ธนารักษ์เปิดเอกชนเช่าที่ดิน ผุดเขตเศรษฐกิจพิเศษที่มุกดาหาร-หนองคาย เผย! ได้ทีมบริหารท่าเรือสงขลาแล้ว
ยื้อมาเกือบ 10 ปี! ล่าสุด กรมธนารักษ์ ยุค “อธิบดีฯ จำเริญ โพธิยอด” ได้ฤกษ์คลอด “แผนเปิดประมูล” ที่ดิน ใน จ. มุกดาหาร และหนองคาย เกือบ 2 พันไร่ ให้เอกชนเช่ายาว 50 ปี ผุดเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน ตามแผนยุทธศาสตร์ของ คสช. เผย! ค่าเช่าต่อไร่แค่ปีละ 1,500 -1,800 บาท ปรับปรุงค่าเช่า 9% ทุก 3 ปี พ่วงกำหนดค่าธรรมเนียมการประมูล เริ่มเปิดประมูลแล้วจนถึง 23 มี.ค.นี้ ขณะเดียวกัน ยังลงนามสัญญาเช่าบริหารท่าเรือสงขลา กับกลุ่ม “เจ้าพระยาท่าเรือสากล” ที่ ครม.เห็นชอบแล้ว หวังเอกชนดันเศรษฐกิจในพื้นที่เติบโต เกิดการจ้างงาน การขนส่ง และระบบโลจิสติกส์
ต่อเนื่องจาก แผนยุทธศาสตร์สำคัญ 9 ด้าน ที่ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงเอาไว้ นับปี 2557 ที่ผ่านมา หวังให้ส่วนราชการได้ใช้เป็นหลักหรือแนวทางในการปฏิรูปและพัฒนาประเทศ เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน สอดรับกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี สร้างความเชื่อมโยงกับประเทศในภูมิภาค เพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม โดยผลักดันให้เกิดเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและกระจายความเจริญสู่ท้องถิ่นโดยเร็ว
อาศัยอำนาจตามความใน มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 ได้มีคำสั่ง หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 17/2558 สั่ง ณ วันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 เรื่อง การจัดหาที่ดินเพื่อใช้ประโยชน์ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษเพิกถอนที่ดินของรัฐประเภทอื่นให้ตกเป็นที่ราชพัสดุ ประกอบด้วย ตาก สระแก้ว ตราด มุกดาหาร และหนองคาย โดยมอบให้ กรมธนารักษ์ จัดให้หน่วยงานของรัฐใช้ประโยชน์ หรือจัดให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) หน่วยงานอื่นของรัฐ หรือเอกชนเช่า เพื่อใช้เป็นพื้นที่พัฒนา
ล่าสุด เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา กรมธนารักษ์ โดย นายจำเริญ โพธิยอด อธิบดีกรมธนารักษ์ ได้กำหนดแผนเปิดประมูล เพื่อสรรหาเอกชนเข้าร่วมลงทุนพัฒนาที่ดินราชพัสดุ จำนวน 2 พื้นที่ ได้แก่ เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษมุกดาหาร และหนองคาย ดังนี้
1. เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษมุกดาหาร บนที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ มห.511 และ มห.512 ตำบลคำอาฮวน อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร เนื้อที่ประมาณ 1,081-0-23.10 ไร่ กำหนดผลประโยชน์ ตอบแทนเป็นค่าเช่าในอัตราไร่ละ 1,800 บาท/ปี คิดเป็นค่าเช่าปีละ 1,945,904 บาท (ปรับปรุงค่าเช่าร้อยละ 9 ทุก 3 ปี) และกำหนดค่าธรรมเนียมการประมูล เป็นเงิน 32,431,733 บาท มีกำหนดระยะเวลาการเช่า 50 ปี
2. เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษหนองคาย บนที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ นค.1031 ตำบลสระใคร อำเภอสระใคร จังหวัดหนองคาย เนื้อที่ประมาณ 718-0-46 ไร่ กำหนดผลประโยชน์ ตอบแทนเป็นค่าเช่าในอัตรา ไร่ละ 2,100 บาท/ปี คิดเป็นค่าเช่าปีละ 1,508,042 บาท (ปรับปรุงค่าเช่า ร้อยละ 9 ทุก 3 ปี) และกำหนดค่าธรรมเนียมการประมูล เป็นเงิน 25,134,025 บาท มีกำหนดระยะเวลาการเช่า 50 ปี
