จับตัว “แป้ง นาโหนด” ได้แล้ว จนมุมที่บาหลี “ทวี” รุดรายงานนายกฯ

รมว.ยุติธรรม รายงานนายกฯเบื้องหลังรวบ “แป้ง นาโหนด” ได้ที่บาหลี ระหว่างตายใจไปเที่ยว พบอยู่คอนโดใหญ่เมืองเมดาน สารภาพจนมุม ไม่คิดจะโดนยุคนี้ ส่งกลับเมื่อไหร่ รอขั้นตอนอินโดฯ

วันที่ 30 พ.ค.2567 เวลา 12.30 น. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เดินทางเข้าพบ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เพื่อรายงานกรณี การจับกุมนายเชาวลิต ทองด้วง หรือ แป้ง นาโหนด ผู้ต้องขังที่หลบหนีการควบคุมตัวที่โรงพยาบาลตั้งแต่เดือน ต.ค.66 โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นเวลา 13.00 น. นายเศรษฐาได้ทวิตผ่าน X ว่า “แป้ง นาโหนด” นักโทษหนีคดี ถูกจับกุมตัวแล้ว โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงยุติธรรม และกระทรวงการต่างประเทศ ได้ประสานความร่วมมือกับทางการอินโดนีเซีย”

ต่อมาเวลา 13.13 น. พ.ต.อ.ทวี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าพบนายกฯว่า รัฐบาลอินโดนีเซียได้จับกุมนายเชาวลิตได้ที่บาหลี อินโดนีเซีย โดยวันที่ 31 พ.ค.จะประสานเพื่อรับตัวกลับมาดำเนินคดีที่ไทย โดยนายกฯสั่งการกระทรวงยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงการต่างประเทศ ให้ติดตามกรณีนายเชาวลิตอย่างใกล้ชิด ซึ่งเมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา ตนพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กรมราชทัณฑ์ ป.ป.ส. อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ที่ปรึกษานายกฯ ได้บินไปที่อินโดนีเซีย เพื่อประสานเรื่องดังกล่าวหลังจากนายเชาวลิตหนีออกจากประเทศไทย แล้วปลอมพาสปอร์ตเป็นคนอาเจะห์ อยู่ที่อินโดนีเซียอย่างระมัดระวัง ส่วนใหญ่อยู่ที่เมืองเมดานและบาหลี ตำรวจอินโดนีเซียให้ความร่วมมือกับเราอย่างดียิ่งจนสามารถจับตัวได้บาหลีเมื่อช่วงเช้าวันที่ 30 พ.ค.

“เมื่อสักครู่ได้วิดีโอคอลมาให้ตนสอบปากคำนายเชาวลิตเพื่อยืนยันว่าเป็นตัวจริง เขายอมรับว่าจนมุมแล้ว ตนก็บอกให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม รับรองให้ความปลอดภัย เขาไม่เคยเตรียมตัวว่าจะถูกจับได้ เพราะคิดว่าเป็นยุคที่เขาปลอดภัยที่สุด เขาก็เลยไปเที่ยว ถ้าคิดว่าไม่ปลอดภัยเขาคงอยู่แต่ในห้อง และการไปเที่ยวครั้งนี้พบว่าทะเลาะกับผู้หญิงอินโดนีเซียและทำร้ายร่างกาย จึงเป็นที่มา อย่างไรก็ตาม ต้องขอบคุณตำรวจภูธรภาค 9 อธิบดีดีเอสไอ ป.ป.ส. กรมราชทัณฑ์ กระทรวงการต่างประเทศ ที่เกาะติดเรื่องนี้มาโดยตลอด และเมื่อได้ตัวนายเชาวลิตเราจะได้เครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่เกี่ยวกับยาเสพติด ส่วนรายละเอียดต่างๆ จากนี้ขอให้เป็นเรื่องของการสืบสวนสอบสวน”พ.ต.อ.ทวี กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะไปรับตัวนายเชาวลิตและนำตัวมาสอบสวนในวันที่ 31 พ.ค.เองหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ต้องดูว่าอินโดนีเซียเขามีขั้นตอนกฎหมายอย่างไร เพราะนายเชาวลิตใช้หนังสือเดินทางปลอม เขาอาจถูกจับกุมตัวก่อนหน้านี้หลายครั้งแล้วแสดงเป็นคนใบ้ เนื่องจากพูดภาษาอินโดนีเซียไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับความสามารถของตำรวจอินโดนีเซีย ที่ตนได้ไปดูการทำงาน 2-3 วัน ได้เห็นเทคนิคการสืบสวนสอบสวน เขาเป็นมืออาชีพ ทำเรื่องนี้ให้เราอย่างเต็มที่ และระยะหลังเรากับอินโดนีเซียมีการประสานงานเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างต่อเนื่อง

เมื่อถามว่า มีการช่วยเหลือนายเชาวลิตออกนอกประเทศหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ขอให้ตำรวจสอบสวนก่อน ส่วนกระแสข่าวว่ามีคนเดินทางไปพบนายเชาวลิตนั้น คนที่เดินทางไปหา ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงหลายคน แต่เท่าที่ดูไม่ได้เป็นคนในครอบครัว เพราะมันโยงมาจากการจับคนอินโดนีเซียไปเรียกค่าไถ่ รายละเอียดขอให้รอการสอบสวน เรื่องนี้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 รวมถึงรักษาการผบ.ตร. เขาก็ทำงานกันอย่างเต็มที่ หลังจากคว้าน้ำเหลวในการปิดล้อมก็ได้ติดตาม เพราะเขาเป็นมืออาชีพ ขนาดตำรวจอินโดนีเซียยังระบุว่านี่เป็นมืออาชีพที่แท้จริง อย่างไรก็ตาม เมื่อเรารู้ว่าเขาออกจากประเทศไปทางเรือก็มีการจัดทีมขึ้นมาโดยเฉพาะ กัดไม่ปล่อย ฝังตัวอยู่ตลอด ดูจากเรื่องเล็กๆน้อยๆ นำไปสู่โปรเจกต์การเดินทางว่าทำไมต้องไปเมืองเมดาน ประกอบกับข้อมูลที่เรามีอยู่

เมื่อถามว่า สถานที่จับกุมนั้น นายเชาวลิตเป็นอยู่อย่างไร อยู่ในเซฟเฮาส์หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า การจับกุมเกิดที่บาหลี เขาเพิ่งบินไปเที่ยว ปกติเขาพำนักอยู่เมืองเมดาน ต่อข้อถามว่า นายเชาวลิตทำอะไรอยู่ที่เมดาน พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เขามีคอนโดใหญ่ เบื้องต้นขอสอบสวนก่อน

เมื่อถามอีกว่า มีเส้นทางการเงินส่งไปตลอดใช่หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ต้องรอให้มีการขยายผลก่อน เมื่อถามว่า กรณีนายเชาวลิตออกไลฟ์สดกลางสวนปาล์มระหว่างหลบหนี จุดนั้นเป็นประเทศไทยหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ตอนนั้นสงสัยว่าเป็นประเทศเพื่อนบ้าน แต่ไม่รู้ว่าเป็นที่ไหน โดยให้ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ว่าไม่ใช่พื้นที่ภาคใต้ของไทย

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password