ยุทธศาสตร์ไทย? หลังปิดฉาก! ผู้นำเอเปค  

หลังฉากประชุม “สุดยอดผู้นำเอเปค” ปิดลง! นานาชาติ…หันกลับมามองเห็นไทยได้ชัดอีกครั้งบนจอเรดาร์โลก การเดินเกมของ “ผู้นำไทย” นำทีมเจรจา หลายขั้ว “มหาอำนาจ” ไม่เพียงสร้าง “ภาพลักษณ์” ของไทย ในฐานะ “หุ้นส่วนที่ไว้ใจได้” แต่ยัง “เปิดทาง” สู่ยุทธศาสตร์ใหม่ ที่อาจกลายเป็น “รากฐาน” ของการยืนระยะในเวทีนานาชาติได้ หากไทยสามารถวางตำแหน่งของตนเองให้ถูกทิศทาง ต่อยอดความสำเร็จที่เริ่มต้นไว้ในครั้งนี้

การประชุม “ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเชีย–แปซิฟิก (APEC)” ครั้งที่ 32 ณ เมืองคยองจู สาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้)  ถือเป็นเวทีที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ได้ใช้เวลาที่มี “พบปะ” กับ “ผู้นำ” เกือบทุกประเทศ

รวมถึงการหารือกับ…ประธานธนาคารโลก ผู้นำองค์กรเศรษฐกิจสำคัญ และภาคเอกชนระดับโลก อย่างเข้มข้น

“รื้อฟื้น” ความเชื่อมั่นที่โลกมีต่อประเทศไทย หลังจากช่วงเวลาที่เงียบหายไปจากเวทีโลกอยู่พักใหญ่ จากการทำรัฐประหาร ในปี 2549 และ 2557

โดยการกลับมาในครั้งนี้ นายกฯอนุทิน ไม่ได้เพียงนำเสนอ…นโยบายการค้า การท่องเที่ยว หรือแรงงาน แต่ยังประกาศต่อชาวโลกว่า…“ประเทศไทยกลับมาอยู่ในจอเรดาร์แล้ว”

ผลงานเชิงรูปธรรม! จากการประชุม 2 วาระใหญ่ ทั้งในเวที…อาเซียนซัมมิท และเอเปค ได้สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มเชิงยุทธศาสตร์ที่ชัดเจน…

ประเทศไทย…เลือกใช้ท่าที “สมดุล” ในการดำเนินนโยบายระหว่างประเทศ ไม่เอนข้างขั้วใดขั้วหนึ่ง แต่ยืนอยู่บนหลักของกฎหมายและผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของชาติ

นายกรัฐมนตรีของไทย ใช้เวทีเจรจากับทั้ง…จีน สหรัฐฯ เกาหลีใต้ แคนาดา ญี่ปุ่น และประเทศในอาเซียน เพื่อสร้างสมดุลทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ ที่สอดรับกับสถานการณ์ “โลกยุคใหม่” ที่เต็มไปด้วยการแข่งขันและความเปราะบางทางซัพพลายเชน

ความสำเร็จที่เป็นรูปธรรม และจับต้องได้ที่สุดในระยะสั้น! คือ การที่จีนส่งสัญญาณสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวกลับมาประเทศไทย หลังจากนายกรัฐมนตรีชี้แจงชัดเจน ว่า…

ประเทศไทยจะไม่เปิดกาสิโน และยังคงยึดมั่นในหลักกฎหมาย!!!

สิ่งนี้ ทำให้ความกังวลของฝ่ายจีน คลี่คลาย กลายเป็น…จุดเริ่มต้น! ของการฟื้นความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยวระหว่าง 2 ประเทศ

นับเป็นการ “ปลดล็อก” ปัจจัยทางจิตวิทยาที่มีผลโดยตรงต่อ…เศรษฐกิจฐานรากของไทย อย่างที่สุด!

