‘ปลัด อว.’ ขีดเส้นตาย มก. 30 วันเคลียร์ปม ‘อ.อ๊อด’ คุมคามสื่อ! – ‘เคนโด้’ ฟ้องค่าเสียหายร้อยล.

“เคนโด้” ดึงกลุ่มคอลัมนิสต์ฯ ร่วมยื่นหนังสือสอบข้อเท็จจริง “อาจารย์อ๊อด” ปมมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับความเป็น “รศ.ดร.” ทั้งคุกคาม/ขู่ทำร้ายร่างกายสื่อ แถมบูลลี่ “ผู้ป่วยไบโพลาร์” ชี้! ทำความเสื่อมเสียถึง “ต้นสังกัด” มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และกระทรวง อว. ด้าน “ปลัดฯศุภชัย” รับลูก! นำหารือ “รมว. อว.” พร้อมขีดเส้นให้เร่งสอบภายใน 30 วัน เผย! พิธีกรดัง “จ่อฟ้องเรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท” แย้มนำเงินช่วยการกุศล วอนสื่อที่ตกเป็นเหยื่อลงข่าวเท็จ ช่วยแก้ไขนำสู่ความถูกต้อง ยกระดับสื่อไทย

เมื่อเวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมชั้น 4 กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.), ศ.ดร. ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวง อว. เดินทางมารับหนังสือร้องเรียนจาก นายเกรียงไกรมาศ พจนสุนทร หรือเคนโด้ พิธีกรและผู้ประกาศข่าวชื่อดัง พร้อมด้วย นายณรงค์ ปานนอก ประธานชมรมคอลัมนิสต์ นักจัดรายการวิทยุและโทรทัศน์ไทย และ นายศักดา แซ่เอียว (การ์ตูนนิสต์ “เซียไทยรัฐ”) กรรมการชมรมฯ ในฐานะองค์กรสื่อต้นสังกัดของ นายเกรียงไกรมาศ และสื่ออาวุโส (ขอไม่เปิดเผยชื่อ) ผู้ที่ถูกคุกคามจากพฤติกรรมอันไม่เหมาะสม จากจ้างวานให้มีการทำร้ายร่างกายสื่อที่นำเสนอข่าวตามข้อเท็จจริงและไม่ถูกใจของ “อาจารย์อ๊อด” หรือ รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ ก่อนหน้านี้

นายเกรียงไกรมาศ กล่าวว่า พฤติกรรมของอาจารย์อ๊อด ไม่ว่าจะเป็นการให้ข่าวเท็จทำลายชื่อเสียงของตน หรือการทำเอกสารปลอมหลอกต้นสังกัด (มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์) กรณีหลอกลวงว่า อัยการสั่งไม่ฟ้องตัวเอง ทั้งที่เจ้าพนักงานตำรวจได้ยื่นฟ้องต่ออัยการไปแล้วก่อนหน้านี้ และคดียังไม่สิ้นสุด ในคดีที่กล่าวหาตนเป็นมิจฉาชีพ (ดีเจมิจในมิตร) รวมถึงพฤติกรรมการจ้างวานให้มีการทำร้ายร่างกายสื่อ และการบูลลี่ตน ซึ่งเป็นผู้ป่วยไบโพลาร์ว่าเป็นพวกไบโพลาร์ขาดยา ถือว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมสำหรับคนที่เป็นอาจารย์ ระดับ “รศ. ดร.” ที่ไม่เพียงจะสร้างความเสื่อมเสียต่อตัวเองในฐานะนักวิชาการ หากยังทำลายชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งเป็นต้นสังกัด และกระทรวง อว. ในฐานะที่กำกับดูแลระบบการศึกษาในระดับอุดมศึกษา ตนจึงขอเรียกร้องให้ ปลัดกระทรวง อว. ในฐานะผู้บังคับบัญชา ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงของกรณีดังกล่าว พร้อมกันนี้ ยังได้ยื่นหลักฐานและเอกสารประกอบการร้องเรียนให้พิจารณาเพื่อดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด ต่อไป

