ศัตรูที่แท้จริง!!??

พรุ่งนี้ (9 ก.ค.2568) จะครบ 90 วัน ที่รัฐบาลสหรัฐฯ ผ่อนปรนให้กับประเทศไทย โดยให้เร่งยื่นข้อเสนอ นำไปสู่การเจรจาของ 2 ประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาด้านความไม่เป็นธรรมทางการค้าระหว่างกัน เนื่องเพราะฝั่งสหรัฐฯ ขาดดุลการค้ากับไทยมากเป็นจำนวนเกินหลัก 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ทว่า “หัวหน้าทีมไทยแลนด์” อย่าง…นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ที่นำคณะฯไปเจรจากับตัวแทนรัฐบาลสหรัฐฯ เมื่อตลอดสัปดาห์ก่อน ต่อเนื่องถึงต้นสัปดาห์นี้
กลับต้องพกกับผิดหวังกลับมาประเทศไทย
ไอ้ที่ให้ข่าวตามหน้าสื่อ หรือใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียสื่อสารกับคนไทยนั้น ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น…อาจแตกต่างจากที่เป็นข่าว!!??
แต่อีกด้านหนึ่ง ไทยยังมีปมความขัดแย้งเกี่ยวกับปัญหาดินแดนกับฝั่งกัมพูชา ที่ขยายผลทั้งในแนวกว้างและลึก!
ถึงตอนนี้…ก็ยังไม่มีเค้าลางว่าจะจบลงง่ายๆ! แถมคนจากฝั่งกัมพูชา ไม่ว่าจะเป็น ทหารหรือประชาชน ในฐานะ “นักท่องเที่ยว” ยังคงเปิดปฏิบัติ “ยั่วยุ” คนไทยและทหารไทยในพื้นที่ปราสาทต่างๆ โดยเฉพาะปราสาทตมเมือนธม
เรียกว่า…ทำกันอย่างเป็นระบบ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ตั้งแต่ระดับ…ผู้นำประเทศ ผู้นำรัฐบาล ผู้นำกองทัพ เรื่อยไปจนถึง…ทหารตามแนวพรมแดนที่เดินลานตระเวนในทุกวัน รวมถึง ระดับประชาชนคนชั้นล่างของกัมพูชา
ที่สุด! กลายเป็นเรื่องความไม่พอใจของ นายฮุน เซน!!??
ทั้งเหตุลึกๆ จากการที่ รัฐบาลไทย…พยายามผลักดันเรื่องบ่อนคาสิโนถูกกฎหมาย ที่แอบซุกอยู่ใน…ร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ให้เกิดขึ้นบนแผ่นดินไทย…
และเหตุจากการเดินหน้า ประสานนานาชาติ เร่งปราบปราม…พวกสแกมเมอร์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างหนักหน่วง
หลายคนอาจแยกไม่ออกระหว่าง…สแกมเมอร์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สรุปให้สั้น ง่าย และกระชับ นั่นคือ…
พวกสแกมเมอร์ มักใช้เครื่องมือและวิธีการหลากหลายสร้างช่องทางการหลอกลวง “เหยื่อ” ไม่ว่าจะเป็น…ช่องทางโซเชียลมีเดีย, เว็บไซต์ปลอม, อีเมล, SMS
ขณะที่ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ จะใช้วิธีการโทรศัพท์ตรงถึง “เหยื่อ” (ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า…เป็นพวก “คอล” หรือการใช้โทรศัพท์) พูดจาหว่านล้อม หลอกให้โอนเงิน ฯลฯ
ที่จริง…ยังมีอีกหลายจุดแตกต่าง
ส่วน จุดที่เหมือนกัน นั่นคือ มีเจตนาในการหลอกลวง, ใช้เทคนิคจิตวิทยา, ปกปิดตัวตัวจริง และทำเป็นเครือข่ายขบวนการ (ขอให้ดูจากภาพประกอบบทความนี้…เปรียบเทียบคอลเซ็นเตอร์ กับ “สแกมเมอร์”)

ทั้ง พวกสแกมเมอร์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ต่างเติบโตอย่างก้าวกระโดดอยู่ในประเทศกัมพูชา ซึ่งหน่วยงานและองค์กรระหว่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น…ธนาคารโลก สหประชาชาติ และอีกหลายๆ แห่ง ระบุตรงกัน!
