ปล่อยผ่าน ‘ร่าง กม.งบฯปี 2569’ – รอ ‘ล้มรัฐบาล’ เมื่อถึงครา…พิจารณา ร่าง กม.คาสิโน!

เกมใช้เสียงโหวตใน “สภาผู้แทนราษฎร” ล่มกฎหมายการเงิน หวังใช้เป็นเงื่อนไขตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ เพื่อ “ล้มรัฐบาล” มีอยู่จริง!

ฝ่ายจ้องที่ “ล้มรัฐบาล” ใจจดจ่อที่จะทำเช่นนี้ เพียงแต่ยังไม่ถึงเวลา และไม่ใช่คราที่จะได้เปิดสภาฯรอบใหม่ เพื่อพิจารณา ร่าง พ.ร.บ. ประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 วาระที่ 1 ระหว่างวันที่ 28-30 พ.ค.2568 อย่างแน่นอน

ร่าง พ.ร.บ. ประมาณรายจ่ายประจำปีฯ ถือเป็นอีกหนึ่ง “กฎหมายการเงิน” ที่หากผลโหวตสนับสนุนที่มีออกมา แล้วปรากฏว่า…ไม่ผ่านการประชุมสภาผู้แทนราษฎร

ผลที่จะเกิดขึ้นตามมาคือ รัฐบาลต้องมีอันเป็นไป!!!

นับแต่อดีต…ไม่มีพรรคร่วมรัฐบาลหน้าไหน? กล้าโหวตสวนมติ “พรรคร่วมรัฐบาล” เพื่อไม่ให้ ร่าง พรบ.ประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณนั้นๆ ได้ผ่านสภาฯ เพราะมันไม่ใช่แค่…รัฐบาล หรือแกนนำพรรครัฐบาล เท่านั้นที่เสียหาย หากแต่ทุกพรรคร่วมรัฐบาล ก็เสียหายไม่ต่างกัน

อย่าลืมว่า…เครื่องมือสำคัญในการบริหารประเทศ และใช้ขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ของรัฐบาล ซึ่งก็มาจากนโยบายของทุกพรรคร่วมรัฐบาลนั่นแหล่ะ ก็คือ งบประมาณรายจ่ายฯ นั่นเอง

หาก สภาฯพิจารณาแล้วไม่ให้ผ่าน ร่าง พ.ร.บ.ประมาณรายจ่ายประจำปีนั้นๆ ทุกพรรคร่วมรัฐบาล ก็จะโดนตำหนิจากคลื่นมหาชน และทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจในการบริหารประเทศ นับแต่นี้…สืบต่อไปในภายภาคหน้า

พูดง่ายๆ อุตส่าห์ให้เป็น “รัฐบาล” แล้ว ดันเสือกทะเลาะเบาะแว้งกันเสียจน งานเพื่อชาติบ้านเมืองฉิบหายวายป่วง…อย่างนี้ คราวหน้า ก็อย่าสะเออะ…เสนอหน้า ขันอาสามาเป็นรัฐบาลอีกเลย

ถามว่า…สถานการณ์ในทางการเมืองวันนี้ มีปัญหากระทบกระทั่งอย่างรุนแรงระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ถึงขั้นจะอยู่ร่วม “รัฐนาวา” กันไม่ได้…กระนั้นหรือ?

คำตอบคือ…จริง! โดยเฉพาะปัญหาลึกๆ ระหว่าง 2 แกนนำพรรคร่วมรัฐบาล เช่น…พรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย

กับความระหองระแหงต่อแนวคิดและแนวนโยบายที่แตกต่างกัน! จุดเริ่มแรกเกิดขึ้น นับแต่…นโยบายกัญชาเสรี กับคาสิโนถูกกฎหมาย แต่นั่น…2 พรรคใหญ่ ก็สามารถจะบริหารความต่างในแบบ “แสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง” จนแทบไม่เกิดปัญหาใดๆ

แต่ที่ดูจะกลายเป็น เงื่อนไขสุดโหด ชนิดอยู่ร่วมโลก (การเมือง) ไม่ได้อีกต่อไป ก็คือ…ปมที่อีกฝ่ายเชื่อว่า พรรคการเมืองอีกฝั่ง หนุนหลังให้ “ดีเอสไอ” เดินเกมลึกไล่ล่า…ปรากฏการณ์ “ฮั้ว สว.” ซึ่งสังคมไทยในยามนี้ เชื่อตรงกันว่า…

เป็น “สว.สีน้ำเงิน” ที่พร้อมจะทำทุกสิ่งอย่างเพื่อให้พรรคการเมืองที่ว่านี้ ได้รับประโยชน์จากการมีตัวตนของ สว.กลุ่มใหญ่สายนี้

สิทธิ์ในการเลือกกรรมการในองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ที่จะมีขึ้นตามมาจากนี้…ในหลายๆ องค์กรฯ คือ จุดเด่นที่อีกฝั่งต้องการจะดับ! เพราะขืนปล่อยให้สิ่งนี้เกิดขึ้นแล้วล่ะก็ ทุกพรรคการเมือง…ที่ไม่ยอมศิโรราบให้กับพรรคต้นทางของ “สว.สีน้ำเงิน”

ก็ต้องบอกว่า…อยู่ยาก!!! ไม่เว้นแม้แต่…พรรคเพื่อไทย ที่กำลังมีปัญหาเรื่อง ชั้น 14 กับ “ทักษิณ ชินวัตร” รวมถึงอีกหลายๆ เคสท์ที่จะมีตามกันมา

ปรากฏการณ์ ล้ม “สว.สายสีน้ำเงิน จึงมีให้เห็นและกำลังถูกจับตามองกันว่า มันจะไปถึงที่สุดได้แค่ไหน?