ด้าน ศ.ดร. ศุภชัย กล่าวว่า ตนยินดีรับเรื่องดังกล่าวไปดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยจะนำเรียนไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. (นางสาวศุภมาส อิศรภักดี) พร้อมกันนี้ จะส่งเรื่องต่อไปยังมหาวิทยาเกษตรศาสตร์ ต้นสังกัดของ อาจารย์อ๊อด เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเร็วที่สุด และจะกำชับให้ทาง มหาวิทยาเกษตรศาสตร์ ต้องเร่งดำเนินการชี้แจง และจัดส่งผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงกลับมายัง กระทรวง อว.ภายใน 30 วัน ทั้งนี้ หากผลการตรวจสอบไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริง หรือผู้เสียหายยังรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ทางกระทรวง อว. ก็พร้อมจะดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย

“ที่ผ่านมา กระทรวง อว. ยังไม่เคยมีกรณีที่อาจารย์/นักวิชาการกระทำการในลักษณะนี้ (คุกคามสื่อ และ/หรือฟ้องร้องเพื่อปิดปากสื่อ) อย่างมากก็มีแค่เรื่องที่อาจารย์/นักวิชาการทำผิดจริยธรรมร้ายแรงด้วยการปลอมแปลงเอกสารวิชาการในการทำวิจัย ซึ่ง กระทรวง อว. เองก็มีกฎระเบียบและข้อบังคับคอยกำกับดูแลอยู่แล้ว และพร้อมให้ความเป็นธรรม โดยหากยังไม่ครบถ้วน ยังขาดในเรื่องหนึ่งเรื่องใด ก็ดูว่ากระทรวง อว.จะดูแลอย่างไรต่อไป” ปลัดกระทรวง อว. ย้ำ

นายเกรียงไกรมาศ หรือเคนโด้ ให้สัมภาษณ์สื่อในเวลาต่อมาว่า หลังจากที่ อาจารย์อ๊อดออกมากล่าวหาตน ด้วยการให้ข่าวเท็จและมีสื่อจำนวนมาก โดยเฉพาะสื่อกระแสหลัก (หนังสือพิมพ์และโทรทัศน์) รวมถึงสื่อออนไลน์ ได้นำเสนอข่าวดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ทำให้ตนรู้สึกผิดหวังและเสียใจ เพราะที่ผ่านมาตนไม่เคยมีพฤติกรรมตามที่ อาจารย์อ๊อด กล่าวหาแต่อย่างใด เป็นเหตุให้ตนเสื่อมเสียชื่อเสียง เป็นที่รังเกียจจากสังคมที่เสพข่าวดังกล่าว อีกทั้งยังถูกถามไถ่จากคนรู้จักทำนอง “เมื่อไหร่จะเข้าคุก?” แม้กระทั่ง กับบทบาทการช่วยสังคมผ่านเพจ “เคนโด้ช่วยด้วย” ยังถูกปรามาสจากเจ้าพนักงานตำรวจในบาง สน. ในลักษณะ “เคนโด้จะช่วยเหลือคนเหล่านั้นได้อย่างไร ในเมื่อตัวเองกำลังจะติดคุกอยู่แล้ว” พร้อมกับไล่ให้ผู้เสียที่ได้รับการช่วยเหลือจากเพจ “เคนโด้ช่วยด้วย” กลับบ้านไป

