ไม่เอารัฐประหาร? อย่าให้ ‘คนเชียร์’ มีที่ยืน!!!

แม้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ที่ขึ้นเวที ปิดการปราศรัยของ “คณะรวมพลังแผ่นดิน” เมื่อเวลา 20.50 น. วันที่ 28 มิ.ย.2568 บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ย้ำ! ในจุดยืนของกลุ่มฯ คือการ “ปกป้องอธิปไตยของชาติ” ด้วยการ…ขับไล่นายกฯแพทองธาร และกดดันพรรคร่วมลาออก

หวังหักล้างคำปราศรัยของแกนนำบางคน? ก่อนหน้านี้ พร้อมกับยืนยันหนักแน่น…

บัดนี้เลยเวลาการปฏิรูปมาแล้ว ต้องปฏิวัติชำระล้างแผ่นดินให้สะอาด แต่ไม่ใช่การรัฐประหาร แต่ปฏิรูปก็ขัดไม่ออกต้องล้างขนาดใหญ่ ต้องชำระล้างให้สะอาด และวันนี้ประชาชนควรรวมหัวใจเป็นหนึ่งเดียว เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ ถ้าแตกแยกก็เสียชาติ

ก่อนหน้านี้ เป็น นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งสื่อเครือผู้จัดการและสื่อมวลชนอาวุโส อดีตแกนนำพันธมิตรฯ (คนเสื้อเหลือง) ที่เคยชุมนุม…กวักมือเรียก “กองทัพ” ออกมาทำรัฐประหาร ยึดอำนาจจาก “รัฐบาลทักษิณ ชินวัตร” เมื่อ 19 ก.ย.2549 ได้ขึ้นเวทีปราศรัย…

ตอนหนึ่งของการปราศรัย นายสนธิ กล่าวว่า…“นี่เป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปีที่ได้ขึ้นเวทีปราศรัย ซึ่งเราต้องได้ ไม่มีเสีย และไม่ขัด…ถ้าทหารจะทำอะไร? แต่ไม่ได้ยุให้ทหารปฏิวัติ ถ้าทหารจะทำอะไรตอนบ้านเมืองวิกฤติ การเมืองมันแก้ไม่ได้ ก็ทำไป แต่ขออย่าเอา “พลเอก” มาบริหารชาติอีก และให้ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมบริหารประเทศชาติ…”  

ปากบอกไม่ได้ยุให้ทหารปฏิวัติ (ยึดอำนาจ) แต่ก็เหมือนจะเปิดช่อง…นำทาง โดยไม่คิดจะห้ามปราบ ประหนึ่งยุส่ง…หากทหาร (กองทัพ) อยากจะปฏิวัติก็ทำไป…

ไม่เพียง…จะขัดกับ หลักการของการนัดชุมนุมเพื่อ “ขับไล่ – นายกฯแพทองธาร” ที่กำหนดเอาไว้เสียสวยหรู นั่นคือ การ “ปกป้องอธิปไตยของชาติ”

เพราะหาก “กองทัพ” ทำการรัฐประหารจริง ยังจะเรียกว่า…เป็นการ “ปกป้องอธิปไตยของชาติ” กันอีกหรือ?

การที่ นายจตุพร ออกมาปราศรัยเป็นคนสุดท้าย แล้ว “หักล้าง” คำพูดของ นายสนธิ จึงดูเหมือนจะทำได้ไม่เนียนสักเท่าใด? เนื่องเพราะ…เครดิตที่ อดีตแกนนำคนเสื้อเหลือง มี มันเหนือกว่า…อดีตแกนนำคนเสื้อแดง มากนัก จนเทียบกันไม่ได้!

ก็ไม่น่าแปลกใจ! ที่เหตุใด? พรรคประชาชน จึงได้ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กประณาม แกนนำ “คณะรวมพลังแผ่นดิน” บางคน? ที่ได้กล่าวปราศรัยด้วยเนื้อหาที่เป็นการ…เปิดทางให้กับการรัฐประหาร รวมถึงมีการปลุกปั่นกระแสชาตินิยมที่เกินเลยขอบเขต

พรรคประชาชนขอประณามการสร้างความชอบธรรมให้กับการรัฐประหาร ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและระบอบประชาธิปไตยอย่างร้ายแรง

ก่อนที่ พรรคประชาชน จะย้ำว่า…วันนี้ เราต้องไม่ยินยอมให้ใครฉวยโอกาสเอาความผิดพลาดล้มเหลวของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล มาเปิดทางให้กับการรัฐประหาร หรือการแก้ปัญหาการเมืองด้วยวิถีทางที่ขัดต่อประชาธิปไตยอีก ซึ่งมีแต่จะก่อวิกฤตซ้ำซ้อนทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น

ขอยืนยันว่า ทางออกจากวิกฤตการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ที่ดีที่สุด คือหนทางปกติตามระบบรัฐสภา นั่นคือการยุบสภา เลือกตั้งใหม่ คืนอำนาจให้แก่ประชาชน เพื่อให้อำนาจสูงสุดของประเทศเป็นผู้กำหนดอนาคตของบ้านเมืองด้วยตนเองว่าต้องการผู้นำและรัฐบาลใหม่แบบไหน

