‘ไร่ภูนับดาว’ ออกแถลงการณ์ยัน ไม่เกี่ยวข้องหวานใจอดีตรองนายกฯ ตั้งบนที่ดิน ส.ป.ก.ถูกต้อง
ไร่ภูนับดาว แถลงการณ์ยันไม่ใช่รีสอร์ต ไม่เกี่ยวข้องกับหวานใจอดีตรองนายกฯ ตั้งบนที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 ถูกต้อง จัดตั้งเป็นศูนย์การเรียนรู้ฯ เพื่อกิจการโคนม ด้านชาวเน็ตแห่ถามถึงคาเฟ่และลานกางเต็นท์
จากกรณีเมื่อช่วงเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานนำกำลังเข้าไปตรวจค้น คาเฟ่รีสอร์ทหรูที่ชื่อ “ไร่ภูนับดาว” จ.สระบุรี หลังพบมีการรุกที่ดิน ส.ป.ก. และมีคำสั่งให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างภายใน 30 วัน แต่ปรากฏว่าจากนั้นปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรีทำเรื่องขอย้ายและเมื่อมีปฏิรูปที่ดินคนใหม่เข้ามารับตำแหน่งแทนกลับทำหนังสือสัญญาเช่าที่ดินให้กับเอกชนรายดังกล่าวตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
วันที่ 4 ธ.ค.2567 เพจ “ไร่ภูนับดาว Phu Nub Dao Cafe’&Farm”ได้โพสต์ออกแถลงการณ์ระบุข้อความว่า“ตามที่มีการเผยแพร่ข่าวเกี่ยวกับศูนย์การเรียนรู้เกษตรกรรม นวัตกรรมยั่งยืน ไร่ภูนับดาวและหวานใจของอดีตรองนายกรัฐมนตรี และเส้นเงินกว่า 1,000 ล้านบาท เอี่ยวไร่ภูนับดาวนั้น ศูนย์การเรียนรู้เกษตรกรรม นวัตกรรมยั่งยืน ไร่ภูนับดาว ขอชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้
1.ที่ตั้งของศูนย์การเรียนรู้เกษตรกรรม นวัตกรรมยั่งยืน ไร่ภูนับดาว นั้น ตั้งอยู่บนเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก. 4-01 ที่ถูกต้องตามกฎหมาย และผู้ใช้ประโยชน์ในที่ดิน ล้วนเป็นเกษตรกรทั้งสิ้น
2.ไร่ภูนับดาว ได้ดำเนินการขออนุญาตเพื่อใช้ที่ดิน ในกิจการที่เกี่ยวเนื่องเกษตรกรรมตามกรอบของกฎหมาย โดยมีการขออนุญาตจัดตั้งเป็นศูนย์การเรียนรู้เกษตรกรรม นวัตกรรมยั่งยืน ไร่ภูนับดาว และได้รับอนุญาตพร้อมทำสัญญาเช่ากับสำนักงานปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.) จังหวัดสระบุรี ถูกต้องตามกฎหมาย ณ วันที่ 11 กันยายน 2567 เนื้อที่ 3 ไร่เศษ โดยไดรับสิทธิ์การเช่าเป็นเกษตรกร
3.ไร่ภูนับดาว เป็นฟาร์มโคนมของเกษตรกร มีแม่โคมากกว่า 400 แม่ และสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ ตลอดจนสวนผลไม้เพื่อแปรรูป
4.ไร่ภูนับดาวไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ นางสาว ช. หวานใจของอดีตรองนายกรัฐมนตรี และไม่มีบุคคลใดรู้จักกับ นางสาว ช. และไม่มีเส้นทางการเงินใดที่เกี่ยวข้อง ตามที่ปรากฎเป็นข่าวใด ๆ เลย
5.การจัดทำพื้นที่ให้สวยงามก็เพื่อจะดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเชิงเกษตรมาซื้อผลิตภัณฑ์แปรรูปจากนมวัวและผลไม้ทางไร่
6.ไร่ภูนับดาวได้จัดทำเป็นศูนย์การเรียนรู้ เกษตรกรรม นวัตกรรมยั่งยืน เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับเกษตรกรและประชาชนทั่วไป ได้เรียนรู้อาชีพการเลี้ยงโคนม และการแปรรูปจากนมวัว เพื่อเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับน้ำนมดิบ ซึ่งชาวมวกเหล็กยึดถือเป็นอาชีพการเลี้ยงโคนม จากรุ่นพ่อแม่ สู่รุ่นลูกหลาน เพราะการเลี้ยงโคนมเพื่อหวังน้ำนมดิบอย่างเดียว ทำให้เกษตรกรมีภาระหนี้สินล้นพ้นตัว ทำให้ต้องขายฟาร์ม และเลิกการเลี้ยงโคนมเป็นอาชีพในที่สุด
ศูนย์การเรียนรู้เกษตรกรรม นวัตกรรมยั่งยืน ไร่ภูนับดาว ยืนหยัดที่จะสืบสาน ต่อยอด อาชีพการเลี้ยงโคนม ซึ่งกำลังจะสูญหายจากประเทศไทย ให้เป็นอาชีพที่น่าภูมิใจของเกษตรกรไทยต่อไปชั่วลูกสืบหลาน
ศูนย์การเรียนรู้ฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญากับผู้ที่ไม่หวังดี นับภาพหรือข้อมูลอันไม่เป็นความจริงไปตัดต่อ อาทิ การนำภาพของรีสอร์ตที่อื่น มากล่าวรวมกับไร่ภูนับดาว เพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่า ไร่ภูนับดาวเป็นรีสอร์ต ทำให้เกิดความเสียหายกับศูนย์การเรียนรู้ เกษตรกรรมยั่งยืน ไร่ภูนับดาว และก่อให้เกิดผลกระทบกับรายได้ที่จะนำมาเลี้ยงโคนม และพนักงาน ตลอดจนค่าใช้จ่ายต่าง ๆ อาทิ อาหารสัตว์ และปุ๋ย.