สรุป 10 ผลงาน ‘นายกฯอิ๊ง’ ในวงถก ‘ผู้นำอาเซียน’ มั่นใจ!หนุนบทบาทไทยกลับมาผงาดเวทีนานาชาติ
สรุป 10 ภารกิจของ “นายกฯแพทองธาร” ตลอด 2 วันในการประชุมสุดยอดอาเซียน ด้าน “โฆษกรัฐบาล” โว! “ประเทศไทยเนื้อหอม” ในสายตาผู้นำนานาชาติ เผย! หลายประเทศคู่เจรจา พร้อมขยายวงการค้า-การลงทุน โฟกัส “ความมั่นคงด้านอาหาร-อุตสาหกรรมใหม่-แก้ปัญหาข้ามแดน” มั่นใจบทบาทไทยในเวทีนานาชาติได้กลับมาผงาดแน่!
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึง การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 44-45 ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว ตลอด 2 วันที่ผ่านมา (9-10 ตุลาคม 2567) ว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ปฏิบัติภารกิจแทนประชาชนคนไทยได้อย่างยอดเยี่ยม จนสื่อมวลชนทั่วโลกจับตาผู้นำสุภาพสตรีคนใหม่ของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น ภาพลักษณ์ บุคลิก และความเป็นกันเอง รวมทั้งการแสดงวิสัยทัศน์จนทำให้ผู้นำหลายประเทศ ออกปากชื่นชมหลายครั้ง และไม่เพียงแต่ภาพลักษณ์ผู้นำของประเทศไทยที่ดี สาระสำคัญในการนำประเด็นต่างๆ เสนอในที่ประชุม ทั้งวงเล็กและวงใหญ่ที่ประเทศไทยจะสามารถบรรลุผลอันนำไปสู่ความเจริญในทุกมิติของประเทศที่นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมประชุม ไม่ว่าจะเป็นการประชุมอาเซียน 10 ประเทศ หรือการหารือทวิภาคี หรือแม้กระทั่งการประชุมกับประเทศมหาอำนาจในหลากหลายด้าน อาทิ สหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ แคนาดา ก็ยิ่งทำให้สปอตไลต์ฉายมาที่ประเทศไทยมากยิ่งขึ้น
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปถึง 10 โอกาสสำคัญในการประชุมอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา และพบปะหารือกับประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี จากหลายประเทศ อันเป็นโอกาสสำคัญที่จะทำให้ไทยมีโอกาสกลับมาผงาดเป็นเสือตัวที่ 1 ของอาเซียนได้อีกครั้ง ว่า ประกอบด้วย…
1.วงประชุมอาเซียน-จีน ครั้งที่ 27 ที่มุ่งบูรณาการเศรษฐกิจ สานสัมพันธ์ประชาชน และความร่วมมือด้านความมั่นคง ย้ำความสัมพันธ์อาเซียน-จีนเป็นรากฐานสันติภาพและความเจริญในภูมิภาคนี้
2.การประชุมอาเซียน-เกาหลีใต้ครั้งที่ 25 โดยนายกรัฐมนตรีของไทยเราได้ เสนอวิสัยทัศน์ ‘ABC’ Advanced Technology-Balanced development-Creative economy (เทคโนโลยีขั้นสูง-การพัฒนาที่สมดุล-เศรษฐกิจสร้างสรรค์) ในการพัฒนาหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์รอบด้าน (CSP) กับเกาหลีใต้
3.การประชุม อาเซียน-ญี่ปุ่น ครั้งที่ 27 ที่ไทยเสนอการส่งเสริม ความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุม 3 แนวทาง ได้แก่ ดิจิทัล พลังงานสีเขียว และนวัตกรรม
4.การประชุมสำคัญของอาเซียน 10 ประเทศ กับอีก 3 ประเทศ หรืออาเซียน+3 (ASEAN Plus Three : APT) ครั้งที่ 27 ซึ่งประเทศไทยย้ำ 3 ประเด็นในการ ส่งเสริมภูมิภาคเอเชียตะวันออกให้สามารถปรับตัวให้ทันกับภาวะการณ์ปัจุบัน เช่น การต่อสู้กับอาชญากรรมข้ามชาติ ความมั่นคงทางอาหารและการจัดการทรัพยากรน้ำ และเสถียรภาพทางการเงิน
