กรมศุลฯเปิดศูนย์ฝึก K-9 พร้อมบรรจุ ‘ขนุน-ทุเรียน’ 2 สุนัขดมกลิ่นกำหราบยาเสพติด

กรมศุลกากรรับมอบ “ทุเรียน-ขนุน” 2 สุนัขดมกลิ่นวัย 7 เดือนจากเกาหลีใต้ ทดลองปฏิบัติหน้าที่หน้างานแล้วสอบผ่าน รอความพร้อมใช้งานจริงต่อไปอีกกว่า 7 ปี จ่อส่องหาเพิ่มอีก 6-8 ตัว หวังดันศูนย์ฝึก K-9 (สุนัขดมกลิ่น) ขึ้นชั้นศูนย์กลางอาเซียน อธิบดีฯพชร ยืนยัน ผลงาน K-9 สกัดยาเสพติดและสินค้าอันตรายต่อความมั่นคงได้อย่างแตกต่างชัดเจน

เมื่อช่วงสาย วันที่ 17 สิงหาคม 2566 ณ ศูนย์ฝึก K-9 ศุลกากร ต.หนองปรือ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ,  นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวภายหลังเป็นประธานพิธีเปิดอาคารดังกล่าว ว่า ในอนาคตศูนย์ดังกล่าวถูกคาดหวังจะใช้เป็น ศูนย์กลางฝึกสุนัขดมกลิ่น (K-9) ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันมีการลักลอบนำเข้า ส่งออก และนำผ่านยาเสพติดผ่านช่องต่าง ๆ ของศุลกากร และได้ทำการตรวจยึดยาเสพติด เช่น เฮโรอีน เมทแอมเฟตามีน เคตามีน และอื่น ๆ ที่ซุกซ่อนในสินค้าที่ส่งออกไปยังต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้ หน่วยงานศุลกากรทั่วโลกให้ความสำคัญกับการนำสุนัขเข้าร่วมปฏิบัติงานด้านการป้องกันและปราบปรามทางศุลกากร เนื่องจากสุนัขมีสมรรถนะทางด้านการดมกลิ่นที่มีประสิทธิภาพสามารถตรวจสอบความสลับซับซ้อนของสารเสพติดต่าง ๆ กระทั่ง มีการหยิบยกประเด็นดังกล่าวขึ้นเป็น WCO Global Canine Forum เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนข้อมูลและแบบอย่างการปฏิบัติที่ดี (Best Practice) โดยเฉพาะประเทศที่หน่วยงานศุลกากรมีการจัดตั้งหน่วยฝึกสุนัข ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย ซึ่งมีชื่อเสียงมากในการนำสุนัขมาร่วมปฏิบัติงาน

อธิบดีกรมศุลกากร ระบุว่า หลายประเทศได้นำสุนัขดมกลิ่นมาร่วมปฏิบัติงานป้องกันและปราบปรามการลักลอบหรือหลีกเลี่ยงสิ่งของผิดกฎหมาย ให้ผลการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพและมีหลายประเทศที่ยินดีให้ความร่วมมือ รวมถึงให้คำแนะนำการนำสุนัขมาช่วยปฏิบัติภารกิจด้านการสืบสวนและปราบปราม โดยเฉพาะ ศุลกากรเกาหลีใต้ได้มอบสุนัขตรวจค้นยาเสพติดสายพันธุ์ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ ให้จำนวน 2 ตัว โดยทางไทยได้มอบหมายเจ้าหน้าที่ศุลกากรไทยจำนวน 2 ราย เข้ารับการฝึกอบรมการปฏิบัติงานร่วมกับสุนัขตรวจค้นที่ได้รับมอบ ณ KCS Detector Dog Training Center เมืองอินชอน สาธารณรัฐเกาหลี เป็นระยะเวลา 12 สัปดาห์ โดยมีการศึกษาเทคนิคในการฝึกสุนัข การดูแล การสังเกตพฤติกรรม และการปรับตัวเข้าหากัน ซึ่งมีความจำเป็นมากเมื่อสุนัขและผู้ควบคุมเข้าปฏิบัติหน้าที่

ต่อมาเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2566 ศุลกากรเกาหลีได้ส่งครูฝึกเดินทางมายังประเทศไทยพร้อมกับสุนัขตรวจค้นที่จะมอบให้ศุลกากรไทย จำนวน 2 ตัว เพื่อมาฝึกเตรียมความพร้อมและปรับสภาพสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย ให้กับสุนัขตรวจค้นเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ โดยกรมศุลกากร ตั้งชื่อให้สุนัขทั้ง 2 ตัว ว่า “ขนุน” และ “ทุเรียน” ซึ่งในวันนี้ กรมศุลกากรได้จัดพิธีรับมอบสุนัขตรวจค้นดังกล่าว โดยมี Ms. YOO SUNHEE Director General, Customs Human Resource Development Institute พร้อมคณะผู้แทนศุลกากรเกาหลีใต้ เป็นผู้ส่งมอบ