คุณสมบัติของผู้เสนอการลงทุน : เป็น นิติบุคคลตามกฎหมายไทย ทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท กรณี กิจการร่วมค้า (Joint Venture) เป็นการร่วมของธุรกิจที่มีมูลค่าทุนจดทะเบียนรวมกัน ไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท และมีผลงานหรือประสบการณ์ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างใดอย่างหนึ่ง อย่างน้อย 1 โครงการ
ทั้งนี้ กำหนดระยะเวลาการขายเอกสารการลงทุน ระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 ถึงวันที่ 23 มีนาคม 2566 โดยติดต่อซื้อเอกสารการลงทุน ณ กองบริหารที่ราชพัสดุภูมิภาค กรมธนารักษ์ โทร. 0 2298 5363 และกำหนดให้ผู้ซื้อเอกสารการลงทุนยื่นซองเสนอโครงการลงทุน ณ กรมธนารักษ์ ในวันที่ 22 มิถุนายน 2566
“สำหรับเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตากจะเปิดประมูลอีกครั้ง เมื่อคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ (กพศ.) พิจารณาให้ความเห็นชอบในการเปิดประมูลเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตากอีกครั้ง หรือพิจารณาตามที่เห็นสมควร” อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวในตอนท้าย
วันเดียวกัน (3 มี.ค.) กรมธนารักษ์ ยังได้ลงนามสัญญาเช่าที่ราชพัสดุโครงการพัฒนาปรับปรุงท่าเรือสงขลา ร่วมกับบริษัท เจ้าพระยาท่าเรือสากล จำกัด เพื่อพัฒนาปรับปรุงท่าเรือสงขลาบนที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ สข.1029 และ สข.1030 ตำบลหัวเขา อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา เนื้อที่รวม 78 – 2 – 96.2 ไร่ ซึ่งท่าเรือสงขลา เป็นท่าเรือที่สำคัญของประเทศไทยและภาคใต้ เพื่อใช้ในการนำเข้าและส่งออกสินค้าในทางภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย รวมทั้งเป็นฐานในการขนส่งสินค้าทางน้ำที่สำคัญของกลุ่มจังหวัดภาคใต้ เพื่อนำเข้า-ส่งออก สินค้าภายในประเทศและต่างประเทศ
อีกทั้ง โครงการพัฒนาปรับปรุงท่าเรือสงขลาจะช่วยลดต้นทุนการขนส่งสินค้าของผู้ประกอบการและเพิ่มรายได้ และขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจได้มากขึ้น นอกจากผลดีในภาพรวมทางเศรษฐกิจของประเทศที่จะก่อให้เกิดการค้า การลงทุน และสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในจังหวัดสงขลาแล้ว ยังส่งผลดีต่อภาคการเกษตรกรรมอีกด้วย
อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า กรมธนารักษ์ได้ลงนามสัญญาเช่าที่ราชพัสดุโครงการพัฒนาปรับปรุงท่าเรือสงขลา ร่วมกับบริษัท เจ้าพระยาท่าเรือสากล จำกัด ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบผลการคัดเลือกเอกชนและร่างสัญญาร่วมลงทุน (โดยวิธีการอนุญาต) สำหรับโครงการพัฒนาปรับปรุงท่าเรือสงขลา เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2566 โดยบริษัท เจ้าพระยาท่าเรือสากล จำกัด เป็นผู้ยื่นข้อเสนอที่ผ่านการประเมินสูงสุด โดยมีรายละเอียดดังนี้
– มูลค่าปัจจุบันของผลประโยชน์ตอบแทน (NPV) จำนวน 1,906.891 ล้านบาท สูงกว่าผลประโยชน์ตอบแทนที่ ครม. ให้ความเห็นชอบในหลักการของโครงการ (26 เมษายน 2554) ตามผลการศึกษาของกรมธนารักษ์ ที่มีมูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) 1,418.324 ล้านบาท เป็นมูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) ถึง 488.567 ล้านบาท
– งบลงทุนในการพัฒนาปรับปรุงท่าเรือสงขลา (25 ปี) จำนวน 2,387.90 ล้านบาท
– ค่าตอบแทนล่วงหน้า จำนวน 488.88 ล้านบาท
– ค่าตอบแทนรายปีตลอด 25 ปี รวม 2,881.00 ล้านบาท
– ค่าตอบแทนเพิ่มเติม (ร้อยละ 45 ของรายได้ที่เพิ่มขึ้น : เมื่อมีการปรับอัตราค่าภาระของท่าเรือ)
ทั้งนี้ คาดว่าโครงการดังกล่าวจะสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในจังหวัดสงขลาจากการจ้างงาน ตลอดจนการขนส่ง ระบบโลจิสติกส์ที่จะขยายตัวในอัตราเพิ่มสูงขึ้นจากการลงทุนดังกล่าว.