จากเหตุการณ์ข้างต้น ทำให้ตนรู้สึกช็อก จนต้องเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นเวลานาน 5 วัน และผลจากการให้ข่าวเท็จของอาจารย์อ๊อดตลอดเกือบ 4 เดือนที่ผ่านมา หรือนานกว่า 100 วันนั้น ทีมงานได้แจ้งให้ตนทราบในเวลาต่อมาว่า มียอดผู้เข้าชมข่าวดังกล่าวจากสื่อต่างๆ รวมกันเกือบ 100 ล้านวิว ซึ่งจำนวนคนเข้าชมข่าวฯ คือจำนวนความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตน ทำให้ตนสูญเสียโอกาสจากการได้รับการว่าจ้างทำงานในด้านต่างๆ ซึ่งจากเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตนตั้งใจจะฟ้องร้องดำเนินคดีอาญากับอาจารย์อ๊อด โดยเตรียมจะยื่นฟ้องฯในเวลา 10.00 น. วันศุกร์ที่ 31 มกราคม ณ ศาลอาญารัชดา หลังจากนั้น จะให้ทนายความทำการฟ้องร้องในคดีแพ่งเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจากอาจารย์อ๊อดเป็นมูลค่า 100 ล้านบาท โดยจะนำรายได้ส่วนหนึ่งไปช่วยเหลือเพื่อสื่อมวลชนที่ถูกคุกคามหรือถูกฟ้องร้องดำเนินคดีเพื่อหวังจะ “ปิดปากสื่อ” รวมถึงนำเงินไปช่วยเหลือในการพัฒนาระบบการศึกษาของชาติต่อไป

“ผ่านมากว่า 100 วัน มันพิสูจน์ได้แล้วว่า ผมถูกดำเนินคดีหรือติดคุกหรือไม่? อย่างไร? เรื่องนี้ ทีมทนายความได้แนะนำให้ผมยื่นฟ้องร้องดำเนินคดีกับบรรดาสื่อที่ลงข่าวเท็จ พร้อมเรียกร้องค่าเสียหายตามมา แต่ในฐานะที่เราก็เป็นสื่อเหมือนกัน โอกาสจะตกเป็นเครื่องมือของผู้ไม่หวังดีมีโอกาสเท่าๆ กัน ผมจึงไม่คิดจะฟ้องร้องดำเนินคดีกับสื่อเหล่านั้น ขอเพียงแค่ความเห็นใจในการนำเสนอข่าวตามข้อเท็จจริง โดยเฉพาะข่าวที่ผมได้มายื่นหนังสือร้องเรียนฯ ถึงท่านปลัดกระทรวง อว.ในวันนี้ก็พอแล้ว” นายเกรียงไกรมาศ ย้ำและว่า ขอเรียกร้องให้เพื่อนสื่อทั้งหลาย ได้โปรดพิจารณาว่าอย่าเพิ่งทำหรือเผยแพร่ข่าวหรือเชิญบุคคลที่อยู่ระหว่างการดำเนินคดี มาร่วมออกรายการใดๆ ก็ตาม จนกว่าคดีความจะถึงที่สุดและได้รับการพิสูจน์ว่าคนเหล่านั้น เป็นผู้บริสุทธิ์จนทำและเผยแพร่ข่าว รวมถึงเชิญมาร่วมออกรายการได้

ด้าน “2 ผู้บริหารระดับสูง” ของชมรมคอลัมนิสต์ฯ (นายณรงค์ ปานนอก และ “เซียไทยรัฐ”) กล่าวเสริมว่า ในฐานะ “องค์กรสื่อ” ที่แม้จะไม่ได้จดทะเบียนฯ ยกระดับเป็น “สมาคมฯ” แต่ก็มีบทบาทสำคัญในการรวบรวมสื่อมวลชนอาวุโส เพื่อร่วมทำกิจกรรมดีๆ ต่อสังคมและวงการสื่อมวลชน อย่างไรก็ตาม ชมรมคอลัมนิสต์ฯ ก็ไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมของ อาจารย์อ๊อด ทั้งเรื่องการคุกคามสื่อ การฟ้องร้องสื่อเพื่อปิดปาก แม้กระทั่ง การบูลลี่ผู้ป่วยพาโบลาร์ พร้อมกันนี้ ชมรมคอลัมนิสต์ฯ ขอเรียกร้องไปยังสื่อมวลชนทุกแขนงที่ตกเป็นเหยื่อในการนำเสนอข่าวสารที่ข้อมูลไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ได้โปรดตรวจที่มาที่ไปของข่าวสารและผู้ให้ข่าวสารว่ามีความน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน? รวมถึงทำหน้าที่อย่างเป็นกลางในการนำเสนอข่าวสารข้อมูลสู่สังคม โดยอย่าได้ตัดสินความถูกผิดของบุคคลในข่าวแต่อย่างใด.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password