DSI เร่งสอบตึก สตง.ถล่ม..พบหลักฐานมัด ‘บิ๊ก สตง.’ เอี่ยวฮั้วประมูล

ดีเอสไอ เร่งสอบ 3 สัญญาโครงการตึก สตง. โยงผู้บริหารระดับสูง สตง.เอื้อบ.เอกชนฮั้วประมูล คาดส่งสำนวน ป.ป.ช. สัปดาห์หน้า

วันนี้ (3 มิ.ย.) คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีการพิจารณาสำนวนการสอบสวนความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 (คดีฮั้วประมูล) ว่า ภายหลังจากที่คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ดำเนินการสอบสวนคดี “นอมินี” บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด เสร็จสิ้น จึงได้ขยายผลดูเรื่องการได้มาซึ่งสัญญา 3 ฉบับ เกี่ยวกับโครงการก่อสร้างสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) อันประกอบด้วย สัญญารับเหมาก่อสร้าง สัญญาการออกแบบ และสัญญาการควบคุมงาน พบพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก และจากการสอบปากคำพยานกลุ่มบริษัทที่เคยเสนอราคา E-Bidding หรือคัดเลือกแล้วแต่กรณี จนมีความชัดเจนแล้วว่านอกจาก 6 รายในกิจการร่วมค้า PKW (ตามสัญญาการควบคุมงาน) ยังมีผู้บริหารระดับสูงของ สตง. เข้ามาเกี่ยวข้องในสัญญาฮั้วประมูล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงได้รับไว้ดำเนินการเป็นคดีพิเศษที่ 58/2568 และได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานสำคัญ ก่อนส่งข้อมูลให้สำนักงาน ป.ป.ช. ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 เนื่องจากเป็นเรื่องเกี่ยวพันกันในส่วนของตำแหน่งหน้าที่เจ้าหน้าที่ของรัฐ

คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เผยอีกว่า “สำหรับพฤติการณ์ความผิดของบุคคล 6 รายภายใต้กิจการร่วมค้า PKW ตามสัญญาการควบคุมงาน จะต้องมีวิศวกรมาควบคุมงานจริง แต่ในการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานกลับพบว่ามีการปลอมเอกสารลายเซ็นของวิศวกรเพื่อให้ได้งาน โดยผู้บริหารระดับสูงของ สตง. เข้ามาเกี่ยวข้องในการฮั้วประมูล พบมีพฤติกรรมเป็นคนจัดฮั้วประมูล ล็อคสเป็กว่าจะเอาหรือไม่เอาบริษัทใดบ้าง” อาทิ การออกแบบ ได้มีการเจาะจงเลือกบริษัท ไมนฮาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด มาเขียนแบบ เพื่อเอื้อให้บริษัทจีน (กิจการร่วมค้า ITD-CREC : บริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ และบริษัท อิตาเลียนไทยฯ) ได้ก่อสร้าง จากนั้นก็เอาบริษัทควบคุมงาน (กิจการร่วมค้า PKW) ที่ไม่ได้มีการควบคุมงานจริง มาอ้างใช้ในการควบคุมงาน พฤติกรรมเช่นนี้ก็เหมือนเป็นการนำเอาเงินของรัฐไปทำให้เกิดความเสียหาย
“สำนวนการสอบสวนคดีฮั้วประมูล ดีเอสไอจะได้ส่งให้สำนักงาน ป.ป.ช. ภายในกรอบสัปดาห์หน้า โดยจะเร่งรัดให้เร็วที่สุด เพื่อที่ ป.ป.ช. จะได้นำเรื่องเข้าคณะกรรมการ ป.ป.ช. (ชุดใหญ่) พิจารณาว่าจะมอบหมายให้ดีเอสไอดำเนินการบางส่วน หรือ ป.ป.ช. จะดำเนินการเองทั้งหมด” พนักงานสอบสวน ดีเอสไอ กล่าวยืนยัน.