จ้างผีโม่แป้ง!!??

มีเงิน! จะทำอะไรก็ได้ แม้แต่ “จ้างผีโม่แป้ง” สำรองจ่ายไปเท่าไหร่? ก็เรียกคืนจากเงินงบประมาณแผ่นดินได้… ร้อยพันเท่าทวีคูณ! ปมที่ พรรคประชาชน ออกมาปูดข่าว “จ้าง ส.ส.ฝ่ายค้าน” หัวละ 10 ล้านบาท แลกการโหวตหนุนผ่าน 2 ร่างกฎหมายของรัฐบาล ทำให้สังคมไทยตั้งคำถามตัวโตๆ แล้วรากฐานประชาธิปไตย และบ้านเมืองไทย จะไม่ถอยหลังลงคลองได้อย่างไรกัน???

ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2569 ที่เพิ่งจะผ่านการเห็นชอบของเสียงส่วนใหญ่ในสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา กลายเป็นประเด็นร้อนแรงทั้งในทางการเมืองและสังคม

เพราะก่อนหน้านี้ มี แกนนำ และ ส.ส.จากฝ่ายค้าน “พรรคประชาชน” ออกมาปูดข้อมูล “สายลึกลับ” โทรซื้อแลกยกมือโหวตรับ 2 ร่างกฎหมาย “งบฯปี 2569 – เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์” ด้วยข้อเสนอเป็นวงเงินสูงถึงหัวละ 10 ล้านบาท

สิ่งนี้…สร้างแรงสะเทือนเลื่อนลั่น!!!

แต่มันจะมีจริงหรือ???

กระนั้น บรรยากาศการประชุมก่อนจะมี การโหวตเสียงฯในสภาผู้แทนราษฎร ได้กลายเป็นเวทีที่ไม่เฉพาะการ “ดีเบตนโยบาย” แต่กลับถูกตั้งคำถามเรื่อง…ความศรัทธา ความโปร่งใส และความน่าเชื่อถือของระบบการเมืองไทย อีกครั้งหนึ่ง

สื่อและสังคมไทย ต่างหยิบเรื่องนี้ มาตีความในทำนองสอดรับกันว่า “มีเงิน…อะไรก็ซื้อหมด แม้แต่จะจ้างให้ผีโม่แป้ง”

เสียงกล่าวหาข้างต้นมิได้เกิดจากความเลื่อนลอย เพราะจากการเปิดเผยโดยตรงจากปากของ 2 ส.ส.ขอนแก่น พรรคประชาชน ที่ออกมาให้ข้อมูลต่อสาธารณะว่า…มีบุคคลปริศนาติดต่อมาเพื่อเสนอดีล “ซื้อเสียงในสภา”

รูปแบบการจ่ายถูกอธิบายไว้อย่างละเอียดว่า…จะใช้วิธีแบ่งเป็น 3 งวดๆ แรก 3 ล้านบาทจ่ายก่อน

อีก 4 ล้านบาทจ่ายให้ หลังโหวตรอบแรก

ที่เหลือ 3 ล้านบาท…จ่ายให้เมื่อถึงรอบสุดท้าย

มีการเล่าไล่เรียงลำดับเหตุการณ์ชัดเจน เริ่มจาก…การส่งข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ก่อนจะขอเบอร์โทรศัพท์ และตามด้วยการเจรจาในเชิงชักชวนให้รับข้อเสนอดังกล่าว

2 ส.ส.พรรคประชาชน “นายชัชวาล อภิรักษ์มั่นคง และ นายวีรนันท์ ฮวดศรียืนยันหนักแน่นว่า…ไม่อาจยอมแลกเกียรติและศักดิ์ศรีของผู้แทนราษฎรกับเม็ดเงินเหล่านั้น

ความจริงที่น่าสนใจคือ ข้อกล่าวหาเช่นนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การเมืองไทย เรื่อง “ซื้อมือ ซื้องบ” ถูกพูดถึงเรื่อยมาในวงลับและข่าวลือ แต่ไม่ค่อยถูกเปิดเผยออกมาต่อหน้าสาธารณชนโดยตรง

การที่ครั้งนี้มี ส.ส.ออกมาพูดต่อสื่อ จึงทำให้เรื่องราวได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง ประชาชนจำนวนมากรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล และตั้งคำถามถึงมาตรฐานคุณธรรมในสภาที่ควรเป็นเวทีศักดิ์สิทธิ์ของการถกเถียงนโยบายเพื่อประชาชน

แต่ในอีกด้านหนึ่ง ฝ่ายรัฐบาล โดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล  ออกมาตอบโต้ทันที ทำนอง…ข้อกล่าวหาดังกล่าวเลื่อนลอย!!!