ขณะเดียวกัน ประเทศไทย…ยังได้รับการตอบรับจากหลายประเทศ ให้เข้าร่วม “ความร่วมมือใหม่ ๆ” ทั้งในด้าน…ความมั่นคงทางอาหาร การพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์ และการจัดการอาชญากรรมออนไลน์

โดยเฉพาะ “ความร่วมมือ” กับสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ ในการตั้ง “ศูนย์ปฏิบัติการปราบสแกมและอาชญากรรมไซเบอร์” ซึ่งเป็น ปัญหาข้ามพรมแดน…ที่สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจของภูมิภาคมหาศาล

การเคลื่อนไหวเหล่านี้ สะท้อน “ภาพลักษณ์ใหม่” ของประเทศไทย ในฐานะ “ผู้นำด้านความมั่นคงดิจิทัลของอาเซียน”

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญกว่า “ภาพลักษณ์” ก็คือ…“ความต่อเนื่อง” ในการสร้างบทบาทประเทศไทยให้มั่นคง! ในสายตานานาชาติ

การประชุมเอเปคครั้งนี้ ได้เปิดโอกาสให้…รัฐบาลไทย ได้ประกาศเจตนารมณ์ที่จะผลักดันประเทศให้เป็น “ศูนย์กลาง 3 ด้าน” คือ…

ศูนย์กลางความมั่นคงทางอาหารของโลก (Food Security Hub)

ศูนย์กลางการลงทุนและการแปรรูปแร่ธาตุสำคัญเพื่ออุตสาหกรรมสีเขียว (Critical Minerals & Green Tech Hub)

และ ศูนย์กลางดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ของอาเซียน (Digital & AI Hub)

แต่ละด้าน…ต่างสอดรับกับแนวโน้มโลกทั้งสิ้น!!!

หากประเทศไทย สามารถบูรณาการทั้ง 3 แนวทางเข้าด้วยกัน จะเกิด “โครงสร้างเศรษฐกิจใหม่” ที่ยั่งยืนและมีพลังทางการทูต…ในตัวเอง

การเดินหน้าสู่ “3 ฮับ” ดังกล่าว ไม่สามารถพึ่ง “แรงขับเคลื่อน” ของรัฐบาลใดรัฐบาลหนึ่ง…ได้เท่านั้น แต่ต้องอาศัยการ “ออกแบบ” ยุทธศาสตร์ระยะยาว อย่างเป็นระบบ!!!

สร้างการผูกพันทางนโยบายข้ามรัฐบาล

ทั้งนี้ หากรัฐบาลชุดนี้…ต้องการเก็บเกี่ยว “ผลสูงสุด!” จากการประชุมเอเปค และปูทางสร้างโอกาสนำพาประเทศไทย ให้เติบโตต่อเนื่อง อาจเริ่มต้น…ด้วยการจัดทำ “แผนแม่บท 10 ปี : Thailand as Regional Hub”

กรอบยุทธศาสตร์ระดับชาติ ที่ รับรองโดย…รัฐสภา และ รายงานความคืบหน้าเป็นรายไตรมาสต่อสาธารณะ เพื่อให้ประเทศ…ได้มี “เส้นทางการพัฒนา” อย่างต่อเนื่อง ไม่สะดุด! กับการเปลี่ยนขั้วทางการเมือง ที่มักจะเกิดขึ้นบ่อยครั้งในประเทศนี้…

การทำแผนแม่บท 10 ปี เช่นนี้…ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน??? หากเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันนี้ ภายใต้กลไกที่เหมาะสม เช่น มติคณะรัฐมนตรี และมติรัฐสภา ร่วมรับรองกรอบนโยบายในเบื้องต้น แล้วตามด้วยการออก พระราชบัญญัติกรอบยุทธศาสตร์ระดับชาติ ในปีถัดไป

เพื่อให้…ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่…ต่างประเทศ คลัง พาณิชย์ อุตสาหกรรม พลังงาน ไปจนถึง ดีอีเอส และคมนาคม บูรณาการงบประมาณ และโครงการในทิศทางเดียวกัน

เมื่อ “ผูกพันข้ามรัฐบาล” ได้แล้ว ประเทศไทย…จะไม่เพียง “อยู่ในจอเรดาร์” แต่จะกลายเป็น “ศูนย์เรดาร์ของภูมิภาค” ที่ดึงดูดความร่วมมือจากทุกขั้วของโลก

อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า…สัญญาณจากรัฐบาลชุดปัจจุบัน แม้จะมีทิศทางสอดคล้องกับแนวคิดดังกล่าว แต่ยังเป็นการขับเคลื่อนในเชิง “นโยบายเร่งด่วน” มากกว่าการวางรากฐานเชิงโครงสร้าง!!??

