โผล่แล้ว !! ผู้บริหาร ITD ย่องให้ข้อมูล DSI ด้าน “วิศวกร” ตึก สตง.ทยอยให้ข้อมูลคุมงานก่อสร้าง

ผอ.กองคดีฮั้วประมูล DSI เรียกวิศวกรทยอยให้ข้อมูลลายเซ็นคุมงาน พร้อมเชิญตัวแทน บ.อิตาเลียนไทยฯ ชี้แจงสัญญาก่อสร้างตึก สตง.

วันนี้ (29 เม.ย.) ณ ห้องประชุมกองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ (กองคดีฮั้วประมูล) ชั้น 7 อาคารเอ ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ พ.ต.ท.อมร หงษ์ศรีทอง ผอ.กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ เปิดเผยความคืบหน้าการสอบสวนคดีตึก สตง.ถล่ม ว่า วันนี้นัดหมายวิศวกร ภายใต้กิจการร่วมค้า PKW มีรายชื่อเป็นผู้ควบคุมงานประจำสัปดาห์ ประมาณ 20-30 สัปดาห์ จำนวน 51 ราย โดยออกหนังสือเชิญแล้ว 40 ราย เนื่องจากเมื่อตรวจสอบในทะเบียนราษฎร์ มีชื่อและนามสกุลซ้ำกันหลายคน บางคนก็ไม่ปรากฏชื่อในทะเบียนราษฎร์ ซึ่งดีเอสไอจะเรียกสอบสวนปากคำวันละ 10 ราย ช่วงเช้า 5 ราย และช่วงบ่าย 5 ราย แต่วันนี้มีวิศวกรคอนเฟิร์มมาเพียง 7 ราย ส่วนอีก 3 รายยังติดต่อไม่ได้

นอกจากนี้ ยังได้นัดหมายบริษัท อิตาเลียนไทยฯ มาให้ถ้อยคำในประเด็นที่บริษัทได้ประมูลรับงาน โดยจะสอบรายละเอียดตั้งแต่ต้นจนจบ ขณะที่ในช่วงบ่ายวันนี้ ดีเอสไอจะมีการสอบสวนปากคำ นายธีระ วรรธนะทรัพย์ กรรมการของบริษัท ไมนฮาร์ท (ประเทศไทย) จำกัดผอ.กองคดีฮั้วประมูล ระบุ

พ.ต.ท.อมร เผยอีกว่า สำหรับประเด็นที่จะใช้สอบสวนวิศวกร มุ่งประเด็นการปรากฏชื่อเป็นผู้ควบคุมงาน มีลายเซ็นเป็นผู้ควบคุมงานเป็นประจำสัปดาห์ เพื่อสอบถามความเกี่ยวข้องอย่างไร และดำเนินการอย่างไรบ้าง ซึ่งยังไม่สามารถคาดเดาได้ว่าเป็นการถูกปลอมและแอบอ้างชื่อทั้งหมดทุกคนหรือไม่ โดยจะให้วิศวกรดูตัวอย่างลายเซ็นที่เจอในเอกสารด้วยว่าใช่ลายเซ็นของตนเองจริงหรือไม่ ส่วนกรณีเอกสาร 100 ลัง ที่ดีเอสไอตรวจยึดจาก 26 ตู้คอนเทนเนอร์ภายในไซต์งาน สตง. เมื่อวานนี้ (28 เม.ย.) ต้องมาคัดแยกเอกสารทั้งหมดก่อน เช่น เอกสารสัญญา เอกสารแบบแปลน เอกสารด้านการเงิน เอกสารเกี่ยวกับวัสดุ เอกสารการสั่งซื้อ เอกสารสั่งซื้อปูนบางส่วน เป็นต้น คาดว่าภายในสัปดาห์นี้อาจจะเชิญเจ้าหน้าที่กรมโยธาธิการและผังเมือง มาร่วมตรวจสอบเอกสารด้วย

พ.ต.ท.อมร เผยต่อว่า สำหรับการเชิญตัวแทนของบริษัท อิตาเลียนไทยฯ มาสอบปากคำวันนี้ จะต้องสอบถามทุกประเด็น ทั้งการซื้อซอง การประมูลงาน การแบ่งงาน การดำเนินการก่อสร้าง การแบ่งงานอย่างไรบ้าง รวมถึงเรื่องค่าตอบแทน ส่วนในกรณีที่มีการประมูลได้งาน แต่กลับมีการไปจ้างผู้รับเหมาช่วง ตนขอเรียนว่าตอนประมูลเซ็นสัญญารับงานกับการรับเหมาช่วงคนละส่วนกัน แต่ก็ต้องสอบสวนปากคำเช่นเดียวกัน

เมื่อถามว่ามีความเป็นได้หรือไม่ที่บริษัท อิตาเลียนไทยฯ และบริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการได้งานโครงการของรัฐเพียงโครงการเดียว (โครงการก่อสร้างตึก สตง.) เพราะอาจมีความสัมพันธ์ข้องเกี่ยวกันมานานนั้น พ.ต.ท.อมร ระบุว่า เป็นอีกประเด็นที่จะใช้สอบถามเช่นกัน ขณะนี้เราเรียกมาสอบถามในฐานะพยาน จึงต้องดูเพื่อความรอบคอบทั้งหมด ต้องพิจารณาเนื้อหาคำให้การและเอกสารชี้แจง อย่างไรก็ตาม ในส่วนคดีนอมินีได้ดำเนินคดีไปส่วนหนึ่งแล้ว

พ.ต.ท.อมร ระบุด้วยว่า ส่วนการแก้ไขแบบทั้ง 9 ครั้งที่ดีเอสไอตรวจพบในเอกสารว่ามีปัญหาในการขอแก้ไขแบบครั้งที่ 4 และครั้งที่ 6 นั้น เรื่องนี้ในการออกแบบถือว่าเป็นช่วงต้น ส่วนการขอแก้ไขแบบมันเป็นช่วงการดำเนินการ แต่จะมีความเกี่ยวข้องหรือรู้อะไรกันอย่างไรบ้าง ต้องไปดูรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง

ทั้งนี้ กรณีของนายพิมล เจริญยิ่ง วิศวกรอายุ 85 ปี ดีเอสไอได้มีการสอบสวนปากคำไปแล้ว ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับว่าเป็นลายเซ็นของตนเองจริง แต่รายละเอียดเชิงลึกขอสงวนไว้ภายในสำนวน ซึ่งจากเดิมที่ก่อนหน้านี้บอกว่าจำรายละเอียดไม่ได้ ก็เหมือนเป็นการที่เขาได้กลับไปทบทวน เขาก็เลยให้การว่าเกี่ยวข้องในบางส่วน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 09.30 น. นายเกรียงศักดิ์ กอวัฒนา รองประธานบริหารอาวุโส บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เดินทางมาห้องประชุมกองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ จึงพยายามสอบถามว่า “วันนี้มาให้ข้อมูลอย่างไรบ้าง” เจ้าตัวตอบกลับว่า “ขอเข้าพบพนักงานสอบสวนก่อน“ และเมื่อถามต่อว่า “ทราบหรือไม่ว่า บริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ เป็นบริษัทสัญชาติจีน” นายเกรียงศักดิ์ ตอบอย่างหนักแน่นว่า “แน่นอน รู้อยู่แล้วครับ“ พร้อมกล่าวทิ้งท้ายก่อนเข้าพบพนักงานสอบสวนว่า ตนพร้อมชี้แจง.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password