คลังจี้หน่วยรับงบประมาณ เร่งจัดซื้อจัดจ้างโครงการตามแผนกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น

กระทรวงคลังกำหนดแนวทาง “กำกับและติดตาม” ผลการดำเนินงานโครงการ/รายการกระตุ้นเศรษฐกิจ ภายใต้กรอบวงเงิน 1.57 แสนล้านบาท ย้ำ! หน่วยรับงบประมาณที่โครงการได้รับความเห็นชอบจาก ครม. ต้องเร่งจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อเบิกจ่ายได้ตามแผนที่กำหนด
นายธีรลักษ์ แสงสนิท รองปลัดกระทรวงการคลัง หัวหน้ากลุ่มภารกิจรายจ่ายและหนี้สิน กล่าวถึงความคืบหน้าภายหลังจากที่มี การประชุมคณะอนุกรรมการกำกับและติดตามผลการดำเนินงานตามแผนขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 โดยมี ผู้แทนจาก 5 กระทรวงที่ได้รับจัดสรรงบประมาณ ได้แก่ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงมหาดไทย รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ และกรมบัญชีกลาง) เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว
ทั้งนี้ เพื่อกำหนดแนวทางการกำกับและเร่งรัดติดตามการดำเนินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบแล้ว เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2568 จำนวน 481 โครงการ 8,939 รายการ วงเงินอนุมัติทั้งสิ้น 115,375 ล้านบาท โดยขณะนี้ (ข้อมูล ณ วันที่ 24 กรกฎาคม 2568) สำนักงบประมาณจัดสรรเงินให้หน่วยรับงบประมาณแล้ว จำนวน 148 โครงการ 5,595 รายการ เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 87,365 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 75.72 ของวงเงินอนุมัติ
นายธีรลักษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องจากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ประกอบกับเหลือระยะเวลาดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างประมาณ 2 เดือน ก่อนสิ้นปีงบประมาณ จึงขอให้หน่วยรับงบประมาณที่โครงการได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีดังกล่าวแล้ว เร่งดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างโดยเร็ว เพื่อให้สามารถเบิกจ่ายได้ตามแผนที่กำหนด ส่งผลให้เกิดการจ้างงาน และการขยายตัวของเศรษฐกิจตามเป้าหมาย และเพื่อให้การกำกับ ติดตามผลการดำเนินงานโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
“คณะอนุกรรมการฯ จะประชุมเร่งรัดติดตามการดำเนินงานเป็นประจำทุกเดือนโดยใช้ DASHBOARD “แผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้กรอบวงเงิน 1.57 แสนล้านบาท” เป็นเครื่องมือในการติดตามและรายงานคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป” รองปลัดกระทรวงการคลัง ระบุ.