หากมีจริงควรจะเปิดเผยชื่อบุคคล หรือกลุ่มการเมืองที่อยู่เบื้องหลังให้ชัดเจน

ขณะที่ บางพรรคร่วมรัฐบาล เห็นว่า หากฝ่ายค้านมั่นใจว่ามีการซื้อขายเสียงในสภาจริง ก็ควรนำหลักฐานเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือหน่วยงานอิสระที่เกี่ยวข้อง มิใช่เพียงการเปิดประเด็นต่อสื่อที่อาจกลายเป็นเพียงการสร้างกระแสทางการเมือง

สิ่งที่ทำให้สังคมตั้งคำถามกับเรื่องนี้ ก็คือ…แม้จะยังไม่มีหลักฐานปรากฏอย่างชัดแจ้ง แต่ผลการโหวตในสภากลับแสดงให้เห็นว่า…

มี “ส.ส.ฝ่ายค้าน” ถึง 8 คนที่ลงคะแนนเห็นชอบกับร่างงบประมาณ ทั้งที่พรรคต้นสังกัดของพวกเขา ได้ประกาศจุดยืนไม่เห็นด้วยมาตั้งแต่ต้น

ก็ไม่แปลก! หาก 8 ส.ส. จะถูกนำมาเชื่อมโยงทันที! และก่อให้เกิดการถกเถียงกันอย่างดุเดือดในสังคมการเมืองตามมา

บางฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่า…เป็นไปได้หรือไม่? ที่เสียงแปรพักตร์เหล่านี้ จะเกี่ยวข้องกับข้อเสนอการว่าจ้างดังกล่าว ขณะที่บางฝ่ายก็ชี้ว่า…อาจเป็นเพียงความเห็นทางการเมืองส่วนบุคคลที่แตกต่างไปจากมติพรรค

สิ่งที่น่ากังวลคือ ความไม่ชัดเจนเช่นนี้ กำลังทำให้ภาพลักษณ์ของสภาผู้แทนราษฎร เสื่อมทรุดลงอย่างหนัก!!!

ประชาชนที่เฝ้าติดตามการประชุมผ่านการถ่ายทอดสดหรือรายงานข่าว ต่างรู้สึกว่า…การเมืองไทยยังคงติดหล่มอยู่กับวัฒนธรรม “เงินคือคำตอบสุดท้าย” แม้จะอยู่ในยุคที่ประเทศควรเดินไปข้างหน้าด้วยการใช้เหตุผลและข้อมูล

ความเชื่อมั่นในสถาบันทางการเมืองจึงถูกสั่นคลอนอย่างยากจะฟื้นคืน

ประโยคเปรียบเปรยว่า “ก็ไม่ต่างจากจ้างผีโม่แป้ง” จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ แทนความสิ้นหวังของประชาชน ที่เห็นการใช้งบประมาณประเทศ ซึ่งควรเป็นเครื่องมือพัฒนา กลับถูกแปรเปลี่ยนเป็นเครื่องต่อรองส่วนตัว

อีกประเด็นที่ควรถูกหยิบยกมาคือ การทำงานของกลไกตรวจสอบในระบบรัฐสภา หากข้อกล่าวหาเช่นนี้เกิดขึ้นจริง หน่วยงานที่มีหน้าที่ เช่น คณะกรรมาธิการจริยธรรม หรือ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็ควรเข้ามาตรวจสอบ โดยไม่รอให้มีผู้ร้องอย่างเป็นทางการ

เพราะนี่คือ เรื่องใหญ่! ที่กระทบต่อความชอบธรรมของทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน

หากปล่อยให้ผ่านไป โดยไม่ชี้แจงชัดเจน ย่อมทำให้ความเชื่อมั่นของประชาชนในทุกพรรคการเมืองลดต่ำลง และจะกลายเป็นบาดแผลทางการเมืองที่กัดกร่อนความศรัทธาต่อระบบในระยะยาว

ในแง่ วัฒนธรรมทางการเมือง “การซื้อเสียงในสภา” ยังสะท้อนให้เห็นว่า การเมืองไทยยังไม่สามารถก้าวพ้นจากวังวนเก่า ๆ ที่ผลประโยชน์ส่วนบุคคลมีค่ามากกว่าประโยชน์ส่วนรวม

นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์จำนวนมากเคยเตือนว่า ตราบใดที่ระบบพรรคการเมืองยังมีความเปราะบาง ขาดกลไกควบคุมภายในที่เข้มแข็ง และยังมีช่องโหว่ทางกฎหมายให้มีการแปรพักตร์ได้ง่าย วัฒนธรรมการซื้อเสียงในสภาก็จะยังคงอยู่ต่อไป

เหตุการณ์ครั้งนี้ จึงไม่ใช่เรื่องเล็ก แต่เป็นเหมือนสัญญาณเตือนภัยว่า…ประชาธิปไตยไทยกำลังป่วยด้วยโรคเรื้อรังที่ชื่อว่า “การเมืองเงินสด”

ท้ายที่สุด! เมื่อมองในภาพรวม จะเห็นว่า…เรื่อง “หัวละ 10 ล้าน” แม้ยังไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัด

แต่เรื่องนี้…ได้จุดไฟแห่งความไม่ไว้วางใจในหมู่ประชาชนขึ้นแล้ว!!!

การที่สังคมไทย…พร้อมใจกันตั้งคำถาม? ต่อกลไกการใช้งบประมาณมหาศาลกว่า 3.78 ล้านล้านบาท แสดงให้เห็นถึงความรู้สึกว่า…เงินภาษีของประชาชนไม่ได้ถูกใช้ไปอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม???

แม้รัฐบาลจะยืนยันว่า…การใช้งบประมาณจะมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้

แต่เมื่อมีข่าว “การซื้อขายเสียง” โผล่ขึ้นมาในเวลาเดียวกัน ความเชื่อมั่นที่มีอยู่…ก็แทบถูกทำลายลงโดยสิ้นเชิง!!!

และกลายเป็น ภาระที่รัฐบาลเองต้องแบกรับในการสร้างความศรัทธากลับคืนมา

บรรทัดนี้ หากจะถามว่า…เรื่องนี้จริงหรือไม่??? คำตอบในทางข้อเท็จจริงคือ ยังไม่มีหลักฐานเป็นชิ้นเป็นอันที่จะตัดสินได้อย่างเด็ดขาด!!!

แต่ในทางสังคมและการเมือง เรื่องนี้ “จริงแล้ว” เพราะมันได้สร้างบาดแผลแห่งความไม่ไว้วางใจขึ้นมาในใจประชาชนเรียบร้อยแล้ว

ไม่ต่างจากวลี “จ้างผีโม่แป้ง”

ที่ต่อให้ “โม่” อย่างไร? ผลสุดท้ายก็ไม่เกิดแป้งขึ้นมา

สะท้อนให้เห็นว่า…การจ่ายเงินเพื่อ “ซื้อใจ” นักการเมือง ไม่อาจสร้างความชอบธรรมใด ๆ ได้จริง

หากแต่กลับกลายเป็นการ ทำลายรากฐานประชาธิปไตย และทำให้ บ้านเมืองถอยหลังลงคลอง ไปไกลกว่าเดิม!!!

คำขอบคุณจากปากของ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ในฐานะ “ผู้แทนรัฐบาล” เพราะไม่มี นายกฯตัวจริง ให้อยู่คอยปฏิบัติงาน ต่อ…สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่ได้พิจารณาให้ความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2569

จะครอบคลุม “ผีโม่แป้ง” ด้วยหรือไม่? เชื่อว่า…สังคมไทยก็คงจะมีคำตอบในใจแล้วเช่นกัน!!!.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password