ศึก 2 อำนาจ! ขั้ว ‘ประชาชน vs โครงสร้างรัฐ’  

(“อำนาจที่มองไม่เห็น! ทำไม? คะแนนเสียง…ไม่อาจตัดสินอนาคตการเมืองไทย!!??”)

การเมืองไทย! กำลังเดินสู่ “ศึกชี้ชะตา?” ที่คะแนนเสียงของคนไทย…อาจไม่พอจะ “เปิดประตู” สู่อำนาจรัฐที่แท้จริงได้!!! “โครงสร้างรัฐ” ยังคงเป็น “เงามืด!” ที่ตัดสินอยู่เบื้องหลังว่า “ใครขึ้นได้ – ใครขึ้นไม่ได้?” มากกว่าผลเลือกตั้งจริง และนี่อาจ…เป็น “ครั้งแรก!” ที่เสียงประชาชน…ต้องเผชิญบททดสอบใหญ่ที่สุด! จาก “อำนาจตัวจริง?” ที่ไม่เคยเลงและแพ้เลือกตั้งแม้สักครั้งเดียว!!??

การเมืองไทยกำลังเดินเข้าสู่จุดเปลี่ยนที่สำคัญที่สุด! ครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ เพราะการแข่งขันรอบนี้…ไม่ได้วัดกันที่จำนวน ส.ส. อย่างเดียวอีกต่อไป???

แต่เป็น…การต่อสู้ระหว่าง “2 อำนาจใหญ่” ที่ทับซ้อนกันอยู่ใน…โครงสร้างรัฐไทย

ระหว่าง….อำนาจที่มาจากประชาชน ผ่านการลงคะแนนเลือกตั้ง กับ…อำนาจที่ฝังรากในรัฐราชการ องค์กรอิสระ และกลุ่มผู้มีบทบาทเชิงโครงสร้าง ซึ่งแม้จะไม่ปรากฏบนเวทีหาเสียง แต่กลับมี “อิทธิพล” ในกระบวนการ “จัดตั้งรัฐบาล” อย่างมิอาจจะปฏิเสธได้

การเลือกตั้งครั้งนี้ จึงไม่ได้มาจากข้อสงสัย ที่ว่า…“พรรคใดจะชนะ?” หากแต่มาจากคำถามลึกกว่านั้น ประมาณว่า…“ใครจะได้รับสิทธิ์บริหารประเทศจริง!”

ภูมิใจไทยกับสายน้ำอำนาจที่กำลังเอียงเข้าหา :

ฉากทัศน์ของการเมืองไทยในปัจจุบัน เห็นได้ชัดว่า… “สายน้ำการเมือง” ที่อาจเข้าใกล้ “อำนาจรัฐ” มากสุด! กำลังทะลักไหลลงสู่ “อ่าวภูมิใจไทย” อย่างชัดเจน

แม้พรรคการเมืองแห่งนี้…อาจไม่ใช่พรรคที่มีเสียงสนับสนุนดังกึกก้องที่สุด! แต่กลับเป็น พรรคที่โครงสร้างรัฐไทยรู้สึก “สบายใจ” มากที่สุด!!!

ด้วย…ท่าทีการเมืองที่ “ไม่ท้าทาย” สถาบันหลักของประเทศ ไม่เสนอนโยบายเสี่ยงกระทบความมั่นคง ไม่ปะทะกับสายราชการระดับสูง และไม่แสดงจุดยืนทางอุดมการณ์ที่สุดโต่ง! จนสร้าง “แรงต้าน” จากกลไกที่อยู่นอกสภาผู้แทนราษฎร

พรรคภูมิใจไทย…จึงกลายเป็นพรรคที่ถูกมองว่า “บริหารประเทศ…ได้โดยไม่ทำให้ระบบเกิดอาการสั่นสะเทือน!!!”  

สอดคล้องกับ “ทิศทางอำนาจ” ของรัฐไทยในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมา

ยิ่งความสัมพันธ์ที่มีกับ…วุฒิสภา องค์กรอิสระ และกลุ่มอิทธิพลเชิงโครงสร้าง ฯลฯ “ปัจจัยบวก” เหล่านี้…จึงเป็น “แรงส่งสำคัญ” ที่ทำให้พรรคนี้…ขยับขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งที่ “เหนือกว่า” คู่แข่ง!

แม้อาจไม่ได้ครองคะแนนเสียง ส.ส.ในมือ มากสุดอันดับหนึ่งก็ตาม

เพื่อไทย…พลังคะแนนสูง แต่พลังกลยุทธ์ยังสั่นไหว :

ขณะเดียวกัน พรรคเพื่อไทย อาจจะอยู่ในภาวะที่ “แข็งแกร่ง” ในเชิงมวลชน แต่ “อ่อนแอ” ในเชิงกลยุทธ์! เห็นได้ชัดจาก…รายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกเปิดตัวออกมาล่าสุด???

สิ่งนี้…ได้สร้าง ภาพสะท้อนถึงความไม่ลงตัวภายในพรรคมากกว่าความพร้อม สำหรับการ “ชิงตำแหน่ง” หัวหน้ารัฐบาล

ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงตามมา ในทำนอง…รายชื่อเหล่านี้ ไม่ได้เป็น “ตัวท็อปของประเทศ”แต่เป็นรายชื่อที่…สะท้อนความสัมพันธ์เชิงครอบครัวมากกว่าความสามารถทางเทคนิค

ยิ่งทำให้ “ภาพลักษณ์” ของพรรคเพื่อไทย ดูเลือนลางกว่าที่เคยเป็น

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง…ในยุคที่ คะแนนนิยม ไม่ใช่ปัจจัยเดียวในการจัดตั้งรัฐบาล

พรรคเพื่อไทย อาจมี ส.ส. เป็นจำนวนมาก แต่หากไม่สามารถ “แก้โจทย์อำนาจ” เชิงโครงสร้างได้ ก็อาจต้องเว้นระยะจากตำแหน่ง…นายกรัฐมนตรี แม้จะได้คะแนนอันดับหนึ่ง ก็ตาม

พรรคประชาชน…แรงที่สุดในเมือง แต่เสี่ยงชนโครงสร้างอำนาจที่สุด! :

อีกด้านหนึ่ง พรรคประชาชน คือ “พลังใหม่” ที่แข็งแรงที่สุด! ในสนามเลือกตั้ง โดยเฉพาะใน พื้นที่เมือง ชนชั้นกลาง และ กลุ่มอาชีพรุ่นใหม่

ฐานเสียง…พร้อมปักธง! ให้พรรคนี้ เป็นความหวังของการเปลี่ยนแปลง แต่นั่นเอง…มันก็อาจกลายเป็น “จุดปะทะ!!!” กับอำนาจเชิงโครงสร้าง เพราะ…นโยบายบางเรื่อง? โดยเฉพาะ ประเด็นด้านกฎหมายที่อ่อนไหวและการปฏิรูปบางสถาบัน

ปมเหล่านี้…ทำให้พรรคการเมืองแห่งนี้ กลายเป็น…ตัวละครที่ “ระบบรัฐไม่ไว้วางใจ” มากที่สุด!

อีกทั้ง…การที่ “ผู้บริหารพรรคบางคน?” มีคดีความก่อนหน้านี้ จาก…คำสั่งหัวหน้า คสช. หรือ “ถูกจับตา” จาก…จุดยืนด้านกฎหมายในอดีต ปัญหาที่ “เกาะตัว” แกนนำเหล่านี้ ยิ่งเป็นการ “เพิ่มโอกาส” ที่พรรคการเมืองนี้…จะถูก “สกัด!” ผ่านกลไกที่อยู่นอกกล่องคะแนนเสียงเลือกตั้ง

หาก แคนดิเดทฯของพวกเขา “เข้าใกล้” กับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มากจนเกินไป

นี่คือ…พรรคที่อาจชนะในสนามเลือกตั้ง แต่เสี่ยงแพ้อย่างหมดรูป? ในสนามโครงสร้างอำนาจของประเทศนี้

เมื่อคะแนนสูสีทั้งสามพรรค…ใครได้เป็นแกนนำรัฐบาลจริง? :

ประเด็นที่น่าสนใจ และมีความเป็นไปได้สูง! นั่นคือ หากทั้ง 3 พรรคใหญ่ ได้จำนวน ส.ส. ในมือ…ใกล้เคียงกัน การ “จัดตั้งรัฐบาล” จะกลายเป็นเกมที่ซับซ้อนอย่างยิ่ง! เพราะผู้ที่จะเป็น “แกนนำรัฐบาล” จะไม่ได้ “วัด” จากอันดับหนึ่งของคะแนนเสียง

แต่มันจะขึ้นอยู่กับว่า…ใครสามารถเป็น “กลางที่ระบบยอมรับ” ได้มากที่สุด???

หากดูตาม “โครงสร้างอำนาจ” ในปัจจุบัน พรรคภูมิใจไทย…อยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบที่สุด!

ไม่ว่าจะ “จับมือ” กับ…พรรคเพื่อไทย หรือพรรคประชาชน ที่ต่างก็คง สรรหาเหตุผลไปบอกกับฐานเสียงของตัวเอง เมื่อต้อง “ดึง” พรรคภูมิใจไทยเข้าไปร่วมรัฐบาล เพื่อ “สร้างความสมดุล” ระหว่าง…เสียงประชาชนและความไว้วางใจจากภาครัฐ

ใน หลาย “ฉากจำลองการเมือง” พรรคภูมิใจไทย…จึงกลายเป็น “ผู้ถือกุญแจ” ในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ แม้พวกเขาอาจไม่ใช่…ผู้ชนะการเลือกตั้ง ในเชิงตัวเลข ก็ตาม

ฉากแรงสุด! หากพรรคประชาชนแลนด์สไลด์ แต่ถูกสกัดโดยโครงสร้างรัฐ :

อีกฉากน่าสนใจ และน่าหวาดหวั่นไปพร้อมกัน??? จัดเป็น…ฉากการเมืองที่ร้อนแรงมากสุด! และอาจสร้าง “จุดเปลี่ยน!” ทางหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทย!!?? นั่นคือ…

กรณีที่ พรรคประชาชน เปิดปฏิบัติการ “แลนด์สไลด์” ได้จำนวน สส.เกิน 250 ที่นั่ง ซึ่งถือเป็น “ชัยชนะ” ตามครรลองประชาธิปไตยอย่างเต็มรูปแบบ!!!

