กรมศุลกากรบูรณาร่วมหน่วยงานพันธมิตร ตรวจค้นและจับกุม “ผู้โดยสารหญิง” สัญชาติโรมาเนีย แอบลักลอบนำเฮโรอีน หวังบินออกนอกประเทศ เป้าหมายไปไต้หวัน เผย! แอยซุกในกระเป๋าสะพายหลังและชุดเครื่องนอน รวมน้ำหนักกว่า 3 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท

นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี ในฐานะ โฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า กรมศุลกากรยังคงเดินหน้าปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและส่งออกยาเสพติดอย่างเข้มข้น โดยวันนี้ (วันที่ 26 กรกฎาคม 2568) กรมศุลกากร โดยกองสืบสวนและปราบปราม และสำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ร่วมกับหน่วยสกัดกั้นยาเสพติดทางท่าอากาศยานนานาชาติ (Airport Interdiction Task Force : AITF) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ได้ร่วมกันสืบสวน วิเคราะห์ข้อมูลการข่าว และสามารถจับกุม “ผู้ต้องสงสัยหญิงชาวโรมาเนีย” อายุ 50 ปี ขณะพยายามลักลอบนำยาเสพติดออกนอกราชอาณาจักรได้ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

ผู้ต้องสงสัยมีกำหนดเดินทางจากประเทศไทย เปลี่ยนเที่ยวบินที่ท่าอากาศยานโหน่ยบ่าย เมืองฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ปลายทางที่ท่าอากาศยานนานาชาติไต้หวันเถาหยวน ประเทศไต้หวัน เจ้าหน้าที่ได้เฝ้าระวังบริเวณเคาน์เตอร์เช็คอินสายการบินเวียดนามแอร์ไลน์ (Vietnam Airlines) และพบผู้ต้องสงสัยตรงตามข้อมูลจากการข่าว จึงแสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น

จากการนำ กระเป๋าสัมภาระของผู้โดยสาร ผ่านเครื่องเอกซเรย์ พบสิ่งผิดปกติในกระเป๋าเดินทางทรงแข็ง สีดำ เมื่อตรวจค้นเพิ่มเติมพบ ผงสีขาวลักษณะต้องสงสัยซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสะพายหลังและชุดเครื่องนอน เจ้าหน้าที่จึงใช้ ชุดน้ำยาทดสอบ ONCB051 MARQUIS  REAGENT  พบว่า ผงดังกล่าวทำปฏิกิริยากับน้ำยาและเปลี่ยนเป็นสีม่วง ผลทดสอบเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) น้ำหนักรวม 3.56 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 1,068,000 บาท

การกระทำดังกล่าวเป็นการลักลอบนำยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) ออกไปนอกราชอาณาจักร และมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) ไว้ในครอบครอง อันเป็นความผิดตามมาตรา 242 ประกอบมาตรา 252 มาตรา 166 และมาตรา 167 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง

สำหรับ สถิติรวมปีงบประมาณ 2568 (1 ตุลาคม 2567 – 24 กรกฎาคม 2568) กรมศุลกากรสามารถจับกุมยาเสพติดประเภทต่าง ๆ อาทิ ไอซ์ เฮโรอีน โคเคน และยาบ้า รวมทั้งสิ้น 187 คดี มูลค่ารวมกว่า 1,157 ล้านบาท

“การจับกุมในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพของระบบการข่าวและความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอย่างเป็นระบบ กรมศุลกากรจะยังคงมุ่งมั่นดำเนินการเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง เพื่อปกป้องสังคมจากภัยคุกคามของยาเสพติดและการลักลอบกระทำผิดกฎหมายในทุกรูปแบบ” โฆษกกรมศุลกากร กล่าวสรุป.