ชูวิทย์คอตก! ศาลแพ่งสั่งห้ามโจมตี ภท. ใช้กัญชาเสรีหาเสียงเลือกตั้ง

คำร้องเป็นผลแล้ว! หลังศาลแพ่งมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว เบรก “ชูวิทย์” ห้ามพูดเรื่องกัญชา โจมตีพรรคภูมิใจไทย ระหว่างหาเสียงเลือกตั้งรอบใหม่นี้

วานนี้ (5 มี.ค.2566) พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ฟ้องอุทธรณ์ต่อศาลแพ่งเพื่อให้มีคำสั่งคุ้มครอง ห้ามมิให้ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ พูดโจมตีนโยบายกัญชาเสรีของพรรคฯ หลังจากวันก่อนหน้านี้ ศาลมีคำสั่งยกคำร้องเดียวกัน ล่าสุด เมื่อช่วงเย็นวันเดียวกัน ศาลแพ่งได้พิจารณาคำร้องข้างต้น ทั้งนี้ จากการที่ศาลแพ่งได้พิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์แล้ว พบข้อเท็จจริงที่รับฟังได้ว่า จําเลย (นายชูวิทย์) ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน หลายสาขาทั้งทางวิทยุ โทรทัศน์ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งใช้เครื่องกระจายเสียงประกาศข้อเท็จจริงต่าง ๆ ตามคําฟ้องในที่สาธารณะเพื่อให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจว่า โจทก์ (พรรคภูมิใจไทย) มีนโยบายที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและสมาชิกของโจทก์ไม่เหมาะสมที่จะได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งข้อเท็จจริง ตามที่จําเลยกล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายต่อบุคคลทั่วไปนั้น ยังมิได้มีการพิสูจน์ว่าเป็นความจริงตามที่จําเลยกล่าวอ้างหรือไม่ จึงเป็นการกระทําซ้ำและกระทําต่อไป

ซึ่งการที่โจทก์ฟ้องกล่าวอ้างว่าจําเลยกระทําละเมิดนั้น เมื่อพิจารณาคําฟ้องของโจทก์ประกอบกับภาพและเสียงของจําเลยที่บันทึกไว้โดยแผ่นดีวีดีท้ายคําฟ้องและวัตถุพยานหมาย วจ.1 แล้ว ได้ความว่าเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2566 จําเลยกล่าวต่อบุคคลทั่วไปโดยมีข้อความว่า “ไม่เอาภูมิใจไทยไม่เอาพรรคบ้ากัญชา” ประกอบกับจําเลยได้ใช้ป้ายแสดงข้อความว่า “พรรคขายกัญชา เยาวชนติดกัญชาเพราะมึง” ซึ่งบุคคลทั่วไปสามารถเข้าใจได้ว่าหมายถึงโจทก์ แม้จําเลย จะมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณา และการสื่อความหมายแต่การกระทําดังกล่าวต้องไม่เป็นการละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่นตามกฎหมาย เมื่อโจทก์ได้รับความคุ้มครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 423 ซึ่งห้ามมิให้ผู้ใดกล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายซึ่งข้อความอันฝ่าฝืนต่อความเป็นจริง เป็นที่เสียหายแก่ชื่อเสียงหรือเกียรติคุณของโจทก์หรือเสียหายแก่ทางทํามาหาได้หรือทางเจริญของโจทก์ เห็นว่าฟ้องโจทก์มีมูล และมีเหตุผลเพียงพอที่จะนําวิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษามาใช้บังคับ

ดังนั้น ศาลแพ่งจึงมีคำสั่งห้ามมิให้จําเลยกระทําด้วยประการใด ๆ ในการรณรงค์ไม่ให้ประชาชนเลือกโจทก์ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพราะเห็นว่า การกระทําดังกล่าวมีกฎหมายบัญญัติห้ามไว้โดยเฉพาะแล้วตามมาตรา 73 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 โดยเป็นพระราชบัญญัติที่มีโทษทางอาญา ศาลไม่จําต้องมีคําสั่งคุ้มครองชั่วคราวอีก ส่วนคำขออื่นให้ยกไป.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password