การผลักดันให้ ประเทศไทยเป็น Food Hub หรือ ศูนย์แปรรูปแร่สำคัญ ยังอยู่ในระดับเจรจาความร่วมมือเบื้องต้น

ขณะที่ โครงการดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ ยังอยู่ในระยะทดลองในเวทีอาเซียน การสร้างกลไกถาวร เช่น คณะกรรมการยุทธศาสตร์แห่งชาติ หรือ “ศูนย์อำนวยการ 3 ฮับ” ยังไม่ปรากฏชัดในเอกสารทางการ

หากรัฐบาลชุดนี้ ไม่เร่ง “ยกระดับ” จาก “แนวนโยบาย” ไปสู่ “ยุทธศาสตร์ผูกพัน” ความสำเร็จจากเอเปค ในครั้งที่ผ่านมา…

อาจกลายเป็นเพียงแค่…กระแสชั่วคราว!!!

ในทาง ยุทธศาสตร์การเมืองระหว่างประเทศประเทศไทย ก็ควรใช้ช่วงเวลานี้ ในการวางตัวเป็น “หุ้นส่วนที่ไว้ใจได้ของทุกฝ่าย” โดยไม่เลือกข้างใดข้างหนึ่งเกินไป

สถานการณ์โลกในปัจจุบัน ไม่มีพื้นที่…สำหรับ “ประเทศเล็ก” ที่เอนเอียงจนเสียสมดุล!

การรักษาจุดยืนแบบ “สมดุลเชิงสร้างสรรค์” (Constructive Balance) จะเป็น “กุญแจสำคัญ” ที่จะทำให้ประเทศไทย ได้รับทั้งการลงทุน เทคโนโลยี และความร่วมมือด้านความมั่นคงจากทุกขั้ว…

พร้อมกันนั้น ประเทศไทย…ควรเสริมกลไก “การทูตเชิงเศรษฐกิจ” ให้แข็งแรงยิ่งขึ้น! เช่น…แต่งตั้ง “ทูตเศรษฐกิจประจำภูมิภาค” หรือ Economic Envoys เพื่อประสานงานระหว่าง…ภาครัฐกับนักลงทุนต่างชาติ อย่างต่อเนื่อง

หาก “รัฐบาลอนุทิน” สามารถวางฐานนี้ไว้ได้ในช่วงเวลาไม่กี่เดือนข้างหน้า แม้การเมืองจะเปลี่ยนขั้ว! ในอนาคต บทบาทของประเทศไทยในเวทีโลก ก็ยังจะดำรงอยู่ได้ด้วยระบบ

ไม่ใช่ด้วย…ตัวบุคคล เพราะสิ่งที่โลกกำลังมองหา ไม่ใช่เพียง “ผู้นำที่โดดเด่น” แต่คือ “ประเทศที่ไว้ใจได้และยืนระยะได้”

ยุทธศาสตร์ “Thailand as Regional Hub” หรือ “แผนแม่บท 10 ปี” จึงไม่ใช่เพียง…วาทกรรมทางการเมือง แต่เป็น “กรอบความคิด” ที่จะทำให้…ประเทศไทย เดินหน้าอย่างมีทิศทางในโลก ที่เต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลง

หากรัฐบาลชุดนี้ กล้าที่จะลงมือ “วางรากฐาน” ในตอนนี้…เริ่มตั้งแต่ตอนนี้ ก็จะเป็น “ผลงานชิ้นสำคัญ” ที่ไม่เพียง…จารึกในประวัติศาสตร์ ระหว่างการประชุมเอเปคปี 2568 เท่านั้น

แต่จะกลายเป็น “จุดเริ่มต้น!” ของ “ทศวรรษแห่งการกลับมาของไทย” บนเวทีโลก อย่างแท้จริง!!!.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password