ความชอบธรรม???

(กับคำถามและข้อสงสัย? ถึง “ความชอบธรรม” ของทุกฝ่าย!!! ในสมรภูมิแก้รัฐธรรมนูญปี 2560)
ท่ามกลางกระบวนการแก้รัฐธรรมนูญปี 2560 การเมืองไทยกำลังเผชิญคำถามหนักแน่นเรื่อง “ความชอบธรรม” ของทุกกลุ่ม ตั้งแต่ ส.ว. รัฐบาลเสียงข้างน้อย ไปจนถึงสองขั้วฝ่ายค้านที่ต่างก็มีรอยด่างในสายตาสาธารณะ
ท่ามกลางการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 ซึ่งถูกมองว่าเป็น “จุดเปลี่ยนสำคัญ!” ของ โครงสร้างอำนาจการเมืองไทย
ร่องรอยแรงปะทะ! ของ ทุกฝ่ายในระบบการเมืองไทย มันได้เผยให้เห็นถึง “รอยร้าว…ที่ลึก!” กว่าประเด็นตัวบทในการแก้ไขรัฐธรรมนูญฯ นั่นคือ…
คำถามใหญ่เรื่อง “ความชอบธรรม” ของผู้เล่นทางการเมืองแทบทุกกลุ่ม? ซึ่งต่างก็มีเหตุให้ต้อง “ถูกตั้งข้อสงสัย” ในห้วงเวลาเดียวกัน
ราวกับภาพสะท้อน…วิกฤตศรัทธา! ทั่วทั้งระบบ!!??
สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ซึ่งเป็น…ผู้มีบทบาทสำคัญในการขวา หรือเปิดทาง…ให้การแก้รัฐธรรมนูญเดินหน้า กลับถูกเพ่งเล็งมากขึ้น
เมื่อ ส.ว.จำนวนหนึ่ง? ยืนกรานว่า…ควรคงเงื่อนไขให้การแก้รัฐธรรมนูญต้องได้รับเสียง ส.ว.อย่างน้อย 1 ใน 3 พร้อมต้องการ “บทเฉพาะกาล” คุ้มครองวาระและอำนาจของตนเอง ด้วยข้ออ้างบนเหตุผลที่ว่า…
หากไม่มีการเขียนรองรับจะเหมือนเป็น “ใบลาออกล่วงหน้า”
อาจฟังดูสมเหตุสมผลในเชิงตัวบท แต่ใน “เชิงการเมือง” กลับยิ่งตอกย้ำ…ถึงข้อสงสัยของสังคมไทย ว่า…ที่สุด! ส.ว.กำลังหวงอำนาจที่ได้รับจากรัฐธรรมนูญ 2560 มากกว่าปกป้องหลักการเชิงสถาบัน จนกลายเป็น “จุดเปราะ” ในการต่อรองของวุฒิสภาเอง…หรือไม่???
ขณะเดียวกัน รัฐบาลเสียงข้างน้อย ภายใต้การนำ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เอง ก็เผชิญความสงสัยไม่แพ้กัน??? เมื่อพรรคเพื่อไทย…ประกาศเตรียมยื่นร้องศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ตรวจสอบคุณสมบัติและจริยธรรมของรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล
แม้แต่…นายกรัฐมนตรีเอง ก็อยู่ในข่ายที่อาจถูกพิจารณา
การส่งสัญญาณ “พร้อมยุบสภา” ของรัฐบาล หากถูกยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ยิ่งซ้ำเติมความรู้สึกว่านี่อาจเป็นการหลบเลี่ยงการตรวจสอบ มากกว่าจะเป็นความเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ใจของฝ่ายบริหาร
การที่ต้อง เผชิญกับโจทย์สำคัญในเรื่องความชอบธรรมทางจริยธรรม! จึง “ทับซ้อน” กับความอ่อนแอ ที่ “หัวหน้ารัฐบาล” มีต่อพรรคพวกตัวเอง สิ่งนี้…มันทำให้รัฐบาล ดู “เปราะบาง” กว่าที่ตัวเลขเสียงสนับสนุนในสภาฯ
ฝั่งฝ่ายค้านเอง แม้จะมีสถานะ “ตรวจสอบ” อย่างเป็นทางการ แต่ก็ไม่พ้นจากการถูกตั้งคำถาม???
พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นแกนนำฝ่ายค้านในปัจจุบัน ยังคงเผชิญ “ภาพจำ” จากการตัดสินใจ “ร่วมตั้งรัฐบาล” หลังเลือกตั้ง 2566 โดยถูกมองว่า…เป็นการ “หักล้าง” สัญญาทางการเมือง กับบางพรรคเมือง?
อีกทั้ง ยังถูกวิจารณ์ว่า…การเคลื่อนไหว “ซักฟอก” หรือยื่นร้องศาลรัฐธรรมนูญครั้งนี้ อาจมีกลิ่นอายของ “แรงจูงใจ” ทางอำนาจแฝงอยู่
แม้จะเป็นสิทธิที่กระทำได้ตามกติกา แต่ “ความชอบธรรม” ทางความรู้สึกสาธารณะ…อาจไม่ใช่สิ่งที่จะเรียกคืนจากสังคมไทยได้ง่าย ๆ
ด้าน พรรคประชาชน ซึ่งถูกขนานนามว่าเป็น “ฝ่ายค้าน…ค้ำรัฐบาล” ก็ไม่ต่างกันนัก! พรรคนี้…ตกอยู่กลางระหว่างบทบาทตรวจสอบ กับบทบาทค้ำยันให้รัฐบาล เพื่อไม่ให้ “ล้ม!” ง่ายจนเกินไปนัก
ท่าทีที่ลอยไปลอยมาในการร่วมอภิปรายแก้รัฐธรรมนูญ และการลงมติในหลายช่วง ทำให้ “ฐานเสียง” บางส่วน? ตั้งคำถามว่า…
พรรคประชาชน…ทำงานเพื่อประชาชน หรือเพื่อรักษาพื้นที่ต่อรองในสมการการเมือง! กันแน่???
เพราะหากฝ่ายค้าน…ไม่ทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ ก็ย่อมถูกมองว่า…ขาดความชอบธรรม ในการอ้างตัวว่าเป็น “ผู้ปกป้อง” ผลประโยชน์สาธารณะ ได้เช่นกัน…
เมื่อ มองทั้งภาพใหญ่…การเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญปี 2560 ซึ่งควรเป็น “เวที” สร้างฉันทามติร่วมกัน กลับกลายเป็น…พื้นที่ที่เผย “ความเปราะบางของความชอบธรรม” ของทุกฝ่ายในระบบการเมือง???
ไม่ว่าเป็นฝ่ายไหน??? ทั้ง ฝ่ายนิติบัญญัติ, ฝ่ายบริหาร หรือฝ่ายค้าน ทั้งค้ำและแค้น! ต่างก็เผชิญกับ “ข้อครหา” ในแบบของตนเอง
ต่อเสียงเรียกร้องให้ “ทบทวน” กติกาประเทศ…ได้ถูกสะท้อนมากกว่า…การปรับเปลี่ยนข้อความในรัฐธรรมนูญ
เพราะมันได้บ่งชี้ว่า…ประชาชนต้องการ “ผู้เล่นการเมือง” ที่ยืนอยู่บนความชอบธรรม!!! ทั้งในเชิงกติกาและเชิงคุณธรรม อย่างแท้จริง!!??
และเมื่อ…ทุกฝ่ายต่าง ถูกตั้งคำถามพร้อมกันเช่นนี้ การแก้รัฐธรรมนูญ จึงไม่ใช่เพียงศึกด้าน…บทบัญญัติ แต่เป็น…บททดสอบ ที่ว่า…
สถาบันการเมืองไทย…จะสามารถ “ฟื้นคืน…ความชอบธรรม” ต่อสายตาประชาชนได้มากน้อยเพียงใด??? ในห้วงเวลาที่ “พลังและแรงศรัทธา” ต่อระบบการเมืองไทย…
ที่ดูเหมือนมันกำลังจะ…ลดเพดานความน่าเชื่อถือ “ต่ำลง!” ไม่ต่างจาก…คะแนนนิยมของ “นักการเมือง” ในสนามเลือกตั้งรอบหน้า!!!.






