กกต. ประกาศรับสมัคร “สมาชิกวุฒิสภา” ขอรับเอกสารได้ ที่ “สนง.เขต-สำนักทะเบียนอำเภอ”
กกต.แจงผู้สมัคร “สมาชิกวุฒิสภา” สามารถขอรับใบสมัครที่สนง.เขต-สำนักทะเบียนอำเภอได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ขณะ ราชกิจจาฯ เผยแพร่พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง สว. 2567 แล้ว มีผลบังคับใช้ทันที
วันที่ 11 พฤษภาคม 2567 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แจ้งว่า ขณะนี้สำนักทะเบียนอำเภอ รวมถึงสำนักงานเขตทุกเขต ได้เปิดบริการให้ผู้ที่ประสงค์จะสมัครรับเลือกเป็น สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ไปขอรับใบสมัคร (สว.2) พร้อมแบบข้อมูลแนะนำตัว (สว.3) และหนังสือรับรองความรู้ ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์หรือทำงานในกลุ่มที่สมัคร (สว.4) ด้วยตนเอง ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ระหว่างเวลา 08.30 – 16.30 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ
โดยใช้หลักฐานแสดงตนอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนีั1. บัตรประจำตัวประชาชน หรือ 2. บัตรประจำตัวประชาชนที่หมดอายุ หรือ 3. บัตรหรือหลักฐานอื่นใดของราชการหรือหน่วยงานของรัฐที่มีรูปถ่ายและมีเลขบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ถือบัตร หรือ 4. หลักฐานภาพอิเล็กทรอนิกส์ที่เปิดผ่านแอปพลิเคชันของหน่วยงานของรัฐตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งผู้สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติ่มได้ที่ www.ect.go.th หรือสอบถามได้ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดทุกจังหวัด และสายด่วน 1444 ในวันและเวลาราชการ
นอกจากนี้ยังเผยแพร่ภาพอินโฟกราฟฟิก การแนะนำตัวโดยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ด้วยตนเองว่าสามารถระบุข้อความอะไรได้บ้าง โดยกำหนดให้ผู้สมัครใช้ข้อความตามเอกสารแนะนำตัวของผู้สมัคร ที่ต้องดำเนินการตามข้อ 7 ของระเบียบกกต. ว่าด้วยการแนะนำตัวในการเลือกสมาชิกวุฒิสภา 2567 คือ1.ข้อมูลส่วนตัว 2 รูปถ่าย 3 ประวัติการศึกษา 4 ประวัติการทำงาน และถ้าประสบการณ์ในการทำงานในกลุ่มที่สมัครเท่านั้นพร้อมเน้นย้ำว่า ต้องเผยแพร่แก่ผู้สมัครอื่นในการเลือกเท่านั้น
ด้านเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภาพ.ศ 2567แล้ว โดยสาระสำคัญกำหนดให้พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา และให้ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้
รวมถึง ระบุเหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องด้วยอายุของวุฒิสภาสิ้นสุดลงในวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 ซึ่งมาตรา 269 (2) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติว่า เมื่ออายุของวุฒิสภาสิ้นสุดลง ให้ดำเนินการเลือกสมาชิกวุฒิสภาตามมาตรา 107โดยมาตรา 107 วรรคห้า ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้การเลือกสมาชิกวุฒิสภาให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกา จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้.