ปฏิเสธไม่ได้ว่า…คนไทยส่วนใหญ่ ต่างรู้สึกผิดหวัง ถึงขั้น…สิ้นหวัง! กับรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ เริ่มตั้งแต่ก้าวแรกของการได้เป็นรัฐบาล

วลีการเมือง…ตระบัดสัตย์ ที่ถูกเปลี่ยนในภายหลังเป็น “พลิกข้างสลับขั้ว” ถีบทิ้งพรรคอันดับหนึ่งที่ชนะการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 14 พ.ค.2566 อย่าง…พรรคก้าวไกล แล้วหันมา จับมือพรรคการเมืองฝั่งตรงกันข้าม ที่เคยประกาศก่อนหน้านี้ ทำนอง…จะไม่ร่วมกับพรรคลุง (ลุงป้อมและลุงตู่)

รอบนั้น…ภาพลักษณ์ในทางการเมือง ก็ติดลบ จนหากมีการเลือกตั้งครั้งใหญ่รอบใหม่ ยังไม่รู้ว่า…พรรคเพื่อไทย…จะเอาอะไรในทางการเมืองไปใช้หาเสียงได้บ้าง

นี่ยังไม่นับรวม…ความไม่คืบหน้าของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้มีความเป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้น เพราะที่สุด…นอกจากจะไม่คืบหน้า ยังดูเหมือนจะล้มเหลวด้วยซ้ำไป

ภารกิจในฟากการเมือง…มิอาจสร้างศรัทธาใดๆ ได้เลย

ที่คนไทยยอมนิ่งเฉย นั่นเพราะยังแอบคาดหวังว่า…ภารกิจทางด้านเศรษฐกิจ ที่เคยเป็น “เรือธง” ของเจ้าของพรรคเพื่อไทย ในสมัยเป็น “รัฐบาลไทยรักไทย” เมื่อกว่ายี่สิบปีก่อน…จะย้อนกลับมาสร้างสำเร็จ ตรงกับวลีร้อนๆ จากปาก หัวหน้าพรรคเพื่อไทย…เมื่อคราวหาเสียงเลือกตั้ง 2 ปีก่อน ว่า…

“คนไทย…มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ไปพร้อมๆ กันค่ะ!”

ผ่านมาเกือบครบ 2 ปี จนถึงวินาทีนี้…อย่าว่าแต่คนไทย…จะมีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ไปพร้อมๆ กัน เอาแค่ไม่อดตาย…ก็บุญโขแล้ว

นโยบาย มาตรการ ภารกิจ โครงการ…สารพัดจะรังสรรค์กันออกมา แต่แทบไม่มีอะไร? ประสบผลสำเร็จ แถมบางโครงการที่บอกว่า…จะสร้างเป็น “พายุหมุนทางเศรษฐกิจ” เอาเข้าจริง…แรงผายลมยังแรงเสียกว่า

ถึงตรงนี้…ภารกิจทางด้านเศรษฐกิจ ก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า

หันมาดู…ภารกิจด้านการต่างประเทศ ที่วันนี้…ถูกผูกโยงไปกับ ภารกิจด้านความมั่นคง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ภายหลังจากที่ “ผู้นำจิตวิญญาณ” ของประเทศข้างบ้าน อย่าง…นายฮุน เซน ประกาศท้ารบกับรัฐบาลไทย ในทุกมิติ ทั้งด้านการทหาร ด้านกฎหมายระหว่างประเทศ ด้านการทูต และอื่นๆ แบบครบวงจร

ไม่เหลือความสัมพันธ์…ฉันญาติสนิทกับครอบครัวฝั่ง “ผู้นำไทย” อย่าง…ตระกูล “ชินวัตร” แต่อย่างใด?

ยิ่ง…แกนนำรัฐบาล ระดับ… “ออกญากลาโหม” นายภูมิธรรม เวชชยชัย รองนายกฯและรมว.กลาโหม รวมถึง “นายกฯอิ๊ง” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในแทบทุกครั้ง ล้วนเป็นไปในลักษณะที่เหมือนจะ “ข่มกองทัพไทย (แต่) โปรเขมร?”

ขณะที่ กระทรวงการต่างประเทศ ยุคของ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ ก็แทบไม่ได้ทำอะไรให้เป็นชิ้นเป็นอัน พอจะเรียกได้ว่า…กู้คืนเกียรติภูมิและศักดิ์ศรีความเป็นไทยในเวทีโลก กลับคืนมาได้อย่างทันท่วงที

กว่าจะตอบโต้…ข้อกล่าวของ ผู้นำประเทศข้างบ้าน ได้ ก็ถูก นานาชาติ…มองไทยด้วยสายตาแปลกๆ ไปเสียแล้ว

สำหรับ ภารกิจด้านความมั่นคง ที่ พรรคเพื่อไทย…จองโควตาเก้าอี้ “ออกญากลาโหม” มาตั้งแต่การแต่งตั้งให้ นายสุทิน คลังแสง มานั่งเก้าอี้ตัวนี้ ก่อนจะเปลี่ยนสลับให้ นายภูมิธรรม เวชชยชัย มานั่งแทนที่ ทว่าผลงานที่ออกมา นับแต่ปัญหาชายแดนใต้ ลากยาวไปฝั่งตะวันตก กับชายแดนประเทศเมียนมา อ้อมลงมายังชายแดนประเทศกัมพูชา ที่กำลังเป็นข่าวดังในวันนี้…