5.นายกรัฐมนตรีเข้าพบปะหารือทวิภาคีกับนายยุน ซ็อก ย็อล (Yoon Suk Yeol) ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลีใต้ ซึ่งนายยุนออกปากชมประเทศไทยที่สามารถตั้ง Thailand Creative Culture Agency (THACCA)ที่สามารถชูศักยภาพอุตสาหกรรมคอนเทนต์และซอฟต์พาวเวอร์ไทย ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ และพร้อมให้ความร่วมมือกับประเทศไทยในหลากหลายประเด็น
6.การหารือทวิภาคีกับนาย Klaus Schwab ผู้ก่อตั้ง World Economic Forum : WEF ซึ่งผู้ก่อตั้งฯ ได้กล่าวเชิญนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ร่วมประชุม WEF ที่เมือง Davos ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในปีหน้าเพื่อประชาสัมพันธ์และแสดงศักยภาพของไทยในด้านต่างๆ อาทิ โครงสร้างพื้นฐาน อาหาร เป็นต้น
7.การหารือทวิภาคีกับนายสติน ทรูโด (The Right Honourable Justin Trudeau) นายกรัฐมนตรี ประเทศแคนาดา ซึ่งได้ออกปากชื่มชมประเทศไทยที่มีกฎหมายสมรสเท่าเทียมเป็นชาติแรกในอาเซียน และพร้อมร่วมมือด้านการศึกษาและการอาชีวะระหว่างกัน
8. การหารือกับดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม (Dato’ Seri Anwar Ibrahim) นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่จะสนับสนุน โครงการ “6 ประเทศ 1 จุดหมาย” เพื่อกระตุ้นให้การท่องเที่ยวในภูมิภาคมีความคึกคัก การส่งเสริมเศรษฐกิจชายแดนภาคใต้ เนื่องจากนักท่องเที่ยวมาเลเซียมาเที่ยวเมืองไทยมากเป็นอันดับ 1 ในขณะนี้
9.การหารือกับนายแอนโทนี เจ. บลิงเกน (H.E. Antony J. Blinken) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งชื่นชม บทบาทเชิงรุกของไทยในฐานะสะพานเชื่อม กับอาเซียนต่อ อเมริกา (bridge builder) เพื่อส่งเสริมสันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองในระดับภูมิภาคและระดับโลก และไทยยืนยันในการสนับสนุนร่วมกันในทุกมิติของทั้ง 2 ประเทศ
และ 10. การหารือร่วมกับ นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน โดยประกาศให้ปี 2568 เป็น ทั้งสองฝ่ายจะเร่งจัด“ปีทองแห่งมิตรภาพความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน (Golden Year of Friendship) เพื่อเฉลิมฉลอง 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูต” การประชุม JC เศรษฐกิจไทย-จีน ครั้งที่ 7 ในเร็ววัน เพื่อขยายโอกาสการค้า-การลงทุนระหว่างกัน
“การประชุมของนายกรัฐมนตรี ในฐานะตัวแทนของประเทศตลอดทั้งวัน ผู้นำประเทศต่างๆ ที่ได้พบกับนายกรัฐมนตรีของไทย ต่างแสดงความประทับใจและมั่นใจว่าไทยจะกลับมามีบทบาทนำในเวทีระดับภูมิภาคและระดับโลก รวมถึงศักยภาพของไทย ที่จะช่วยผลักดัน การค้า-การลงทุน การท่องเที่ยว รวมถึงการส่งเสริมสันติภาพและความสงบสุข โดยเชื่อมั่นว่า นายกรัฐมนตรีแพทองธารจะทำให้ประเทศไทยกลับมาโดดเด่นบนเวทีระดับโลกและเป็นที่ติดตามของประชาคมโลก อีกครั้ง” นายจิรายุ กล่าวสรุปแสดงความมั่นใจ.