ดิ้น – กลัว – เสื่อม!

อาการดิ้น…ทุรนทุราย เป็นเพราะเกิดความกลัว และความกลัวนี่เอง ที่จะนำมาซึ่งความเสื่อม! ใครจะดิ้น? ใครจะกลัว? หรือใครจะเสื่อม? นาทีนี้…สังคมไทยกำลังเฝ้าจับตามองแบบไม่กระพริบตา!!! จะเป็นฝ่ายตรวจสอบ หรือฝ่ายที่ถูกตรวจสอบ กระทั่ง ต้องเปิดหน้าชนในทุกมิติ ล้วนมีโอกาสตกอยู่ในสถานการณ์ “ดิ้น – กลัว – เสื่อม” ได้ทั้งสิ้น

ปรากฏการณ์ที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในยุคของ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีฯ รับ “คดีฮั้วเลือกตั้ง สว.” เป็นคดีพิเศษ เพราะถือข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวพันกับการได้มาซึ่ง สว. ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2567 ทำนอง…อาจส่อไปในลักษณะมีขบวนการอั้งยี่ ซ่องโจร และมีจัดตั้งกันมา

ภาพที่เห็น บรรดาแกนนำ สว. เปิดโต๊ะแถลงข่าวผ่านช่องทางออนไลน์ ตอบโต้ในทุกประเด็นการตรวจสอบจาก ดีเอสไอ หรือแม้กระทั่ง การทำงานของดีเอสไอเอง รวมถึงใครก็ตาม? ที่ถูกมองว่าอยู่เบื้องหลัง “คอยบงการ” เกมเชือดในทางการเมือง รอบนี้

ทุกฝ่ายเลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดอาการ “ดิ้น – กลัว – เสื่อม”

ยังหมายรวมถึงบรรดา คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ดองเรื่องนี้เอาไว้ ไม่เว้นแม้กระทั่ง ฟากฝั่งของ “รัฐบาลแพทองธาร” ก็อยู่ในข่าย “ดิ้น – กลัว – เสื่อม” ไม่ต่างกันสักเท่าใด?

แม้แต่คนที่อยู่ “วงนอก” ไม่ว่าจะเป็น…ครูอาจารย์เล็กใหญ่ หรือ พวกที่ชอบแส่เรื่องราวของคนอื่น ล้วนมีโอกาส “ดิ้น – กลัว – เสื่อม” ได้เหมือนๆ กัน

นาทีนี้…ทุกคน ทุกกลุ่ม และทุกฝ่าย ต่างมีโอกาสพอๆ กัน

น่าจับตามอง การประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ ครั้งที่ 2/2568 ที่มี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม ช่วงบ่ายของวันพรุ่งนี้ (25 ก.พ.) ล่าสุด หมายข่าวนี้ ส่งถึงมือผู้สื่อกันแล้ว ประมาณว่า…ชวนกันมาทำข่าวที่นอกจาก “รองฯอ้วน” แล้ว ยังจะมี…

พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ในฐานะรองประธานฯ รวมถึง นางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย ปลัดกระทรวงการคลัง  ปลัดกระทรวงมหาดไทย  ปลัดกระทรวงพาณิชย์ อัยการสูงสุด  ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เจ้ากรมพระธรรมนูญ  ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย นายกสภาทนายความ  และผู้ทรงคุณวุฒิ ที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง อีก 9 ราย

ที่ขาดไม่ได้ก็คือ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ ในฐานะ กรรมการและเลขานุการ โดยมีหัวเรื่องอันเป็นวาระสำคัญ นั่นคือ การรายงานผลการดำเนินคดีสำคัญและการพิจารณารับคดีอาญาอื่นเป็นคดีพิเศษ

คดีพิเศษที่ว่า…คงไม่พ้นการรับ “คดีฮั้วเลือกตั้ง สว.” ไว้เป็นคดีพิเศษ นั่นเอง

ส่วนสถานที่นัดหมายประชุม ก็คือ ห้องประชุม 10-01 ชั้น 10 อาคารกระทรวงยุติธรรม  

น่าสนใจว่า…การ “ตั้งป้อมสู้!” ของบรรดาแกนนำ สว.ชุดนี้ แม้จะถูก สว.เสียงข้างน้อย อย่าง…นางอังคณา นีละไพจิตร มองพฤติกรรมข้างต้น ว่าเป็นการ “ฟ้องปิดปาก!” แต่ดูเหมือนจะหยุดพวกเขาไม่ได้

ประมาณว่า…เดิมพันมันสูงยิ่งนัก!

