รวมหัวสู้ ‘ปธน.ทรัมป์’ – ฝั่งไทย…ต้องระดับ ‘ทักษิณ’ ถึงคุย ‘พญามังกร’ รู้เรื่อง!
รัฐบาลจีน ส่ง นายหลิว จงอี้ รมช.กระทรวงความมั่นคงสาธารณะแห่งจีน มาประสานงาน ชนิดเกาะติด! เพื่อดึงให้ฝ่ายไทย เร่งจัดการแก๊งผิดกฎหมาย ทั้งที่เป็น “36 จีนเทา” ในประเทศเพื่อนบ้านและในไทยเอง รวมถึงพวก “ไทยเทา” ทั้งในพื้นที่และที่ประจำอยู่ในส่วนกลาง
หนึ่งในมาตรการของทางการไทย ที่ “คอการเมืองระหว่างประเทศ” เห็นต่างก็ขำกลิ้ง! คือ การย้ายเอาผู้เกี่ยวข้อง ไม่ว่าเป็น…ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ฯลฯ ออกไป แล้วตั้งกรรมการสอบสวน เพื่อยื้อเวลา…สุดท้ายเรื่องเงียบ!
ขำกลิ้งยิ่งกว่า…กับเรื่อง “ตัด-ไม่ตัดไฟฟ้า” ในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับการพนันผิดกฎหมาย แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และขบวนการค้ามนุษย์ อย่าง เมืองชเวโก๊กโก่ ประเทศเมียนมา ล่าสุด “รองนายกฯและรมว.กลาโหม” นายภูมิธรรม เวชชัย บอกเอง…ถ้าจะตัดขอ “ตัดครึ่งหนึ่ง” เอาแค่ให้กระแสไฟฟ้าตก แค่นั้นพอ…
เทียบไม่ได้กับกรณีชาวบ้านค้างค่าไฟแค่เดือนเศษ กับมูลหนี้ไม่กี่ร้อยบาท การไฟฟ้าฯ ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ก็ตัดไฟฟ้าเสียแล้ว
ให้มันได้อย่างนี้สิ (ว่ะ!)
ฟัง นายกรัฐมนตรีหญิงลำดับที่ 2 อย่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พูดถึงเรื่องนี้ ทำนอง…ได้มีข้อสั่งการไปแล้ว หาก สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พบข้อมูลการกระทำผิดของขบวนการที่ว่านี้ ให้ นายภูมิธรรม ในฐานะรองนายกฯด้านความมั่นคง ทำการตัดน้ำตัดไฟ โดยคำนึงถึงประโยชน์ และความปลอดภัยของคนไทย รวมถึงผลกระทบที่ประเทศไทยจะได้รับตามมา
สั่ง…เหมือนไม่สั่ง!!!
อีกด้านหนึ่ง ดูเหมือน “พยัคฆ์ติดปีก” อย่าง…นายทักษิณ ชินวัตร “ที่ปรึกษาส่วนตัวประธานอาเซียน” ที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางออกนอกราชอาณาจักร ตามคำร้องขอ ระหว่างการปล่อยตัวชั่วคราว ในคดีความผิดกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ก็เพิ่งเสร็จสิ้นการประชุมร่วมกับ นายอัลวาร์ อิบราฮิบ นายกฯมาเลเซีย ในฐานะ “ประธานอาเซียนคนใหม่” ระหว่างวันที่ 2-3 ก.พ.ที่ผ่านมา
ลูกสาว…อย่าง นายกฯแพทองธาร ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว หลังจากเธอโทรศัพท์พูดคุยกับผู้เป็นพ่อ ถึงการหารือร่วมกับ นายอัลวาร์ สรุปสั้นๆ ก็คือ…โฟกัสเรื่องเมียนมาเป็นหลัก ในฐานะ “ประธานอาเซียนคนใหม่” เลี่ยงไม่ได้ที่จะแก้ปมปัญหานี้ เพราะมันเกี่ยวโยงและส่งผลกระทบไปยังหลายประเทศ ไม่เฉพาะไทยที่มีพรมแดนติดกันเท่านั้น