ประเทศกัมพูชา คือ แหล่งที่ตั้งของพวกสแกมเมอร์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ใหญ่และเติบโตได้เร็วที่สุดในโลก
และ มิจฉาชีพออนไลน์ เหล่านี้ ได้สร้างปัญหาตามมาเกี่ยวกับ การหลอกลวงและลักพาตัว…ประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างชาติ จากหลากหลายประเทศ เข้าไปทำงานรับใช้ โดยที่เจ้าตัว…ไม่ประสงค์จะหลอกลวงเพื่อนร่วมชาติ หรือชาวต่างชาติให้ตกเป็น “เหยื่อ” แก๊งมิจฉาชีพออนไลน์ทั้งหลาย
กลายเป็นปัญหาทางด้านการละเมิดสิทธิมนุษยชนของโลก
มีรายงานจากฝั่ง รัฐบาลสหรัฐอเมริกา ระบุข้อมูลเชิงลึกด้วยซ้ำว่า…มีผู้ใหญ่ในรัฐบาลกัมพูชา เข้าไปเกี่ยวข้อง ถึงขั้นเป็น…นายทุนใหญ่ หรือใช้ “อำนาจรัฐ” เปิดทางให้ทั้ง…พวกสแกมเมอร์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้ทำการหลอกลวง “เหยื่อ” ข้ามชาติ
กระทั่ง ธุรกิจผิดกฎหมายเหล่านี้ เติบโตอย่างรวดเร็วและมียอดเงินหมุนเวียนสูงถึงปีละกว่า 4-6 แสนล้านบาท
2 เรื่องที่รัฐบาลไทยคิดจะทำ คือ…สร้างกาสิโนถูกกฎหมายในฝั่งไทย และวางแผนทำลายเครือข่ายสแกมเมอร์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ว่ากันว่า…มันคือ การเตะชามข้าวหมาอย่างรุนแรง!!! และสร้างความไม่พอใจอย่างที่สุดให้กับ บรรดาหมาทั้งเล็กและใหญ่ในฝั่งกัมพูชา อย่างที่สุด!
การวางแผนทำลายของฝั่งไทย เริ่มจาก…การควบคุมการเปิด-ปิดด่านชายแดน และเข้มกับสินค้าที่จะขนออกจากฝั่งไทยและนำเข้าจากฝั่งกัมพูชา, จนถึงคำสั่งห้ามไม่ให้นักพนันชาวไทยเดินทางไปเล่นพนันได้เสียในบ่อนกาสิโนฝั่งกัมพูชา
ฝั่งไทยแค่ ควบคุมการเปิด-ปิดด่านชายแดน ทว่าฝั่งกัมพูชากลับเล่นใหญ่ สั่งปิดถาวร! พร้อมกับผุดแคมเปญรณรงค์ “บอยคอย” สินค้าจากฝั่งไทยแบบ 100% ในเชิง…ปากว่าตาขยิบ เพราะบางส่วนยังมีการแอบลักลอบนำเข้าสินค้าไทย แต่ส่วนใหญ่ ไปนำเข้าสินค้าไทยจากฝั่งชายแดน สปป.ลาว แทน
รัฐบาลไทย แค่คิดเรื่อง…ตัดไฟฟ้า ตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ต และงดส่งออกน้ำมัน แต่ทางฝั่งกัมพูชา ที่รู้ความคิดของรัฐบาลไทย??? โดยคำสั่งของ นายฮุน เซน ที่ชิงทำทุกอย่าง “ตัดหน้า – ฝั่งไทย”
ไม่ซื้อไฟฟ้า ไม่ใช่สัญญาณอินเตอร์ไทย และห้ามนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปจากไทย โดยที่ฝั่งไทย…ยังไม่ได้ทำอะไร หรือหากต้องทำ…ก็จะทำจากระดับเบาไปหาหนัก
สุดท้าย…ทั้งข้าวปลาอาหาร ของกินของใช้ เครื่องปรุงรส แม้กระทั่ง นมสด/นมพลาสเจอร์ไรซ์ ก็หมดจากชั้นวางของในหลายเมืองของกัมพูชา หมดแม้กระทั่ง น้ำมันสำเร็จรูป
นาทีนี้ คนลาวที่อาศัยอยู่ตามแนวตะเข็บพรมแดนกับกัมพูชา ต่างดีอกดีใจ…ไม่อยากให้รัฐบาลไทยกับกัมพูชากลับมาคืนดีกันเร็วเกินไป
พวกเขาทำกำไรจากการนำสินค้าไทยไปขายต่อให้กับแม่ค้าพ่อค้าชาวกัมพูชา ได้มากกว่าราคาปกติราว 2-5 เท่า ขึ้นอยู่กับว่าสินค้านั้นคืออะไร?
ความโกรธเกลียด “ผู้นำไทยและครอบครัว” ของ นายฮุน เซน ได้ทำร้ายคนชาวกัมพูชาและระบบเศรษฐกิจของกัมพูชาเสียสนิท
นั่นเอง…ที่เป็นเหตุทำให้ นายฮุน เซน พยายามโหมเร่งสุมเชื้อไฟ สร้างปัญหาความขัดแย้งกับฝั่งไทย จนถึงวินาทีนี้!!!
การมี…ประเทศไทยและคนไทย เป็น “ศัตรูของชาติ (กัมพูชา)” ร่วมกัน จะทำให้คนกัมพูชา หลงลืมไปว่า…ปมเหตุแท้จริง! ที่ทำให้พวกเขาเดือดร้อนในทุกวันนี้ และก่อนหน้านี้ เป็นเพราะพวกเขามี…
“ผู้นำและรัฐบาล” ที่เห็นแก่ตัว เอาแต่ประโยชน์ส่วนตนและของครอบครัว โดยไม่สนใจใยดีประชาชนคนในประเทศ เท่าที่ควร
หากไม่มี “ศัตรูร่วม” อย่างไทย…คนกัมพูชา ที่ส่วนใหญ่ยังคง “มืดบอดสนิท” ก็จะไม่มีวันล่วงรู้เลยว่า…ศัตรูที่แท้จริงของพวกเขา คือ ใครกันแน่!!!.