สำหรับอาคารศูนย์ฝึก K-9 ศุลกากร มีพื้นที่ประมาณ 2 ไร่ 3 งาน แบ่งเป็นอาคารสำนักงานชั้นเดียว 1 อาคาร อาคารที่พักสำหรับสุนัขและสถานที่ฝึกสุนัขในร่ม ชั้นเดียว 1 อาคาร และลานสนามหญ้าสำหรับการฝึกกลางแจ้ง ภายในสถานที่ฝึกสุนัข ทางเราได้เตรียมอุปกรณ์ เพื่อให้สุนัขได้ออกกำลังกายและเตรียมอุปกรณ์จำลองสถานการณ์สำหรับฝึกสุนัข  อาทิ รถ กระเป๋า สายพาน เป็นต้น 

นอกจากนี้ กรมศุลกากรยังได้ประสานขอความร่วมมือไปยัง โรงพยาบาลสัตว์สุวรรณชาด (โครงการพัฒนาส่วนพระองค์) ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อเข้าให้คำปรึกษาด้านสุขภาพแก่สุนัขตรวจค้น ซึ่งในวันนี้

กรมศุลกากรได้รับเกียรติจาก คุณพิพิธ  พิชัยศรทัต กรรมการผู้จัดการ บริษัท มงคลชัยพัฒนา จำกัด ผู้บริหารโรงพยาบาลสัตว์สุวรรณชาด (โครงการพัฒนาส่วนพระองค์) ในพระบรมราชูปถัมภ์ ลงนามในบันทึกความร่วมมือในการช่วยเหลือ ดูแลรักษา และตรวจสุขภาพให้แก่สุนัขตรวจค้น ระหว่าง กรมศุลกากร กับ โรงพยาบาลสัตว์สุวรรณชาด (โครงการพัฒนาส่วนพระองค์) ในพระบรมราชูปถัมภ์ ทำให้มั่นใจได้ว่า สุนัขตรวจค้นจะมีสุขภาพที่ดีและแข็งแรง สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล

สำหรับการดำเนินงานในอนาคตอันใกล้ กรมศุลกากรกำลังจัดเตรียมหาสุนัขที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเพิ่มเติมประมาณ 5-6 ตัว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน และสามารถพัฒนาให้ศูนย์ฝึก K-9 ศุลกากร เป็นศูนย์ฝึกสุนัขระดับภูมิภาคขององค์การศุลกากรโลก WCO Regional Dog Training Center: RDTC อีกด้วย

“กรมศุลกากรเชื่อว่าเมื่อมีสุนัขเข้าร่วมปฏิบัติงานด้านการสืบสวนปราบปรามเกี่ยวกับการตรวจค้นสิ่งของผิดกฎหมาย โดยเฉพาะยาเสพติดและสารตั้งต้นในการผลิตยาเสพติด จะช่วยส่งเสริมและเพิ่มประสิทธิภาพการสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติด รวมถึงสินค้าที่เป็นอันตรายต่อสังคมและความมั่นคงของประเทศผ่านด่านศุลกากรได้เป็นอย่างดีต่อไป” อธิบดีกรมศุลกากร ย้ำและยืนยันว่า จากสถิติพบว่า การนำสุนัขดมกลิ่นมาใช้ในการปราบปรามยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย พบว่าประสบความสำเร็จจนเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน

สำหรับการนำ น้องขนุนและน้องทุเรียน สุนัข K-9 สองตัวแรกของกรมศุลกากรฯ มาใช้งานจริงนั้น ขึ้นกับความพร้อมของน้อง เนื่องจากอายุยังน้อยแค่ 7 เดือน แต่เท่าที่นำไปทดลองหน้าจริงพบว่า น้องสามารถตรวจค้นยาเสพติดและสินค้าอันตรายได้เป็นอย่างดี โดยอายุการใช้งานของ สุนัข K-9 จะอยู่ในราวๆ 8 ปี นั่นหมายความว่า กรมศุลกากรยังสามารถใช้งานน้องได้มากกว่า 7 ปีนับจากนี้ โดยจากนี้จะให้ทั้ง น้องขนุนและน้องทุเรียน ได้ทำงานจริงในสำนักงานไปรษณีย์ระหว่างประเทศย่านศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะต่อไป

อนึ่ง สำหรับสถิติการจับกุมยาเสพติด กรมศุลกากร พบว่า ในปีงบประมาณ 2564 จับกุมได้ 26,304 คดี คิดเป็นมูลค่า 3,203.4 ล้านบาท ขณะที่ ปีงบประมาณ 2565 จับกุมได้ 27,465 คดี คิดเป็นมูลค่า 3,742.1 ล้านบาท ส่วนในปีงบประมาณ 2566 (ต.ค. 65 – ส.ค. 66) สามารถจับกุมได้ 161 คดี มูลค่าของกลาง 1,098.1 ล้านบาท.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password