ป.ป.ช.พร้อมสอบ ‘หวานใจบิ๊กการเมือง’/ กมธ.ที่ดินฯนัดลงพื้นที่ ไร่ภูนับดาว 13 ธ.ค.นี้
ป.ป.ช.พร้อมสอบ ‘หวานใจบิ๊ก’ หากอยู่ในอำนาจ! ขณะ กมธ.ที่ดิน ลุยตรวจ “ไร่ภูนับดาว” 13 ธ.ค.นี้ ยันไม่เกี่ยวประเด็นการเมืองโยงสาวคนสนิทบิ๊กเนมนักการเมือง ขอตรวจสอบการทำงานเฉพาะหน่วยงานรัฐว่าทำถูกต้องหรือไม่ ชี้มีปัญหาเรื่องที่ดินนับแสนไร่
วันที่ 5 ธ.ค.2567 นายวิทยา อาคมพิทักษ์ รักษาการประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าคดีไร่ภูนับดาว ที่อาจจะมีข้าราชการเข้าไปเกี่ยวข้อง ซึ่งล่าสุดเห็นว่ามีการส่งเรื่องมาที่ ป.ป.ช.ว่า ตอนนี้ยังไม่ได้ทราบรายงาน อยู่ในขั้นตอนของเจ้าหน้าที่ ที่ตรวจสอบเบื้องต้น
เมื่อถามอีกว่า จะเร่งตรวจสอบหรือไม่ เพราะมีกระแสว่า มีหวานใจของอดีตบิ๊กการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง นายวิทยา กล่าวว่า ต้องไปดูว่า ในส่วนของผู้ที่เกี่ยวข้อง เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือไม่ ถ้าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ และอยู่ในอำนาจของ ป.ป.ช. ก็ตรวจสอบไปตามหน้าที่
ด้านนายพูนศักดิ์ จันทร์จำปี สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ที่ประชุมกมธ.ฯ มีมติให้ลงพื้นที่ ตรวจสอบถึงประเด็นปัญหารีสอร์ท “ไร่ภูนับดาว”ในวันที่ 13 ธ.ค. โดยจะลงพื้นที่ตรวจสอบในช่วงเช้า ต่อมาช่วงบ่ายวันเดียวกัน จะประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร (ส.ป.ก.) ส่วนกลาง และกรมป่าไม้ เข้าร่วมประชุมด้วย ซึ่งขณะนี้กำลังดูสถานที่ระหว่างศาลากลางจังหวัด หรือที่ว่าการอำเภอมวกเหล็ก จ.สระบุรี
โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อจะดำเนินการสอบข้อเท็จจริง ในการใช้เอกสารสิทธิ์ของ สปก. ว่าดำนเนินการโดยชอบหรือไม่ โดยย้ำว่าไม่ได้มองเป็นประเด็นทางการเมือง แต่เป็นการตรวจสอบการดำเนินงานของภาครัฐ โดยเฉพาะการแจกจ่ายที่ดิน ส.ป.ก.และ การดำเนินการใช้สิทธิ์ของผู้ที่ไดัรับที่ดิน ซึ่งถือเป็นปัญหาหลักของประเทศ ทางกมธ.ฯ ประเมินแล้วว่ามีที่ดินหลายแสนไร่ ที่มีปัญหาในเรื่องสิทธิ์ เพราะปัจจุบันทั่วประเทศไทยมีปัญหาเรืองที่ดิน ทั้งเอกสารสิทธิ์ ที่ดินของประชาชนถูกริดรอน หลังจากการประกาศเขตป่าอุทยาน จนไปทับที่ทำกินของประชาชน ที่อยู่มานาน แต่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ รวมถึงการแจกจ่ายสิทธิ์อาจจะให้กับคนที่ไม่มีคุณสมบัติ หรือมีคุณสมบัติแต่ถ่ายโอนให้บุคคลอื่น ที่ไม่ใช่ทายาทตามกฎหมาย หรือประกอบกิจการที่ไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นประเด็นปัญหา ที่ กมธ.ฯจะต้องสรุป และทำเป็นนโยบายเพื่อเสนอให้รัฐบาลแก้ไขในรัฐบาลต่อไป
“เคสไร่ภูนับดาว เรามองว่าเป็นเคสหนึ่งในจำนวนหลายเคสที่เกิดขึ้น จึงถือโอกาสทำการตรวจสอบการใช้ประโยชน์ที่ดินร่วมกัน”นายพูนศักดิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นไปได้หรือที่จะไม่มีการเมืองแทรกแซง เพราะมีข่าวของหวานใจนักการเมือง เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับที่ดินดังกล่าว นายพูนศักดิ์ กล่าวว่า ยืนยันว่าการลงพื้นที่ครั้งนี้ของกมธ.ฯ ไม่ได้ดูว่าการเมืองทำให้มีประเด็นนี้เกิดขึ้นหรือไม่ แต่เป็นการตรวจสอบการดำเนินงานของภาครัฐ ว่ามีประเด็นใดบ้างที่ทำโดยมิชอบ ส่วนเส้นทางการเงิน 10 ล้านบาทนั้น คิดว่าเกินขอบเขตการทำงานของ กมธ.ที่ดิน แต่ควรจะเป็นคณะกรรมาธิการอื่น เข้ามาตรวจสอบมากกว่า.