“ยุทธพงศ์” ป้อง “เศรษฐา” เรียกร้องความเป็นธรรมให้แคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย ที่หลายพรรคร่วมสนับสนุน ชี้ปม”ชูวิทย์”แฉ เป็นเพียงข้อกล่าวหา ยังเป็น “ผู้บริสุทธิ์” มีสิทธิสู้คดีพิสูจน์ข้อกล่าวหา ทั้ง ป.ป.ช.-ศาลฎีกา
วันที่ 20 ส.ค.2566 นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ออกมาระบุถึงกรณีที่ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคเพื่อไทย ถูก นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ ออกมาเปิดเผยข้อมูลกล่าวหา โจมตีเรื่องที่ดินต่างๆ ครั้งยังเป็น ผู้บริหาร บริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน) ว่า เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับนายเศรษฐา เพราะว่าวันนี้ต้องยอมรับว่านายเศรษฐาได้ก้าวจากนักธุรกิจมาเป็นนักการเมืองอย่างเต็มตัว ดังนั้นนายเศรษฐาพร้อมให้ตรวจสอบอย่างเต็มที่ตามกระบวนการยุติธรรม

ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยปี 2560 มาตรา 29 ระบุว่า “ในคดีอาญา ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่มีความผิด และก่อนมีคำพิพากษาอันถึงที่สุดแสดงว่าบุคคลใดได้กระทำความผิด จะปฎิบัติต่อบุคคลนั้นเสมือนเป็นผู้กระทำความผิดมิได้ “ จึงถือว่านายเศรษฐา ยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ ตามรัฐธรรมนูญ ตราบใดที่ยังไม่มีคำพิพากษาอันเป็นที่สุดออกมา

นายยุทธพงศ์ กล่าวอีกว่า ในเมื่อพรรคเพื่อไทย ได้เลือกนายเศรษฐา เป็นแคนดิเดตนายรัฐมนตรีของพรรค และการเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 22 ส.ค.นี้ ไม่ใช่เป็นเรื่องส่วนตัวของนายเศรษฐา แต่เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทยและพรรคการเมืองอื่นๆ ที่ร่วมกัน เป็นพรรคการเมืองที่สนับสนุนให้นายเศรษฐาเป็นนายกรัฐมนตรี

ส่วนเรื่องที่นายชูวิทย์ ออกมากล่าวหานายเศรษฐา กรณีที่ดินต่างๆ นายชูวิทย์ก็มีสิทธิเดินหน้าตรวจสอบเรื่องที่ดินต่างๆ ต่อไป โดยถ้านายชูวิทย์คิดว่านายเศรษฐากระทำความผิด ก็สามารถยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบนายเศรษฐา

“ถ้าคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลว่านายเศรษฐาผิด นายเศรษฐาก็ยังสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง ได้อีกครั้งเป็นขั้นตอนสุดท้าย ผมจึงขอยํ้าว่า ขณะนี้นายเศรษฐา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่” รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าว.