ไม่เพียง…หาผลงานไม่เจอ แต่กลับไปเจอประเด็นที่ขัดแย้งกับฝ่ายกองทัพ ในทำนอง…กองทัพ และแม่ทัพบางคน? ไม่ฟังรัฐบาลและออกญากลาโหม ถึงขั้น…มีข่าวเชิญชวนให้คนไทย ช่วยกัน “เซฟ! แม่ทัพภาคที่ 2” พล.ท.บุญสิน พาดกลาง หลังมีข่าวลือ…รัฐบาลคิดจะปลด!

แม้ความเป็นจริง…การที่ “ออกญากลาโหม” หรือแม้ “รัฐบาล” โดยนายกรัฐมนตรี คิดจะ ปลดนอกวาระ กับ นายทหารระดับ “นายพล” ที่ไม่มีความผิดขั้นรายแรง จะไม่ใช่เรื่องง่าย ถึงขั้นเป็นไปไม่ได้เลย

กระนั้น ข่าวทำนองนี้ ก็ทำลายภาพลักษณ์ของ “รัฐบาลแพทองธาร” ได้ดีนักแล…

สรุป! ภารกิจด้านความมั่นคง และด้านการต่างประเทศ ของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย “ติดลบ” ไปต่างจาก 2 ภารกิจข้างต้น (ด้านการเมืองและด้านเศรษฐกิจ) ก่อนหน้านี้

ก็ไม่แปลก! หาก “เจ้าของพรรคฯ” จะกดดันให้ “ลูกสาวตัวเอง” เร่งปรับคณะรัฐมนตรี จะด้วยเหตุผล…(1) เพื่อเรียกคืนความเชื่อมั่นกับ 4 ภารกิจข้างต้น คือ ด้านการเมือง ด้านเศรษฐกิจ ด้านการต่างประเทศ และด้านความมั่นคง กลับคืนมา…

โดยปรับเอา คนที่ยังไม่ใช่ “ตัวจริง” ออกไปก่อน? แล้วส่งเทียบเชิญ…ดึงเอากลุ่มคนที่ไม่ใช่ “ตัวปลอม” ในเชิงการบริหาร…มาร่วมบริหาราชการแผ่นดิน สร้างผลงานให้โดดเด่นเป็นที่ประจักษ์ในช่วงเวลากว่า 2 ปีนิดๆ ที่เหลือนับจากนี้

หรือ (2) เพื่อหวังแค่วางคนของตน ลงตำแหน่งสำคัญๆ รองรับการเลือกตั้งรอบใหม่ ตั้งเป้า…จะยึดคืนกระทรวงเกรด A ที่มีผลต่อการเลือกตั้งครั้งหน้า ให้มากที่สุด โดยไม่คิดจะแก้ไขความล้มเหลวใน 4 ภารกิจหลัก หรือหากจะทำ…ก็แค่ทำผ่านๆ ทำให้ได้ชื่อว่า “ได้ทำแล้ว…” เท่านั้น

ล่าสุด มีรายงานข่าวเมื่อเย็นวันนี้ (3 มิ.ย.2568) จาก…พรรคภูมิใจไทย พรรคอันดับ 2 ของรัฐบาลฯ ยอมรับว่า…ได้รับการประสานจาก แกนนำพรรคเพื่อไทย ถึงเรื่องการ “ปรับ ครม.” แม้ว่า…พรรคภูมิใจไทย ยังไม่มีแนวคิดการ “ปรับ ครม.” ในสัดส่วนของพรรคฯ ก็ตาม

แต่ดูเหมือนสถานการณ์ ณ นาทีนี้ แรงกระสันต่อความต้องการจะ “ปรับ ครม.” มันเกินจะต้านไหว? นั่นก็หมายความว่า…

หาก “นายกฯแพทองธาร” ต้องการจะ “ปรับ ครม.” เพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่น ต่อการทำงานแก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพของรัฐบาล ให้มากขึ้นแล้ว ก็ควรจะปรับคณะรัฐมนตรีแบบปรับใหญ่ทั้งคณะ แต่จะต้องพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมาด้วย

สรุปให้สั้น…ดูเหมือน พรรคภูมิใจไทย เอง ก็ยอมรับชะตากรรม ต่อการจะถูก “ล้วงลูก” ดึงเอาบางกระทรวงสำคัญๆ ไป โดยไม่รู้ว่า…จะได้อะไรแลกกลับคืนมาบ้าง

สำหรับ “คอการเมือง” แล้ว บอกตามตรง…พวกเราไม่ได้หวังอะไรกับ “รัฐบาลแพทองธาร” แต่ที่หวังลึกๆ คือ อยากเห็น “รัฐบาลใหม่” ที่ไม่มีนักการเมืองอาชีพ มาร่วม ครม.

ตรงนี้…มากกว่า ที่คนไทย อยากจะเห็นในเร็วๆ วัน!!!.

//////////////////