คนร.ถกเคาะ 6 ข้อ เดินหน้าผลักดันรัฐวิสาหกิจเร่งทำบทบาทและเป้าหมายดำเนินงานชัดเจน!
“รองนายกฯพิชัย” นั่งหัวโต๊ะประชุม คนร. ก่อนได้ข้อสรุป 6 ข้อ ด้าน ผอ.สคร. เผย! คนร. พร้อมผลักดันรัฐวิสาหกิจเร่งกำหนดบทบาทและเป้าหมายการดำเนินงานที่ชัดเจน หวังเป็นกลไกการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล พ่วงรองรับการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ ร่วมพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศให้มีความเข้มแข็ง
นายธิบดี วัฒนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กล่าวถึง ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ครั้งที่ 2/2567 เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2567 โดยมี นายพิชัย ชุนหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เป็นประธานฯ ซึ่ง คนร. ได้พิจารณาในเรื่องต่างๆ ดังนี้
1. คนร. รับทราบรายงานผลการปฏิบัติตามแผนปฏิบัติการประจำปี 2566 ของรัฐวิสาหกิจจำนวน 52 แห่ง และมอบหมายให้กระทรวงเจ้าสังกัดกำกับติดตามการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจตามหมุดหมายหลักตามแผนพัฒนารัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2566 – 2570 อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะโครงการที่มีการดำเนินงานไม่เป็นไปตามเป้าหมายและมีวงเงินดำเนินการ/ลงทุนที่ค่อนข้างสูง เพื่อมิให้กระทบกับเป้าหมายในภาพรวมของประเทศ
2. คนร. รับทราบผลการประเมินผลการดำเนินงานรัฐวิสาหกิจ ประจำปีบัญชี 2566 ตามระบบประเมินผลการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจจำนวน 52 แห่ง โดยในภาพรวม มีผลการดำเนินงานด้านการเงินและไม่ใช่การเงิน และด้านการบริหารจัดการองค์กร (Core Business Enablers) ที่ดีขึ้น โดย คนร. มีข้อสังเกตให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง นำปัจจัยต่างๆ ไปพิจารณาจัดทำแผนงานและกำหนดตัวชี้วัดให้มีความเหมาะสมและสะท้อนผลการดำเนินงานที่แท้จริงยิ่งขึ้น และให้มีการติดตามการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องทันกาล
3. คนร. รับทราบผลการดำเนินงานของบริษัทในเครือของรัฐวิสาหกิจ ณ สิ้นปี 2566 จำนวน 90 แห่ง โดย คนร. มอบหมายให้รัฐวิสาหกิจและกระทรวงเจ้าสังกัดเร่งแก้ไขปัญหาบริษัทในเครือที่ขาดทุน และถอนการลงทุนในบริษัทในเครือที่ไม่จำเป็นต้องถือครองตามภารกิจ ให้เป็นไปตามแผนการดำเนินงานที่ได้กำหนดไว้
4. คนร. รับทราบความคืบหน้าการจัดทำข้อเสนอในการทบทวนบทบาทของรัฐวิสาหกิจและกระทรวงเจ้าสังกัดจำนวน 8 แห่ง ได้แก่ 1) องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร 2) องค์การคลังสินค้า 3) องค์การตลาด 4) โรงพิมพ์ตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 5) โรงงานไพ่ กรมสรรพสามิต 6) องค์การสุรา กรมสรรพสามิต 7) บริษัท อู่กรุงเทพ จำกัด และ 8) บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) พร้อมทั้งมอบหมายให้ กระทรวงเจ้าสังกัดกำกับติดตามและให้รัฐวิสาหกิจเร่งดำเนินการให้เป็นไปตามเป้าหมายทางการเงินตามที่ได้มีการเสนอ
ทั้งนี้ คนร. มีข้อสังเกตให้กระทรวงเจ้าสังกัด และ สคร. ร่วมกันพิจารณาการกำหนดบทบาทรัฐวิสาหกิจให้ชัดเจนเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น โดยคำนึงถึงแนวทางการบูรณาการด้านภารกิจ ลดการดำเนินงานที่ซ้ำซ้อน รวมถึงกำหนดสถานะขององค์กรที่เหมาะสม เพื่อให้เกิดความคุ้มค่า มีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์ต่อการดำเนินการตามภารกิจต่อไป
5. คนร. ให้ความเห็นชอบในหลักการของร่างประกาศ คนร. เรื่อง หลักเกณฑ์การพิจารณาข้อเสนอ การดำเนินมาตรการและการขอรับการจัดสรรเงินชดเชยของรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. …. และรับทราบ ร่างประกาศ สคร. เรื่อง หลักเกณฑ์การจัดทำบัญชี วิธีการคำนวณวงเงินชดเชย และการเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชน พ.ศ. …. เพื่อให้รัฐวิสาหกิจที่ดำเนินมาตรการที่เป็นนโยบายรัฐตามแผนพัฒนารัฐวิสาหกิจมีกรอบการดำเนินงานที่ชัดเจน ในการขอรับเงินชดเชยจากรัฐบาล โดย คนร. ได้มอบหมายให้ สคร. นำร่างประกาศข้างต้น ไปรับฟังความคิดเห็นของกระทรวงเจ้าสังกัดของรัฐวิสาหกิจ และหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ก่อนนำเสนอตามกระบวนการและขั้นตอนที่เกี่ยวข้องต่อไป
และ 6. คนร. ได้มีมติเห็นชอบในหลักการการร่วมทุนของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) ในบริษัท ฟิ้วซ์ โพสต์ จำกัด (Fuze) เพื่อเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นของ ปณท ใน Fuze ตามหลักเกณฑ์การจัดตั้ง/ร่วมทุนและกำกับดูแลบริษัทในเครือของรัฐวิสาหกิจ เพื่อช่วยให้การใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ของ ปณท เกิดประโยชน์สูงสุด และสนับสนุนนโยบายภาครัฐในการขยายโอกาสการดำเนินธุรกิจไปยังผู้ประกอบการรายย่อยและเกษตรกรทุกพื้นที่ทั่วประเทศ.