค.นี้ ไปก่อนเท่านั้น สำหรับ “สายมู” แล้ว เชื่อมั่นว่า…โอกาสที่ น.ส.แพทองธาร จะไปได้ต่อ ย่อมมีสูง!!!

แต่หาก มองในเชิงวิทยาศาสตร์ การสังเคราะห์ข้อมูล เหตุผล และองค์ประกอบอื่นๆ ตัวเลขสถิติชี้ชัด!

มีโอกาสที่ “รัฐบาลแพทองธาร” จะได้ไปต่อมีเพียง 30% สูงถึงราว 60% ที่จะต้องมีการจับมือจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ระหว่าง…2 พรรคใหญ่ “เพื่อไทย – ภูมิใจไทย”

มีโอกาสแค่ 10% ที่อีกขั้วการเมืองอย่าง….พรรคประชาชน จะได้เป็นรัฐบาล

มุมมองวิทยาศาสตร์ที่ดูจะน่าเชื่อถือมากกว่า “สายมู” นั่นก็หมายความว่า…โอกาสที่ 2 พรรคใหญ่ ซึ่งวันนี้…เกิดเหตุปะทะในทางการเมือง…หลายพื้นที่ หลายอีเว้นท์ จะกลับมารวมตัวและจับจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ย่อมมีสูงมาก!!!

กระนั้น ก่อนหน้านี้ ก็เป็น นายทักษิณ ที่แขวะไปถึงพรรคภูมิใจไทย ว่า…

“เรื่องที่เกิดขึ้นกับกัมพูชา ผมก็แปลกใจ ไอ้ผู้นำเขมร มันไร้จริยธรรมจะตาย แต่เรากลับไปเข้าข้างมัน ผมงง วันนี้คนไทยไม่รักกัน ไม่มีผู้นำที่ไหนในโลกเขาทำกัน แต่เรากลับ…โดยเฉพาะพรรคที่เพิ่งหลุดไปจากรัฐบาล กลับมองว่าเป็นการขายชาติ เลยไม่รู้ตกลงเขาเป็นเขมรหรือเป็นไทย

กระทบ…นายฮุน เซน แต่กระเทือน “พรรคภูมิใจไทย”!!!

ล่าสุด ก็เป็น นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ที่ปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยที่จังหวัดศรีสะเกษ ทำนอง…พรรคภูมิใจไทย ซึ่งดูแลกระทรวงมหาดไทย ไม่แก้ปัญหายาเสพติด มุ่งแต่จะทํานโยบายกัญชาเสรี

ถึงขั้นที่พรรคการเมืองที่ถูกพาดพิง ประกาศจะฟ้องร้องดำเนินคดีกันแล้ว

ท่ามกลาง ปัญหาความขัดแย้งระหว่าง 2 พรรคใหญ่ เมื่อเทียบกับ ข้อมูลสถิติทางคณิตศาสตร์ ที่คาดการณ์กันว่า…โอกาสที่ “รัฐบาลแพทองธาร” จะได้ไปต่อ มีเพียงครึ่งเดียวของโอกาสที่พรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทย จะกลับมาจับมือจัดตั้งรัฐบาล

ทางเดียว คือ ต้องมี “ใบสั่ง” จาก “กลุ่มอำนาจเก่า” ที่ครั้งหนึ่ง นายทักษิณ เคยตอบคำถามของ นายวีระ ธีรภัทร์ บนเวที “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทยสู่อนาคต” ของ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) วันที่ 17 กรกฎาคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ว่า…

ไม่มีดีล!!!

ทว่า “ใบสั่ง” นี้ จะทำให้ 2 พรรคที่กำลังเปิดวิวาทะในทางการเมือง จำต้องสงบนิ่ง และยอมกลืนเลือดในลักษณะ “จำใจคบ” มากกว่า “เต็มใจคบ”

แม้จะต้องแลกด้วย “เก้าอี้ มท. ตัวนั้น?” ก็ตามที…

แน่นอนว่า…นายทักษิณ ยังมีทางเลือก โดยเฉพาะการงัดเอา “แผน 2” ออกมาใช้ นั่นคือ ส่ง นายชัยเกษม นิติสิริ “แคนดิเดท – นายกรัฐมนตรี” คนสุดท้าย มาชิงและได้ชัย!

แต่ก็ต้อง “ส่งคืน” เก้าอี้อีกตัว ให้กับเจ้าของเดิม

ซึ่งคงทำให้ทั้ง นายทักษิณ และพรรคเพื่อไทย รู้สึกอึดอัด

กระนั้น หากจำเป็น มันก็ต้อง “จำใจ” ยอมส่งคืนให้ ดีกว่าจะเลือกหนทาง “ยุบสภาฯ” เพราะเส้นทางสายนี้ มีแต่พังกับฉิบหาย!

แม้ พรมแดง ที่ “กลุ่มอำนาจเก่า” ขีดเส้นให้เดิน จะเป็นไปในลักษณะ การกลับมาจับมือจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันใหม่

ทว่า “ดีล” ครั้งนี้ คงไม่ต่างวลีการเมือง…“ไม่ใช่จับมือจากมิตร แต่จับมือจากความจำเป็น”

เป็น “ดีล” เพื่อความอยู่รอด! ของทั้ง…พรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย แม้กระทั้ง คนสร้างดีลนี้ขึ้นมา!!!

สอดรับกับมุมมองของ นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ – สายกลาง ที่ชี้ว่า…การกลับมารวมตัวกันของ พรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย เป็นแค่เกมการเอาตัวรอดของชนชั้นนำ…หาได้เป็นไปเพื่อการปฏิรูป!”

ไม่ต่างจาก นักวิชาการสายเศรษฐกิจ ที่เชื่อว่า…หากการเมืองไม่เสถียร จะทำให้เศรษฐกิจหยุดชะงัก จึง “จำเป็นต้องยอมรับ” ดีลทางการเมืองรอบใหม่นี้

ฉะนั้น คนไทยจึงอย่าได้หวังว่า สิ่งนี้…จะเป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน อีกเลย!!!.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password