นายกฯ กองทัพ กร้าว ส่งสัญญาณ แรง ถึง “กลุ่มป่วน” ขบวนเสด็จ”

ประเด็น “ขบวนเสด็จ” ซึ่งเกิดจากนักเคลื่อนไหวการเมือง นำโดย น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ ตะวัน นายธนกร บีบแตรและพยายามขับรถแทรกระหว่างขบวนเสด็จ กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ไม่เพียงแต่กระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียลมีเดียเท่านั้น เเต่สะเทือนไปถึงผู้มีอำนาจและกลุ่มต่างๆ จนต้องออกมาเคลื่อนไหว

ผู้นำประเทศ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ออกมาแสดงความกังวลจะกระทบความสามัคคีชาติ และได้พูดคุยกับ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) รวมทั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่เกี่ยวกับมาตรการอารักขาฯ โดยยืนยันว่า เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องให้ความดูแลบุคคลสำคัญของประเทศ จึงมอบให้สำนักงานข่าวกรองกำชับให้ดูแลเรื่องนี้ให้ดี เนื่องจากไม่ต้องการให้เกิดการปะทะกัน และต้องการให้ประเทศอยู่ด้วยความสามัคคี

แน่นอนว่าเรื่องดังกล่าวทำให้ กลุ่มต่างๆ บรรดานักกฎหมาย ออกมาแสดงพลังและจุดยืน บางส่วนโยงไปกับกลุ่มการเมือง แต่กลุ่มที่น่าจับตาเเละส่งสัญญาณชัดเจนคือ “กองทัพ”

เริ่มตั้งเเต่ “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” สังกัดขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี โดยไม่อยู่ในสังกัดกระทรวงใด ๆ มีอำนาจหน้าที่รักษาความปลอดภัยต่อสถาบัน โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ยืนยันกับนายกรัฐมนตรีว่า การถวายความรักษาความปลอดภัย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ และพระบรมวงศานุวงศ์ มีการวางระบบ แต่การที่มีกลุ่มเห็นต่างเข้ามาแสดงออก​ ได้กำชับตั้งแต่วันแรกว่า จะดำเนินคดีตามพยานหลักฐานที่มี​ เชื่อว่าเยาวชนที่ออกมามีขบวนการที่อยู่ข้างหลัง ขอตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจนก่อน ขอเวลาอีก 2 วัน จะได้เห็นการแจ้งข้อกล่าวหาและออกหมายจับ

“เรื่องการถวายความปลอดภัยพวกเรา​ (ตำรวจ)​ ดูแลพระองค์ท่านด้วยชีวิต​ พวกพี่ดูแลด้วยชีวิตของพวกพี่จริงๆ” ผบ.ตร.ยืนยันหนักแน่น

ตามมาด้วย “กองทัพเรือ” มีหน้าที่เตรียมกำลังกองทัพเรือป้องกันราชอาณาจักร และดำเนินการเกี่ยวกับการใช้กำลังกองทัพเรือตามอำนาจหน้าที่ของกระทรวงกลาโหม โดย พลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ระบุว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นสถาบันที่อยู่คู่บ้านเมือง และนำพาประเทศชาติอยู่รอดมาถึงทุกวันนี้ ถ้าศึกษาประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะรัชกาลใด ได้นำพาประเทศให้เจริญก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศ รวมทั้งแก้ปัญหาในคราวที่ชาวต่างชาติจะมายึดครองประเทศไทย

“การที่ท่านสัญจรไปไหนมาไหน ความรักในท่าน อยากให้ทำการจราจรให้เรียบร้อย รถที่ติดนั้นพระองค์ท่านจะต้องไปปฏิบัติภารกิจมากมายก็จะได้เดินทางไปด้วยความเรียบร้อยถึงที่หมายทันเวลา คือความมุ่งประสงค์ เพราะฉะนั้นอยากให้คนไทยอยู่กันด้วยความเข้าใจ ความเคารพ ความรัก ความศรัทธา จะทำให้การปฏิบัติต่อพระองค์ท่านเป็นไปด้วยความเรียบร้อย” ผบ.ทร. กล่าว

