DSI เจ้าภาพ บูรณการหน่วยงานเหตุตึก สตง.ถล่ม หวั่นหลักฐานทางคดีซ้ำซ้อน

กรมสอบสวนคดีพิเศษ บูรณาการหลายหน่วยงานเข้าตรวจสอบซากตึก สตง.ถล่ม กำหนดแนวทางการรวบรวมพยานหลักฐานลดการซ้ำซ้อนกับ สพฐ.ตร.

ช่วงสายวันที่ 9 เม.ย.2568 พ.ต.ต. ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มอบหมายให้ พ.ต.ต. วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีคุ้มครองผู้บริโภคและโฆษก กรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะ รองหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรณีการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวที่เข้าร่วมเป็นการร่วมค้าฯ ที่เป็นผู้ก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่พังเสียหาย ในเหตุการณ์แผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา พร้อมด้วย พ.ต.ต.อนุชา รัศมี ผู้อำนวยการส่วนคดีคุ้มครองผู้บริโภค 3 กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค ได้เดินทางไปยัง ศูนย์อำนวยการฯ อาคารเจเจมอลล์ เขตจตุจักร เพื่อประชุมร่วมกับ ผู้แทนสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ผู้แทนสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ผู้บังคับการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจกลาง ผู้แทนกระทรวงอุตสาหกรรม และผู้แทนกรมโยธาธิการและผังเมือง เพื่อกำหนดแนวทาง และวางแผนการปฏิบัติงานร่วมกันในการรวบรวมพยานหลักฐานจากสถานที่เกิดเหตุ

สำนักงานพิสูจน์หลักฐานกลาง ได้ชี้แจงผลการจัดทำภาพถ่ายบริเวณสถานที่เกิดเหตุ และมีการรวบรวมพยานหลักฐานไปแล้วบางส่วน ซึ่งที่ประชุมได้มีการเข้าสำรวจบริเวณพื้นที่เกิดเหตุร่วมกันและกำหนดแบ่งหน้าที่ในการปฏิบัติงาน โดยมี กรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นผู้ประสานงานหลักเพื่อขออนุญาตกรุงเทพมหานครในการเข้าพื้นที่และมีหน่วยงานที่เชี่ยวชาญเฉพาะทางดำเนินการจัดเก็บพยานหลักฐานตามหลักการทางวิชาการ โดย กรมโยธาธิการและผังเมือง จะเป็นผู้จัดเก็บคอนกรีตด้วยการเจาะเก็บจากแท่งคอนกรีตที่ยังคงสภาพ เพื่อนำคอนกรีตไปทดสอบตามหลักวิชาการและออกรายงานผลการตรวจ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมรับผิดชอบในการตรวจเหล็กที่นำมาใช้ในการก่อสร้าง โดยเก็บจากเหล็กเส้นที่ยังไม่ได้ถูกนำมาใช้ก่อสร้าง และเหล็กที่ตัวอาคาร ทุกโซน (A-D) และนำไปตรวจโครงสร้างทางเคมี และมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หากพบความผิดที่เกี่ยวกับมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ มอก. จะออกรายงานพร้อมทำหนังสือกล่าวโทษพร้อมพยานหลักฐานมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อดำเนินคดีต่อไป

ส่วน พนักงานสอบสวนท้องที่เกิดเหตุ มีการดำเนินการเกี่ยวกับการชันสูตรพลิกศพ และสืบสวนสอบสวนเกี่ยวกับความผิดอาญาที่เกี่ยวกับชีวิต ร่างกาย ที่มาจากการพังทลายของอาคารฯ และมีสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เป็นผู้สนับสนุนการปฏิบัติและให้คำแนะนำในส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยในวันนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ผู้แทนสำนักงานพิสูจน์หลักฐานกลาง พนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ผู้แทนสถาบันนิติวิทยาศาสตร์รวมทั้งวิศวกรจากกรมโยธาธิการและผังเมือง ได้ร่วมกับเข้าที่เกิดเหตุเพื่อปฏิบัติตามแผนงานแล้ว
กรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้ความสำคัญในการสืบสวนสอบสวนกรณีความผิดตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว (นอมินี) และ พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ (ฮั้วประมูล) หากพบว่าการถล่มของอาคารเกี่ยวข้องกับกระบวนการเหล่านี้ และมีการใช้วัสดุก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐานจากการลดต้นทุน ก็จะดำเนินการขยายผล ต่อไป.

