รัฐบาล : ค้าน – แค้น – ค้ำ!!!

วิวาทะการเมือง “4 เดือนยุบคดี 4 หายนะ” VS “2 ปี 2 รัฐบาล ผลาญโอกาสแผ่นดิน” รัฐบาลภายใต้การทำหน้าที่ดูแลของพรรคฝ่ายค้ำ ท่ามกลางเพลิงพยาบาทของพรรคฝ่ายแค้น สุดท้าย! คนไทยจะได้หรือจะเสียอะไรกันแน่!!??”
การเมืองไทย…เดินทางมาถึง “จุดตัด!” ครั้งสำคัญ! อีกครั้ง เมื่อ…เวทีการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา ระหว่าง วันที่ 29-30 กันยายน 2568 กำลังถูกมองจากทุกสายตาในสังคมไทยว่า…อาจกลายเป็น “สนามรบ” ทางวาทกรรมในทางการเมือง อีกหรือไม่???
ก่อนหน้านี้ เป็น…รัฐบาลใหม่ ภายใต้การนำของ พรรคภูมิใจไทย และมี “หัวหน้ารัฐบาล” ชื่อ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ออกตัวแรงด้วยคำมั่น “4 เดือนแก้ 4 ภัย” เพื่อคืนความมั่นใจให้ประเทศ
นายกฯอนุทิน ประกาศชัด! “ทำได้เร็ว และต้องทำเลย” หมายถึง…อะไรทำได้ ทำเลย ไม่ต้องรอ! เป้าหมายคือ…
เร่งเยียวยาเศรษฐกิจ ฟื้นความมั่นคง รับมือภัยธรรมชาติ และสลายภัยสังคมในเวลาอันสั้น
เพื่อพิสูจน์ว่า…รัฐบาลชุดนี้มีประสิทธิภาพ “ทันใจ” ไม่ยืดยาดเหมือนอดีต
แต่ในขณะที่ รัฐบาลพยายามวาดภาพ “ความไว–ความเด็ดขาด!” นั้น ฝ่ายค้านเพื่อไทย ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็น ฝ่ายแค้น!…กลับชี้ให้เห็น “อีกด้าน” ของความเร่งรีบ ว่า…
มิใช่การแก้ปัญหาเพื่อประชาชน หากแต่เป็น “4 เดือนยุบคดี 4 หายนะ!!!”
นับตั้งแต่การ…จัดตั้งคณะรัฐมนตรี ที่ถูกกล่าวหาว่า…เลือกคนเพื่อภารกิจ “เคลียร์คดี” มากกว่าการทำงานเพื่อชาติ
ฝ่ายค้าน จึงตีกรอบชัดว่า…รัฐบาลกำลังเดินเข้าสู่เส้นทางอันตราย ที่จะทำให้ประเทศเผชิญ “หายนะ” ทั้งการ…เสียโอกาส ขาดคนเก่ง ขาดความโปร่งใส และไร้อนาคตประชาธิปไตย!!!
ขณะที่ ฝั่งรัฐบาล ก็มองไม่ต่างกัน? ฝ่ายค้านเพื่อไทย ที่เคยบริหารประเทศมา 2 ปี กับ 2 รัฐบาล “เศรษฐา ทวีสิน และแพทองธาร ชินวัตร” ก็มีพฤติกรรม...ผลาญโอกาสแผ่นดิน เช่นกัน
ท่ามกลาง “ศึกปะทะ” นี้ พรรคประชาชน ซึ่งก็ไม่ต่างจาก พรรคเพื่อไทย เพราะถูกกล่าวหาว่าเป็น “ฝ่ายค้ำ” ให้กับ “รัฐบาลอนุทิน” ยังคงยืนยันถึงบทบาทของตัวเอง ในฐานะ “ผู้ตรวจสอบเข้ม” ขอประกาศ…ไล่เช็กทั้งเศรษฐกิจ ความมั่นคงชายแดน การแทรกแซงคดี และคุณสมบัติรัฐมนตรีที่ถูกตั้งคำถาม
การพาดพิงนโยบายของรัฐบาล “4 เดือนยุบคดี 4 หายนะ!!!” ที่ “โฆษกพรรคเพื่อไทย” นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ พาดพิงไปถึง พรรคประชาชน ในฐานะ “ฝ่ายค้ำ” ได้ถูกตอกกลับทันควันแบบไม่ไว้หน้า! จาก นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน…
“หยุดแกว่งปากหาเสี้ยน… 2 ปีที่ผ่านมาเป็นรัฐบาล ผลงานไม่มี สร้างแต่ปัญหา”
ประโยคนี้…สะท้อนภาพการเมืองไทยที่ไม่ได้มีเพียง “รัฐบาลกับฝ่ายค้าน” แต่ยังมีกลุ่มการเมืองใหม่ที่ถูกมองว่า…พยายามวางตัวเป็น “ฝ่ายค้ำ” ในการชี้เป็นชี้ตาย
