‘อ่อน!’

ปลายปี 2567 ทางการเมียนมาจับลูกเรือประมงไทย พร้อมไต้ก๋ง ขณะลอยเรือหาปลากลางทะเลอันดามัน ครั้งนั้น ทางการเมียนมาได้ระดมยิงปืนใส่เรือหาปลาของไทย จนมีผู้เสียชีวิต 1 ราย ต่อมาศาลเมียนมาได้สั่งจำคุกลูกเรือไทย 5 ปี

ต่อเนื่องกันไป มีมากมายหลายเหตุการณ์ที่สะท้อนภาพ “ศักยภาพรัฐไทย” เหมือนไม่อยู่ในสายตาและไม่มีราคามากนักในมุมมองของประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งในระดับรัฐบาล, หน่วยงาน และประชาชนของพวกเขา

ก่อนจะมีประเด็น “ว้าแดง” ยึดครองพื้นที่บางส่วนของ อ.ปาย และ อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน กองทัพเมียนมาเอง ก็ส่งเครื่องบินรบเข้ามาลุกล้ำแผ่นดินหลายคน อย่างน้อยที่เห็นและตกเป็นข่าวก็ 2 หนไปแล้ว

ท่าที ทางการและกองทัพไทย ดูไม่ “ร้อนใจ” เท่ากับคนไทยในพื้นที่ รวมถึงคนไทยทั่วประเทศ สักเท่าใด?

นี่หากไม่ได้ “มือปราบ” แก๊งคอลเซ็นเตอร์และขบวนการค้ามนุษย์ จากประเทศจีน เช่น…นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะฯ มากดดันทางการไทย ในช่วงที่ นายกฯแพทองธาร ชินวัตร จะต้องบินไปพบกับ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน แล้วล่ะก็

ไม่รู้เหมือนกันว่า…ภาพการสั่ง “ตัดไฟฟ้า – ตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ต – ห้ามส่งออกน้ำมันสำเร็จรูป” ให้กับประเทศเมียนมา เพื่อนำไปบำรุงแก๊งคอลเซ็นเตอร์และขบวนการค้ามนุษย์ ในประเทศเพื่อนบ้าน ใกล้พรมแดนไทย ยังจะมีให้เห็นอีกหรือไม่?

เพราะสิ่งนี้…มันได้ขยายผลไปยังการตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ตในฝั่งกัมพูชา โดยเฉพาะเมืองปอยเปต ที่อยู่ใกล้ชายแดนไทย เนื่องเพราะตรวจสอบว่า…เมืองแห่งนี้ คือ ที่ตั้งของบรรดา “โจรออนไลน์” ทั้งเว็บพนันผิดกฎหมาย แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และขบวนการค้ามนุษย์ ที่หนาแน่นมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

นั่นระดับ รัฐบาลและหน่วยงานของรัฐ จากประเทศเพื่อนบ้าน ทว่ายังจะมีหลายครั้งที่พบ ขบวนการขนย้ายแรงงานผิดกฎหมาย ที่แอบหลบหนีเข้าเมืองมาทำงานในไทยอีกเป็นจำนวนมาก แม้เข้ามาไม่ได้ทั้งหมด แต่ที่หลุดรอดมาได้ ก็มากจนล้นแผ่นดินในหลายๆ เมืองของไทยไปแล้ว

ว่ากันว่า…แรงงานจากเพื่อนบ้าน ทั้งที่ถูกและผิดกฎหมาย จากฝั่งตะวันตก (เมียนมา) และ ฝั่งตะวันออก (กัมพูชาและลาว) มีรวมๆ กันมากถึงกว่าร้อยละ 80 ของแรงงานต่างด้าวในไทยที่มีมากถึง 10 ล้านคน กระจายในหลายเมืองทั่วประเทศ

มีหลายครั้งที่ตกเป็นข่าว ทำนอง…แรงงานต่างด้าวทั้งจากกัมพูชาและเมียนมา ที่แสดงอาการ…กร่างหนัก มีทั้งทะเลาะวิวาทกันเอง รวมถึงยกพวกตีรันฟันแทงกับแรงงานต่างด้าวจากอีกประเทศ นี่ยังไม่นับรวมถึงข่าวการทำร้ายคนไทยและทำลายข้าวของอันเป็นสมบัติของไทย อีกมากมาย