ระหว่างนี้…อีกฝั่ง จึงต้องเล่นเกม “เปลี่ยนรัฐบาล” “เปลี่ยนตัวนายกฯ” ถึงขั้น…ล้มกฎหมายการเงิน เพื่อล้มรัฐบาล เพียงแต่…ยังไม่ใช่ ร่าง พ.ร.บ.ประมาณรายจ่ายประจำปีฯ ด้วยเหตุผลข้างต้น

จุดตาย! ที่จะใช้ คว่ำกฎหมายการเงิน ก็คือ การพิจารณา ร่าง พ.ร.บ. การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. …. (ร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจรฯ) หรือโฟกัสให้ชัดๆ ก็คือ ร่างกฎหมายคาสิโน นั่นเอง

มีแนวโน้มสูงมากที่ พรรคฯ ซึ่งกำลังถูก “สกัดแสง” จากการที่ ดีเอสไอ เดินเกมแรง…ตรวจสอบคดี “ฮั้ว สว.” จะอาศัยการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจรฯ ล้มรัฐบาล!!!

แต่จะไม่ใช่…การพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.ประมาณรายจ่ายประจำปีฯ จึงไม่น่าแปลกใจที่ นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) จะออกมาให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว เมื่อวันนี้ (24 พ.ค.2568) ในทำนอง เกมการเมืองต่อเนื่องจากสงครามแดง-น้ำเงิน จะไม่มีการโหวตคว่ำกฎหมายการเงินตัวนี้อย่างแน่นอน

“…ไม่จริง! การประชุมวิปฯ ที่ผ่านมา ทุกคนก็ให้ความร่วมมือกันดี มั่นใจว่า ทุกพรรคโหวตรับร่างแน่นอน เพราะงบประมาณเป็นเรื่องสำคัญของประเทศชาติ เชื่อมั่นว่า พรรคร่วมรัฐบาลทุกคน มองเห็นความสำคัญเรื่องนี้ ส่วนประเด็นอื่นเป็นเรื่องเล็ก ติดใจสงสัยอะไรก็ไปว่ากัน แต่ประเทศกำลังมีปัญหาเศรษฐกิจเยอะ ทั้งเรื่องแผ่นดินไหวและภาษีทรัมป์ เพราะฉะนั้น ต้องใช้งบประมาณในการแก้ไขปัญหา เชื่อว่านักการเมืองทุกคนเข้าใจเรื่องนี้ดี ใครจะมายุให้ทะเลาะเบาะแว้ง ก็ไม่มีปัญหา

ข้างต้นคือ…คำตอบจากปากของ ประธานวิปรัฐบาล

ส่วนที่หลายฝ่าย โดยเฉพาะ ฝ่ายค้าน (นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคประชาชน) แสดงความกังวลใจว่า…รัฐบาลอาจทำการซุกงบเพื่อนำไปแจกหัวคะแนนเพื่อเตรียมเลือกตั้ง นั้น นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ไม่มี เป็นข่าวลือ มีคนเห็นบ้านเมืองเป็นอย่างนี้ ก็พยายามยุให้ตีกัน แต่ไม่มีใครตีกัน ท่ามกลางวิกฤติบ้านเมืองหรอก

“ไม่ว่าพรรคไหน กระทรวงหรือกรมไหน คนที่จะได้เป็นกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณา พ.ร.บ.งบฯ ต้องช่วยกันตรวจสอบ เดี๋ยวนี้เราก็ไม่มั่นใจหรอกว่า หน่วยราชการอาจจะซุกอะไรไว้ เราก็ต้องช่วยกันดูแล อย่าไปดูเรื่องพรรคเลย เอาชาติบ้านเมืองให้รอดก่อน ทุกคนต้องร่วมมือกันตรวจสอบการเสนองบ อันไหนจําเป็นก็ทำ อันไหนไม่จำเป็นก็ต้องตัดออกไป

ก่อนที่ นายวิสุทธิ์ จะย้ำทิ้งท้ายว่า…เชื่อว่าทุกพรรคมองประโยชน์ของประเทศชาติบ้านเมือง กว่าเรื่องส่วนตัวและเรื่องในพรรค”

ถึงนาทีนี้ สังคมไทยมั่นใจได้เลยว่า…เกมการเมืองระหว่าง 2 สี จะไม่ส่งผลต่อการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.ประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 อย่างแน่นอน

แต่ ร่างกฎหมายการเงินอื่นๆ โดยเฉพาะ ร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจรฯ หรือ กฎหมายคาสิโน นั่น

น่าสนใจว่า…จะเป็น จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงในทางการเมือง ระดับใด?.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password