ธปท.ตอบปมนายกฯ จี้ลดดอกเบี้ย ชี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ป้อง กนง.ไม่มีใครผิดหรือถูก 100%
“ปิติ ดิษยทัต”ตอบข้อข้องใจกรณี นายกฯต้องการให้ กนง.ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ถือเป็นมุมมองที่มีเหตุผล และ มีกก.2รายเห็นด้วย แต่เสียงส่วนใหญ่เห็นต่าง ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ไม่มีใครผิดหรือถูก100%
เมื่อวันที่ 10 เมษายน ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นายปิติ ดิษยทัต เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เผิดเผยกรณีที่นายกรัฐมนตรีเรียกร้องให้ ธปท. ลดอัตราดอกเบี้ยลงนั้น ถือเป็นมุมมองที่มีเหตุมีผล เช่น คณะกรรมการ 2 ท่าน มองว่าควรจะลดอัตราดอกเบี้ยลงในรอบนี้จะเรียนว่าไม่ได้มีความถูกต้องเป๊ะๆ ในการตัดสิน ณ ตอนนี้ เพราะสิ่งที่คุยกันการปรับอัตราดอกเบี้ย หากปรับก็ปรับนิดเดียวเพื่อให้สอดคล้องกับโครงสร้างเศรษฐกิจ
“ความเป๊ะการตัดสินวันนี้ขึ้นอยู่กับการชั่งน้ำหนักซึ่งมีความละเอียดอ่อน เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่ต้องชั่งน้ำหนัก ทั้งปัจจัยระยะสั้น ระยะยาว ทั้งรายเล็ก รายใหญ่ เรื่องภาคต่างประเทศ และในประเทศ ขึ้นอยู่กับว่าเมื่อชั่งน้ำหนักแล้วมุมมองเป็นอย่างไร” นายปิติกล่าว
นายปิติกล่าวว่า การพิจารณาอัตราดอกเบี้ยในรอบนี้ กนง.ทุกท่าน มองภาพเศรษฐกิจคล้ายกัน เห็นพ้องต้องกันกับภาคเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ในประมาณการที่คาดการณ์ไว้ แต่สิ่งที่แตกต่างของกรรมการ 2 ท่าน ที่มองว่าการชั่งน้ำหนักในแง่ของการใช้เครื่องมือที่มีว่าจะช่วยบรรเทาภาระหนี้ได้มากในระดับหนึ่ง เรื่องของโครงสร้างเศรษฐกิจที่อาจจะต่ำกว่าที่เคยเป็นมา ก็เป็นไปได้ว่าดอกเบี้ยที่ต่ำลงในระดับหนึ่งก็เหมาะสมกว่า
“เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องของการชั่งน้ำหนัก เรียนว่าเรื่องนี้ไม่ได้มีใครผิดหรือถูก 100% แล้วโดยรวมคิดว่าในรอบถัดไปก็จะมีการชั่งน้ำหนักกันอีกทีจากข้อมูลใหม่ที่เข้ามาในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งคิดว่านายกรัฐมนตรีก็ช่างน้ำหนักในอีกแบบหนึ่ง”นายปิติกล่าว
ทั้งนี้ ผลการประชุม กนง.ในวันที่ 10 เมษายน 2567 ว่า กนง.มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.50% ต่อปี โดย 2 เสียง เห็นควรให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี โดยประเมินเศรษฐกิจไทยปี 2567 มีแนวโน้มขยายตัวในอัตราที่สูงขึ้นจากปีก่อน ประเมินการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ขยายตัวที่ 2.6% ปรับลดลงจากกรอบการประมาณเดิมที่ 2.5-3% และปี 2568 อยู่ที่ 3.0%.