หากอาเซียนในยุคที่ นายอัลวาร์ เป็น “ประธานอาเซียน” และมี นายทักษิณ เป็น “ที่ปรึกษาส่วนตัวประธานอาเซียน” สามารถแก้ไขปัญหาเมียนมาได้ เรื่องอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น…การขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 และอีกสารพัด ก็คงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
เรื่องที่ นายกฯแพทองธาร ไม่พูด แต่หลายฝ่ายเชื่อว่า…ในการหารือระหว่าง นายทักษิณ และนายอัลวาร์ ก็น่าจะมีการพูดคุยกันบ้าง ซึ่งคงไม่พ้น…ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ การค้ามนุษย์ ปัญหายาเสพติด ฯลฯ เหล่านี้…ล้วนเป็นปัญหาในเมียนมา แต่ส่งผลกระทบวงกว้างไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะไทย…ที่รับกันไปเต็มๆ
นายทักษิณ ไม่เพียงมีบทบาทในฐานะ “ที่ปรึกษาส่วนตัวประธานอาเซียน” แต่ยังมีสถานะความเป็น “พ่อของนายกฯแพทองธาร” ที่ก็ควรจะเร่งแก้ไขปัญหาจากฝั่งเมียนมา เพื่อลดปัญหาและผลกระทบต่อคนไทยและประเทศไทยด้วยเร็ว
ฟากของ นายกฯแพทองธาร เอง ก็มีโปรแกรมจะเดินทางไปเยือน สาธารณรัฐประชาชนจีน เข้าคารวะและหารือกับ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ระหว่างวันที่ 5-8 ก.พ.นี้เช่นกัน
ไปจีนรอบนี้…ไม่เฉพาะเตรียมการเฉลิมฉลอง ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันครบรอบปีที่ 50 แต่น่าจะมีเรื่องการเมืองระหว่างประเทศ เศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน การท่องเที่ยว เทคโนโลยี โดยเฉพาะเรื่องที่หลายประเทศกำลังได้รับผลกระทบจากการเข้าตำแหน่ง ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของ นายโดนัลด์ ทรัมป์…
สิ่งที่ ปธน.ทรัมป์ ทำกับชาวโลกนั้น หลายคนก็อดอิดไม่ได้ว่า…หากวันใด บรรดาประเทศที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายของ ปธน.ทรัมป์ ไม่ว่าจะเป็น…จีน รัสเซีย แคนนาดา แม็กซิโก ชาติอาหรับ แม้กระทั่ง ไทย เอง รวมหัวกันคว่ำบาตรสหรัฐฯ เช่น…
ผนึกรวมกลุ่มใน BRICS ผสานกับ ชาติอาหรับ และกลุ่มอียู รวมถึง 2 ประเทศในทวีปอเมริกาเหนือ สร้างกติโลกขึ้นมาใหม่ เลิกใช้เงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ ที่เคยเป็นเงินสกุลหลักของการซื้อขายน้ำมันดิบจากชาติอาหรับ หรือที่เรียกว่า “เปรโตรดอลลาร์” ล่ะก็
เงินดอลลาร์ที่ไม่มีทองคำค้ำประกัน เหมือนการปั้มเงินสกุลต่างๆ ทั่วโลก จะมีค่าและราคาเพียงแต่กระดาษธรรมดา
และหากชาติเหล่านี้ เลิกทำมาค้าขายกับสหรัฐฯ ต่อให้ยกเลิกชั่วคราว เอาเฉพาะแค่ยุคของ ปธน.ทรัมป์ เพียงแค่ 4 ปี
แต่ทุกอย่างมันจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
ว่าแต่เรื่องพรรค์นี้ คนระดับ นายกฯแพทองธาร อาจไม่กล้าสื่อสารกับ พญามังกร “สี จิ้นผิง” แน่!
หรือจะรอให้ “สทร. – ทักษิณ” พูดคุยแทน ในวันที่ ปธน.สี จิ้นผิง เดินทางมาเยือนไทยบ้าง…ก็น่าจะดีเหมือนกัน!!!