ก้าวไกลผิดหวังรัฐจัดงบปี’ 67 ชี้! ไม่ตอบโจทย์แก้สารพัดวิกฤตที่ฉายหนังตัวอย่างไว้

แกนนำฝ่ายค้านก้าวไกล “ศิริกัญญา ตันสกุล” บอกผิดหวังรัฐบาล! จัดงบประมาณปี’67 ชนิดไม่ตอบโจทย์แก้สารพัดวิกฤติที่เคยชี้ประเด็นให้สังคมไทยได้เห็น เผย! ต้องตามไปลุ้นอีกทีระหว่างอภิปรายในสภาฯ   

ไม่แปลกหาก พรรคการเมืองฝ่ายค้านจะมีความเห็นต่างไปจากรัฐบาล ในแทบจะทุกเรื่อง ทั้งที่เป็น นโยบายหลักและรอง รวมถึงการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ที่ค้างเติ่งมาแล้วครบ 3 เดือนเต็ม ล่าสุด เป็น “รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล” น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อฯ กล่าวถึง ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายฯ ข้างต้นว่า การจัดสรรงบประมาณฯในปี 2567 ไม่ตอบโจทย์และไม่สะท้อนปัญหาอย่างที่รัฐบาลเคยประกาศไว้ ไม่ว่าจะเป็นวิกฤติปากท้อง วิกฤติรัฐธรรมนูญ และวิกฤติความขัดแย้ง รวมถึงวิกฤติด้านการศึกษา วิกฤติด้านสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะปัญหาฝุ่น PM 2.5 แต่อย่างใด

“หลังจากศึกษาร่างงบประมาณปี 67 เห็นว่า ตั้งแต่รัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ และเตรียมจัดสรรงบประมาณที่ยังไม่ตอบโจทย์วิกฤติข้างต้น และเป็นการจัดสรรงบประมาณที่ไม่สะท้อนกำลังอยู่ในวิกฤติที่มี เท่าที่เห็นคือมีการจัดสรรงบประมาณที่ไม่เหมาะสม เราต้องการเห็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ยังไม่เห็นโครงการที่จะส่งเสริมเศรษฐกิจ แม้กระทั่งโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ก็ไม่อยู่ในร่างงบประมาณ ซึ่งคงต้องไปรอลุ้นพิจารณาร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ ผ่านสภาผู้แทนราษฎร” รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าว

ส่วนงบประมาณจัดทำประชามติแก้ไขยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ น.ส.ศิริกัญญา ระบุว่า มีการตั้งงบประมาณทำประชามติไว้ครึ่งประชามติ แน่นอนเรายังไม่รู้แน่ชัดว่าจะมีการทำประชามติที่แน่นอนกี่ครั้ง และเมื่อไร ฝ่ายค้านเข้าใจรัฐบาลที่ต้องรับภาระชำระหนี้จากรัฐบาลชุดที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น หนี้เงินคงคลัง 1.2 แสนล้านบาท และหนี้ผ่อนชำระเกือบ 4 แสนล้านบาท แต่ส่วนที่ต้องจัดสรรงบประมาณเรากลับไม่เห็นการขับเคลื่อนนโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภาและนโยบายที่ได้หาเสียงเอาไว้เลย

“รู้สึกผิดหวังกับการจัดสรรงบประมาณที่ดูเหมือนว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากรัฐบาลก่อนหน้านี้​ พร้อมตั้งข้อสังเกต 2 ประการ คือ เรื่องระยะเวลาที่ไม่สามารถใส่โครงการใหม่ๆ เข้ามาได้ แต่ต้องยอมรับว่างบประมาณฉบับนี้มีการแก้ไขปรับปรุงตลอดเวลา ขณะเดียวกันยังมองอีกว่าการเข้าสู่อำนาจของรัฐบาลทำให้รัฐบาลต้องประนีประนอมกับหลายฝ่ายที่ร่วมรัฐบาล ทำให้หลายโครงการที่เป็นเรือธง เช่น การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ หรือแจกแท็บเล็ต ต้องเปลี่ยนไปอยู่ในมือของรัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาลแทน จึงไม่สามารถขับเคลื่อนได้​ ซึ่งนี่เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลจากการได้ร่างงบประมาณเพียง 4 วันเท่านั้น” น.ส.ศิริกัญญา​ ระบุ.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password