แต่ในขณะเดียวกัน กลุ่มสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ที่แม้วันนี้…จะไม่มีบทบาท “ร่วมโหวตเลือก” นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ก็ตาม แต่ “พลังอำนาจ” ของพวกเขายังคงเข้มขลัง! และเมื่อต้อง “รวมพลัง” กับบรรดา… องค์กรอิสระ และรัฐราชการ ที่…ประกาศตัวชัด! อยู่คนละฝั่งกับ พรรคการเมืองของคนรุ่นใหม่ นับแต่ที่ได้ใช้ชื่อ…พรรคอนาคตใหม่ และ พรรคก้าวไกล

หากคนรุ่นเก่า…กลุ่มนี้ จะไม่ยอมรับกับ “ผลลัพธ์” ดังกล่าว

ถ้าเกิดขึ้นจริง! ประเทศไทย…ก็จะเข้าสู่ภาวะ “อำนาจปะทะกันเต็มรูปแบบ!!!” ระหว่าง…เสียงของประชาชน กับ พลังเสียงจากโครงสร้างรัฐ!!??

สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมา ก็คือการ “โหวตเลือก” นายกรัฐมนตรี ในสภาผู้แทนราษฎร…อาจไม่ผ่าน!

แล้วจะมี “คำร้อง” ในคดีการเมือง…พรั่งพรูตามมาติดๆ ซึ่งแน่นอนว่า…การ “ตั้งรัฐบาล” ต้องเกิดอาการชะงักงัน!!! และนำไป สู่เหตุการณ์…การประท้วงที่อาจลุกลามบานปลาย

ฉุดให้…ภาวะเศรษฐกิจและความเชื่อมั่น ที่จะมีต่อประเทศไทย…เกิดอาการ “สั่นคลอน!” ไม่ต่างจากช่วงที่ บ้านเมืองไทย…เกิดวิกฤตการเมืองในอดีต!!!

ความชอบธรรมจากคะแนนเสียง! อาจไม่เพียงพอ หากไม่สามารถจะ “ผ่านด่าน” โครงสร้างรัฐ…ที่คอยคัดกรองผู้ที่จะขึ้นมาบริหารประเทศ

บทสรุป…ผู้ชนะเลือกตั้งอาจไม่ใช่ผู้ชนะเกมอำนาจ :

จาก ฉากทัศน์ ข้างต้น…มันได้ “สะท้อนภาพ” ที่ชัดเจนว่า…การเมืองไทยยุคใหม่ ไม่ได้อยู่ภายใต้ “ระบบ” ที่คะแนนเสียง…จะตัดสินทุกอย่างอีกต่อไป

แม้ เสียงของประชาชนจำนวนมาก…เรียกร้องให้ประเทศนี้ เร่งทำการ “เปลี่ยนผ่าน” แต่นั่น…ก็ยังต้องผ่าน “การตรวจสอบ” ชนิดเข้มข้น! จาก “อำนาจที่ฝังรากลึกอยู่ในรัฐไทย” ซึ่งหลบอยู่ในฉากหลัง และพวกเขา…ก็ไม่เคยถูกเลือกตั้ง และไม่เคยแพ้เลือกตั้ง!!??

แต่กลับมี “พลังซ่อนเร้น?” ที่ทรงพลานุภาพ…ในทางการเมืองอย่างที่สุด!!!

ความจริงข้อนี้…ทำให้เราเห็น ภาพความ “ย้อนแย้ง?” ที่ยากปฏิเสธ ว่า…ผู้ชนะการเลือกตั้ง อาจไม่ใช่ ผู้ชนะในเกมการเมืองจริง และผู้แพ้คะแนนเสียงอาจกลับเป็น “ผู้ตั้งรัฐบาล” ได้ หากสามารถ “สร้างสมดุล” กับโครงสร้างอำนาจที่ซ่อนอยู่ ได้อย่างลงตัว???

การเมืองไทย…จึงกำลังเผชิญสนาม 2 ชั้น!!??

ชั้นหนึ่ง คือ สนามของประชาชน และ อีกชั้นหนึ่ง ที่กลายเป็น สนามของอำนาจเงา…ที่ ทุกพรรคการเมือง หากอยากได้ “สิทธิ์” เป็น…แกนนำจัดตั้งรัฐบาล ดัน…แคนดิเดท ของพรรคฯ ขึ้นเป็น “นายกรัฐมนตรี” ก็จะต้องแสวงหา “จุดร่วมนี้” ให้เจอและเจรจาให้ได้…

ก่อนที่ ประเทศนี้…จะไกลวนกลับเข้าสู่ “วงจรอุบาทว์เดิม ๆ” ของความล้มเหลว…ซ้ำซาก!!!.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password