“นายร้อย จปร.” สังกัดกรมยุทธศึกษาทหารบก กองทัพบก จัดกิจกรรม “ถวายกำลังใจ ทูลกระหม่อมอาจารย์” พลเอกหญิงสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี โดยมีกำลังพลของโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า โรงเรียนปิยชาติพัฒนา ร่วมทำกิจกรรมในวันจันทร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 15.30 น. ณ หอประชุมโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า อ.เมือง จ.นครนายก การจัดกิจกรรมมีรายงานว่า มีข้าราชการ นักเรียนจปร.กว่า 1,600 นาย รวมถึงมวลชนในพื้นที่

เมื่อถึงกำหนดการ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า จัดกิจกรรมถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพพลเอกหญิงสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุุดาสยามบรมราชกุมารี ณ หอประชุมโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า จังหวัดนครนายก โดยมี พลโท ไกรภพ ไชยพันธุ์ ผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า เป็นประธานในพิธี

ก่อนหน้านั้นเจ้าหน้าที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าแจ้งการปรับรูปแบบกิจกรรม “ถวายกำลังใจ ทูลกระหม่อมอาจารย์” พลเอกหญิงสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ที่ได้แจ้งสื่อมวลชน เป็นพิธีถวายพระพรฯ เพื่อแสดงความจงรักภักดี และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พลเอกหญิงสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุุดาสยามบรมราชกุมารี ในวันที่ 2 เมษายน 2567 ที่จะถึงนี้

กิจกรรมครั้งนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของ กิจกรรม Goodbye Summer ของนักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ที่จัดขึ้นในช่วงเดือนมีนาคมของทุกปีก่อนปิดภาคเรียน

สำหรับการจัดงานในครั้งนี้เพื่อให้ส่วนราชการโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าและส่วนราชการภายในจังหวัดนครนายก และโรงเรียนในพื้นที่ใกล้เคียง เช่น โรงเรียนเตรียมทหาร และโรงเรียนปิยชาติพัฒนา ได้มีโอกาสร่วมถวายพระพร

มีกิจกรรมอาเศียรวาทถวายพระพรชัยมงคล ถวายแจกันดอกไม้ รวมทั้งมีอาจารย์ในส่วนการศึกษาอ่านทำนองเสนาะถวายพระพร จากนั้นร่วมร้องเพลงหมู่จำนวน 2 เพลง และเปล่งเสียงทรงพระเจริญร่วมกัน พร้อมทั้งร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีก่อนจบพิธี

นาย รังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่มีการกล่าวหาว่า พรรคก้าวไกล อาจจะเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง กลุ่มทะลุวังที่บีบแตรใส่ขบวนเสด็จฯ ว่า หลายครั้งที่พรรคก้าวไกลถูกปรักปรำในลักษณะนี้ อะไรคือหลักฐานว่าเราอยู่เบื้องหลัง และในช่วงเวลาที่ผ่านมาที่เราอยู่ท่ามกลางวิกฤตทางการเมือง ในอดีตหลายคนเราอาจจะไปประกันตัว อาจจะไปเป็นนายประกันให้ แต่การทำในลักษณะนั้นต้องแยกออกจากการที่เขาขับเคลื่อน

การเชื่อมโยงกลุ่มต่างๆ กับพรรคก้าวไกล มีเหตุผลคืออาจเป็นกลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มทะลุวัง และต้องการสร้างความชอบธรรมหรือการดิสเครดิต กลุ่มทะลุวัง และต้องการทำลายพรรคก้าวไกลเช่นเดียวกัน ซึ่งไม่ควรจะไปมองแบบนั้น

“ผมยืนยันว่าเราไม่ได้ไปอยู่เบื้องหลังใคร และใครก็ไม่มาอยู่เบื้องหลังเรา พรรคก้าวไกลคือพรรคก้าวไกล ที่ทำหน้าที่โดยมีจุดยืน ในเรื่องของสิทธิมนุษยชน เราเชื่อในศักยภาพในการแสดงออก ส่วนเมื่อเขาแสดงออกไปแล้ว จะมีคนเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ก็เป็นสิทธิ์ของทุกคนที่จะแสดงความคิดเห็นได้ แต่จุดยืนของพรรคก้าวไกลคือเราไม่เห็นด้วยกับความรุนแรง ในการแสดงออกแบบนั้นคือการสร้างสังคมแห่งความหวาดกลัว เรามีบทเรียนมาแล้ว และไม่ได้ทำให้สังคมไทยดีขึ้นมาเลยแม้แต่น้อย” นายรังสิมันต์ กล่าว.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password