เมื่อต่างฝ่ายต่างงัดวาทกรรมขึ้นมา ความจริงที่สะท้อนคือ “การแก้ปัญหาใน 4 เดือน” ของรัฐบาลอนุทิน กับ “การทำพลาดใน 2 ปี” ของรัฐบาลก่อนหน้านี้ กลายเป็น…เครื่องมือประหัตประหารกันทางการเมือง
แต่สำหรับประชาชนที่รอคอยคำตอบแท้จริง คำถามใหญ่ คือ สิ่งที่ถูกพูดบนเวทีนั้น จะกลายเป็นผลงานที่จับต้องได้จริง หรือเป็นเพียงควันหลงที่ดับไปพร้อมเสียงอภิปราย…
การที่ “รัฐบาลอนุทิน” เลือกเดินเกม “เร็ว” หวังสร้างผลลัพธ์ฉับไว ด้วยโครงการอย่าง “คนละครึ่งพลัส” ที่จะช่วย…พยุงค่าครองชีพ และนโยบายเข้มจัดการยาเสพติด–แก๊งคอลเซ็นเตอร์ รวมถึง การจัดทัพเพื่อเผชิญปัญหาชายแดนกับกัมพูชา
แต่ความเร็วในเชิงนโยบาย กลับถูก ฝ่ายค้าน(แค้น) ตีความว่าเป็น “ความเร่งรัดเพื่อผลประโยชน์เฉพาะกลุ่ม…ไม่ใช่เพื่อส่วนรวม”
ขณะเดียวกัน พรรคเพื่อไทยที่เคยเป็นรัฐบาล 2 รัฐบาล ในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา คงไม่พ้นจะถูก “ย้อนศร” ด้วยข้อกล่าวหา “ผลาญโอกาสแผ่นดิน” ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน!!!
และยังคง ทิ้งปัญหาให้ “รัฐบาลใหม่” ต้องตามไปเก็บกวาด???
เสียงสวนกลับ! ของ นายโรม จึงไม่ใช่แค่การโต้เถียง แต่มันคือ…การย้ำเตือนประชาชน ว่า…อย่าเพิ่งลืมว่าใครคือ “ผู้ครองอำนาจ” ในช่วงที่ผ่านมา และใครทำให้ประเทศต้องเสียเวลาและโอกาสดีๆ
นี่คือ…ความจริงที่ประชาชนต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน ระหว่าง “รัฐบาลใหม่” ที่อาจแก้ปัญหาได้ไว แต่เสี่ยงต่อการใช้ความไว เป็นเครื่องมือจัดการผลประโยชน์
และ “ฝ่ายค้าน(แค้นและค้ำ)” ที่อาจชี้ “จุดอ่อน” ของคนอื่นได้ แต่กลับไม่สามารถ “ปกป้อง” ผลงานของตนเองในช่วงเวลาที่เคยบริหารประเทศมาแล้ว
สุดท้าย ภายใต้การทำหน้าที่ของ ฝ่ายค้าน…ทั้งฝ่ายแค้นและฝ่ายค้ำ! ไม่ว่า…จะเป็นฝ่ายใดที่ “กุมไม้ขีดไฟ” ของประเทศไทย หมายถึง…อำนาจชี้ขาด! ที่แม้จะเล็กเหมือนไม้ขีดไฟ แต่ก็สามารถจะจุดประกายความหวัง หรือแปรเปลี่ยนกลายเป็นการ “จุดไฟแห่งหายนะ” ให้กับประเทศไทยก็เป็นได้
สิ่งนี้…มันกำลังเดินอยู่บน “เชือกเส้นบางๆ” ระหว่าง “ความหวัง” ที่จะเห็นผลลัพธ์จริงใน 4 เดือน กับ “ความสิ้นหวัง” ที่ย้อนกลับไป “ซ้ำรอย…ความล้มเหลว” ใน 2 ปีที่ผ่านมา
สิ่งที่คนไทยจะได้จริงๆ ไม่ใช่เพียงการอภิปรายที่แสบสันบนเวที แต่คือการพิสูจน์ว่า “ใครทำได้ ใครทำไม่ได้” ในสนามจริง
เพราะการเป็น “รัฐบาล 4 เดือน” ตามที่ได้สัญญากันไว้ แล้วกลับกลายเป็นแค่ “4 เดือนยุบคดี” ประเทศไทยย่อมจะเสียหายยิ่งกว่าเดิม
แต่หาก รัฐบาลทำได้จริง แม้เพียง “ครึ่งหนึ่ง” ของที่ประกาศเอาไว้ ประเทศก็ยังมีโอกาสพลิกฟื้นกลับมาได้
คำถาม…จึงไม่ใช่แค่ว่า “ใครพูดอะไร” แต่คือ “ใครทำอะไรได้จริง!”
และท้ายที่สุด…คนไทยไม่ได้ต้องการคำตอบจากวาทกรรมในรัฐสภา หากแต่ที่ต้องการ คือ… “ผลงานจริง” ที่พิสูจน์ว่า…
ประเทศนี้…ยังพอมีอนาคตที่ไม่ต้องถูก “ผลาญโอกาส!!!” ซ้ำแล้วซ้ำเล่า…จากน้ำมือของนักการเมือง ไม่ว่า…จะเป็นฝ่ายไหน??? ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน ฝ่ายแค้น หรือฝ่ายค้ำ!!??.