ศาลแพ่งสั่ง’คปท.-ศปปส.’เลิกชุมนุมภายใน 7 วัน ชี้เป็นการใช้สิทธิเกินสมควร
ศาลเเพ่งสั่งกลุ่มผู้ชุมนุม คปท.-ศปปส.เลิกชุมนุมเชิงสะพานชมัยมรุเชษฐ์ภายใน 7 วัน ชี้เป็นการใช้สิทธิเกินสมควร ไม่คำนึงความเดือดร้อนของประชาชน และนศ.ได้รับผลกระทบ ผกก.สน.นางเลิ้ง ขอเจรจา เเต่หลีกเลี่ยงไม่พบ
วันที่ 17 ก.ค. 2567 ที่ศาลเเพ่ง ถนนรัชดาภิเษก ศาลได้อ่านคำสั่งกรณี เมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา ผกก.สน.นางเลิ้ง ผู้ร้อง ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งยกเลิกการชุมนุมคดีของกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย(คปท.)ร่วมกับกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน(ศปปส.)ที่จัดการชุมนุมค้างคืนที่บริเวณเชิงสะพาน ชมัยมรุเชษฐ์ ถนนพิษณุโลกแขวงสวนจิตรลดา เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร กับขอให้ศาลมีคำสั่งให้กลุ่มผู้ชุมนุม รื้อถอนเต็นท์ที่ปิดทับช่องจราจรและป้ายรถโดยสารประจำทาง รวมทั้งมีคำสั่งให้กลุ่มผู้ชุมนุมเปิดช่องทางการจราจรบนถ.พิษณุโลกเพิ่มหนึ่งช่องทางจากที่ปิด 2 ช่องทางกับให้กลุ่มผู้ชุมนุมหยุดกิจกรรมชุมนุมในวันที่ กรกฎาคมนี้ด้วย
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานของผู้ร้องแล้วมีคำสั่งเห็นว่า การที่กลุ่มผู้ชุมนุมผู้ถูกร้องทำการชุมนุมโดยกางเต็นท์และปลูกต้นไม้บนฟุตบาทและผิวจราจร 2 ช่องทางตลอดแนวบนถ.พิษณุโลก ตั้งแต่หน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ถึงแยกพาณิชยการพระนคร ทำให้เหลือช่องจราจร 2 ช่องทาง ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคมที่ผาานมา ต่อเนื่องถึงปัจจุบันเป็นเวลานานกว่า 5 เดือนเป็นเหตุให้อาจารย์ เจ้าหน้าที่และนักศึกษาได้รับความเดือดร้อนในการเข้าออกมหาวิทยาลัย
นอกจากนี้กลุ่มผู้ชุมนุมยังปราศรัยเสียงดังรบกวน การเรียนการสอน ตั้งเต็นท์ปิดบังป้ายรถประจำทาง ที่ผ่านมากกว่า 10 ปี มีกลุ่มผู้ชุมนุมหลายกลุ่ม ทางมหาวิทยาลัยไม่มีปัญหา แต่ครั้งนี้นักศึกษาต้องขึ้นรถประจำทางกลางถนน ไม่ปลอดภัย มหาวิทยาลัยพยายามนัดเจรจาแต่กลุ่มผู้ชุมนุมหลีกเลี่ยงไม่มาพบ กลุ่มผู้ชุมนุมมีรถสุขาเคลื่อนที่ 2 คัน ส่งกลิ่นเหม็นเข้ามาภายในบริเวณมหาวิทยาลัยฯ
ต่อมา จึงมีหนังสือถึงผู้ร้อง ขอให้แก้ปัญหาจากการปักหลักชุมนุมตามหนังสือฉบับลงวันที่ 27 มิถุนายน 2567 บุคลากร นักศึกษาให้ข้อมูลผลกระทบจากการไม่มีป้ายรถประจำทางไม่มีที่หลบแดด หลบฝนและนักศึกษา 701คนรวมตัวกันลงลายมือชื่อเป็นผู้ได้รับความเดือดร้อน เช่นนี้ถือได้ว่าเป็นการชุมนุมสาธารณะที่เป็นการขัดขวางเกินสมควรต่อประชาชนและนักศึกษาที่จะใช้ถนนสาธารณะ ก่อให้เกิดความไม่สะดวกแก่ประชาชนและนักศึกษา ที่จะใช้ที่สาธารณะ จนได้รับความเดือดร้อนเกินที่พึงคาดหมายได้ว่าเป็นไปตามเหตุอันควรตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสารารณะ พ.ศ. 2558 มาตรา 15 (2) และ 16 (1)
ผู้ร้องในฐานะเจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะได้แจ้งประกาศให้กลุ่มผู้ชุมนุมผู้ถูกร้องแก้ไขรวมถึง 4 ครั้งแต่เพิกเฉย ผู้ร้องชอบที่จะยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งเลิกการชุมนุมได้ตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 มาตรา 21 วรรคสอง ตามพฤติการณ์ที่กลุ่มผู้ชุมนุมได้ชุมนุมบนฟุตบาทและถนนสาธารณะมานานกว่า 5 เดือน นับว่าผู้ชุมนุมได้ใช้เสรีภาพแสดงความคิดเห็นของตนอย่างเพียงพอแล้ว เมื่อการชุมนุมได้ส่งผลกระทบต่อการเรียน การสอนและความปลอดภัยในการเดินทางของนักศึกษา การชุมนุมนานไปกว่านี้ถือเป็นการเอาแต่ใช้สิทธิของกลุ่มตนเกินสมควรไปมาก โดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชนคนอื่น
ศาลจึงเห็นควรมีคำสั่งให้กลุ่มผู้ชุมนุมเลิกการชุมนุมสาธารณะตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 มาตรา 22 จึงมีคำสั่งให้กลุ่มผู้ชุมนุมเลิกการชุมนุมสาธารณะภายในเวลา 7 วัน นับแต่วันที่ศาลมีคำสั่งเป็นต้นไป.