หลายเงื่อนไขที่ สว.กลุ่มนี้ อาจนำมาใช้กำหราบทั้ง ดีเอสไอ และกระทรวงยุติธรรม ซึ่งบุคคลที่อยู่ในข่ายจะถูก อภิปรายแบบไม่ลงคะแนนเสียง ถึงขั้น…ถอดถอนจากความเป็น “รัฐมนตรี” คงหนีไม่พ้นชายที่ชื่อ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม

เกี่ยวกับเรื่องนี้ พ.ต.อ.ทวี ระบุว่า การประชุมบอร์ดคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ในวันพรุ่งนี้ จะมีการนำเอาพยานเอกสารหลักฐานต่างๆ เข้าเสนอต่อคณะกรรมการฯ เพราะทุกคนจะต้องมีดุลพินิจในการพิจารณา เราจึงตระหนักในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม เรามาจากการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ถือว่าเรื่องอธิปไตย เรื่องสิทธิเสรีภาพมีความสำคัญ จะเห็นได้ว่าบางจังหวัดมี สส. แต่ไม่มี สว. มันก็ไม่ได้เป็นไปตามหลัก ก็ควรจะมีการตรวจสอบ ต้องให้ความเป็นธรรม

ส่วนที่มีคำพูดว่า “อั้งยี่ ซ่องโจร” ถือเป็นข้อกล่าวหาของผู้ร้อง และความผิดนี้ก็มีมา 117 ปีแล้ว เราแก้กฎหมายหลายครั้งแล้ว เพราะการเป็นสมาชิกบุคคลที่ปกปิดการดำเนินการ แม้มิชอบด้วยกฎหมาย มิชอบด้วยรัฐธรรมนูญ เขาก็เขียนกฎหมายที่อยู่ในกลุ่มของความสงบเรียบร้อย ซึ่งไม่มีอะไร กรรมการก็จะใช้ดุลพินิจโดยไม่มีอคติ และจะให้ความเป็นธรรม แต่ก็ต้องคำนึงถึงการคุ้มครองพยานในคดี คงต้องฝากกรมคุ้มครองสิทธิฯ ในการคุ้มครองพยาน เพราะพยานหลายคนเมื่อมาให้การก็กลัวจะเสียชีวิต

ส่วนเรื่องความกังวลเรื่องการจะถูก สมาชิก สว. รวมรายชื่อยื่นเรื่องถอดถอนออกจากรัฐมนตรี นั้น พ.ต.อ.ทวี ระบุว่า เราต้องทำตามกฎหมายและเราไม่กลั่นแกล้งใคร ไม่มีอะไรที่จะต้องกังวล ตนยินดี

ลองฟังมุมมองของ “คนนอก” อย่าง…พลตำรวจโท เรวัช กลิ่นเกสร อดีตนายตำรวจมือปราบ “ผู้ตงฉิน” ที่รู้จักตัวตนของ พ.ต.อ.ทวี เป็นอย่างดี ในฐานะ “ตำรวจนักสืบมือฉมัง!”

พลตำรวจโท เรวัช มองเรื่องนี้ว่า…จากข้อมูลเชิงประจักษ์ เชื่อได้ว่าการเลือกตั้ง สว.ที่ผ่านมา น่าจะมีขบวนการจัดตั้งและฮั้วเลือกตั้ง เนื่องจากมีพยานหลักฐานมีเยอะ และการจะเอาผิดก็คงไม่ใช่เรื่องยาก

ที่ผ่านมา กกต.เอง ไม่ได้ทำหน้าที่อย่างที่ควรจะทำ ปล่อยให้ข้อสงสัยเรื่องการฮั้วเลือกตั้ง สว. ผ่านเลยไป และอีกไม่นาน กกต.บางคน ก็จะพ้นกำหนดและครบวาระ จึงอยากให้เลือกทำในสิ่งที่ถูกต้อง และเป็นไปตามข้อกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม สุดท้าย…ตนเชื่อว่า ขบวนการจัดตั้งและฮั้วเลือกตั้ง สว.จะถูกลงโทษตามกฎหมาย จึงอยากให้บรรดา สว.ที่อยู่ในข่ายนี้ เก็บเงินเดือนที่ได้ไป ด้วยเชื่อว่าการพิจารณาตัดสินจะทำให้การเลือกตั้ง สว. เป็นโมฆะ และจะต้องมีการคืนเงินเดือนให้กับแผ่นดินอย่างแน่นอน!

ถึงได้บอกไงว่า…เรื่องนี้ มีหลายคน หลายกลุ่ม ที่อยู่ในข่าย “ดิ้น – กลัว – เสื่อม!”

ส่วนใครจะมีมากน้อยกว่ากันแค่ไหน? อีกเดี๋ยวคงได้รู้กันทั่ว!!!.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password