สำหรับ พรรคประชาชน นั้น เพิ่งจะได้รับการสำรวจ โดย “โพลล์” ของ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ที่ระบุเมื่อช่วงสายวันนี้ (29 มิ.ย.) ว่า…จากผลการสำรวจคะแนนนิยมทางการเมืองรายไตรมาส ครั้งที่ 2-2568 ระหว่าง 19-25 มิ.ย. กับกลุ่มตัวอย่าง อายุ 18 ปีขึ้นไป 2,500 คน จากทั่วประเทศ ชี้ชัดว่า…

บุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี คือ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ด้วยคะแนน 31.48% ทิ้งห่างอันดับ 2 ที่ยังหาตัวคนไม่ได้ แต่ได้คะแนน 19.88 % โดยมี “ลุงตู่” พล.อ.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตามมาเป็นอันดับ 3 กับคะแนน 12.72%

ยิ่งทำให้ น้ำหนักของการออกมาประณามแกนนำของ “คณะรวมพลังแผ่นดิน” บางคน? ซึ่งถึงตรงนี้ คงรู้กันแล้วว่าเป็นใคร? ดูมีพลังมากยิ่งขึ้นไปอีก!!!

และไม่ว่าเขาคนนั้น? จะพูดโดยไม่ยั้งคิด พูดเอามันส์ เพราะปากพาไป หรือเพราะมี “นัยสำคัญ” แฝงเร้น

ทว่า การพูดในลักษณะ…เปิดทางให้ “กองทัพ” ออกมายึดอำนาจ ย่อมไม่ส่งผลดีใดๆ ต่อประเทศไทย ทั้งในมุมของภาพลักษณ์ มุมของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รวมถึงผลกระทบที่จะมีตามมา ไม่ว่าจะด้านความร่วมมือใดๆ จากนานาอารยประเทศ ด้านการท่องเที่ยว รวมถึงผลกระทบที่จะมีต่อภาคการส่งออก ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมไทย

ตัวอย่างที่เห็นชัด คือ ยุคของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะแม้ในเวลาต่อมา ประเทศไทยจะได้ “รัฐบาลลุงตู่ 2” ที่ผ่านเวทีการเลือกตั้ง ตามแนวทางระบอบประชาธิปไตย แต่ ชาติตะวันตก ไม่ว่าจะเป็น…สหรัฐอเมริกา กลุ่มอียู และอีกหลายๆ ประเทศ ต่างยังจะ “ระงับ…ยับยั้ง” ที่จะเชื่อมต่อความสัมพันธ์อันดี และให้การช่วยเหลือใดๆ ต่อประเทศไทย ต่อไป

เพียงเพราะ…“นายกฯลุงตู่” คือ คนๆ เดียวกับที่ได้ทำ “รัฐประหาร” เมื่อ 22 พ.ค.2557

นี่คือเหตุผลที่ว่า…ทำไม? คนไทยส่วนใหญ่ จะต้องต่อต้านการทำ “รัฐประหาร” ตามหมายเชิญที่ แกนนำของ “คณะรวมพลังแผ่นดิน” บางคน? ส่งตรงถึง “กองทัพ”

นับเป็นความโชคดีของประเทศไทยและคนไทย ที่ “ผู้นำกองทัพ” และ “กองทัพบก” ไม่ได้ “บ้าจี้” ตามคำเชิญสั่วๆ ข้างต้น ด้วยเพราะ ทหารไทยวันนี้…ยังคงยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย

หาไม่แล้ว…สิ่งที่ “กองทัพไทย” และประชาชนคนไทย ได้ร่วมกันต่อสู้กับ นายฮุน เซน และรัฐบาลกัมพูชา มาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา จะกลายเป็นการ “เข้าทาง” ของ “ศัตรูแผ่นดินไทย” ในทันที!

เพราะ ประเทศไทย…ภายหลังการทำ “รัฐประหาร” จะไร้ซึ่ง “พันธมิตร” จากนานาอารยประเทศ ที่เคยสนับสนุนประเทศไทย

ดีสุดก็แค่เฉยๆ แต่หากร้ายกว่านั้น อาจหันไปเข้าข้าง นายฮุน เซน และรัฐบาลกัมพูชา เพื่อมาถล่มประเทศไทย ก็อาจเป็นไปได้

รู้อย่างนี้แล้ว…คนไทย และ “คณะรวมพลังแผ่นดิน” ก็ต้องสกัดกั้น อย่าให้ แกนนำของ “คณะรวมพลังแผ่นดิน” บางคน? ที่ว่านี้ ได้มีที่ยืนกันอีกเลย!!!

ประเทศไทยในวันนี้และพรุ่งนี้…ไม่พร้อมจะเป็น “รัฐล้มเหลว” ภายใต้เงาบูธของทหาร อีกแล้ว!!!.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password