ล่าสุด 2 แรงงานวัยรุ่นชาวเมียนมา เมาอาละวาดที่ อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ทำลายข้าวของ ทิ้งขวดเบียร์แตกลงทะเล และข่มขู่จะทำร้ายคนไทย พร้อมกับอ้างว่า พวกตนเป็นคนของ “ผู้กองฯ” ในพื้นที่ แม้ภายหลัง “ผู้กองฯ” จะตัดหางปล่อยวัด ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีเอากับ 2 แรงงานวัยรุ่นชาวเมียนมา แล้วก็ตาม

แต่มันทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศไทย คนไทย และรัฐไทย เสียหายอย่างมาก โดยเฉพาะความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งแน่นอนว่า…สิ่งนี้ ย่อมส่งผลสะเทือนไปยังภาคการท่องเที่ยวของไทยอย่างไม่ต้องสงสัย

ลองคิดดู…หากสิ่งนี้ เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น!!!

ยังจะมีอีก 2 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกันและเกิดขึ้นเมื่อ 1-2 วันที่ผ่านมา

หนึ่ง…คือ กรณี นายพลทหารกัมพูชา กร่างสุดๆ ชี้หน้าด่ากราดทหารไทย ที่เฝ้าระวังในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม ในพื้นที่ ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังจากถูกห้ามไม่ได้แสดงสัญลักษณ์ ผ่านการร้องเพลงชาติกัมพูชา บนแผ่นดินไทย

อีกหนึ่ง…และกำลังเป็นเรื่องร้อนยิ่งกว่า คงไม่พ้น กรณีชาวอิสราเอล อพยพเข้ามาตั้งรกรากอยู่ในพื้นที่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน นับพันครอบครัว และนี่…ไม่ใช่แค่การเข้ามาพักผ่อน หรือท่องเที่ยว แบบมาแล้วกลับบ้านตัวเอง แต่เป็นการเข้ามาอาศัยแบบถาวร

เรื่องนี้…คนที่เดือดร้อนและกระจายข่าวกดดันรัฐบาลไทยมากสุด! คงไม่พ้น…คนไทยและพวกสวมตอเป็นคนไทย ที่นับถือบางศาสนา และจัดเป็น “คู่อริ” กับชาวอิสราเอลมากที่สุด

จะว่าไป…พฤติการณ์ของชุมชนยิวในไทย ก็ไม่ถือเป็นเรื่องปกติในสถานการณ์นี้ ยิ่งมีกระแสข่าว “ห้ามคนไทย” เข้าไปในพื้นที่สงวนของพวกเขา ยิ่งประจานความไร้ประสิทธิภาพของรัฐไทย เข้าไปอีก

นี่ยังไม่นับรวม พวกจีนขาว จีนเทา จีนดำ และต่างชาติอื่นๆ อพยพเข้ามาอยู่ในดินแดนไทย แบบถูกกฎหมายบ้าง ไม่ถูกกฎหมายบ้าง อีกนับแสนคน

ทั้งหมดทั้งมวล ที่ รัฐบาลของประเทศเพื่อนบ้าน และประชาชน รวมถึง แรงงานต่างด้าวของประเทศเพื่อนบ้านของไทย ได้แสดงพฤติกรรมในลักษณะ “ไม่เคารพ…ไม่ให้เกียรติ” ประเทศไทย รัฐบาลไทย และคนไทย ในหลายๆ เรื่องราวข้างต้น….

มันสะท้อนว่า…เครดิตของรัฐบาลไทย โดยเฉพาะในยุค “รัฐบาลเพื่อไทย” หาได้มีศักดิ์ศรี เกียรติภูมิ และเครดิตมากพอจะทำให้ต่างชาติเหล่านั้น รู้สึกเกรงใจแต่อย่างใด?

นาทีนี้…หาก “ผู้นำหญิงของไทย” ยังคงแสดงอารมณ์นุ่มนิ่ม…อ่อนแอ ปล่อยให้รัฐบาลและประชาชนของประเทศเพื่อนบ้าน เหยียบย่ำศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิความเป็น รัฐชาติที่ “ไม่เคยตกเป็นเมืองขึ้น” ของชาติตะวันตกแล้ว ล่ะก็…

อย่าอยู่ให้เปลืองเงิยภาษีประชาชนอีกเลย!!!

เคยได้ยินวลีเหล่านี้บ้างไหม?…

“ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด” (เพลงชาติไทย)

“รบรบรบไม่หวั่นใคร มอบความเป็นไทยให้พวกเรา” (เพลงบ้านเกิดเมืองไทย)

นาทีนี้…คนไทยไม่ทนแล้วนะ!!!.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password