อคส.เคลียร์ปมข้าวไฟไหม้จากคลังข้าวสิงโตทองไรซ์ฯ – เผย! ทำด้วยความรอบคอบ

รักษาการผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า แจงเคลียร์ปมข้าวไฟไหม้จากคลังข้าวสิงโตทองไรซ์ฯ เผย! ดำเนินการด้วยความรอบคอบ รอศาลตัดสิน พร้อมยกเลิกสัญญาซื้อขาย-คืนหลักประกันให้ผู้ซื้อ

นายกฤษณรักษ์ ใจดี รักษาการผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยว่า อคส.ขอชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีคลังข้าวสิงโตทองไรซ์ เกิดไฟไหม้และมีการยกเลิกสัญญาซื้อขายข้าวสารในสต็อกจนเกิดการร้องเรียน ดังนี้

1. ในกรณีที่ข้าวเกิดไฟไหม้ องค์การคลังสินค้าได้ดำเนินการคัดแยกข้าวสารมาไว้ที่หน้าคลังสินค้าและคณะทำงานตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าว ชุดที่ 101/2557 เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2558 ได้ตรวจสอบพบว่า เป็นข้าวผิดชนิด ดังนั้นจึงเกิดข้อพิพาทและอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครอง

2. กรณีไฟไหม้ตามข้อ 1 องค์การคลังสินค้าได้ทำประกันภัยกับบริษัทประกันภัย โดยบริษัทประกันภัยได้นำค่าสินไหมทดแทนมาชำระให้กับ องค์การคลังสินค้า ชนิดข้าวขาว 5% จำนวน 50 กระสอบ เป็นเงิน 82,600.00 บาท  และชนิดข้าวเหนียว 10% จำนวน 4,187กระสอบ เป็นเงิน 10,894,574.00 บาท ซึ่ง องค์การคลังสินค้า ได้ออกเอกสารให้บริษัทประกันภัยเพื่อไปรับซากทรัพย์เรียบร้อยแล้ว แต่ปรากฏว่าไม่สามารถเข้าไปรับซากทรัพย์ได้ เนื่องจากเจ้าของคลังยึดหน่วงซากทรัพย์

3. ต่อมา องค์การคลังสินค้าได้ออกประกาศการจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคนและสัตว์ ครั้งที่ 1/2563 ลงวันที่ 12 พฤษภาคม 2563 ซึ่งผู้ซื้อได้ทำสัญญาซื้อขายเลขที่ คชก.ซข.(อต.)4/2563 ลงวันที่ 9 กันยายน 2563 จำนวน 38,592.481329 ตัน มูลค่า 319,488,888.03 บาท ผู้ซื้อรับมอบได้ จำนวน 30,348.600 ตัน มูลค่า 251,251,692.12 บาท คงค้างการรับมอบ 8,243.881329 ตัน มูลค่า 68,247,192.18 บาทต่อมา ฝ่ายกฎหมายองค์การคลังสินค้าได้ให้ความเห็นว่า การซื้อขายตามกรณีนี้เป็นการรับมอบสินค้าที่ บจก.สิงห์โตทองฯ หลัง A1 เมื่อกองข้าวที่มีสภาพไฟไหม้อยู่ภายนอกคลังสินค้า A1 และไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นข้าวจากกองใด จึงเป็นข้อเท็จจริงที่พ้นวิสัยอันจะบังคับเอาได้ตามสัญญาให้ ผู้ซื้อ ต้องรับข้าวซึ่งมีสภาพไฟไหม้ไปตามสัญญา ประกอบกับ ผู้ซื้อ รับข้าวจากคลังสินค้า A1 แล้วคงเหลือเพียงข้าวบางส่วนซึ่งนำออกมาไว้นอกคลังโดยไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นข้าวของคลังสินค้า A1 ซึ่งระบุตามสัญญาซื้อขายแล้วหรือไม่ ทั้งความรับผิดในการส่งมอบข้าวนั้น องค์การคลังสินค้า ในฐานะผู้ขายไม่ต้องรับผิดในจำนวนขายที่ไม่สามารถส่งมอบได้ครบตามสัญญา

อย่างไรก็ตาม หากข้อเท็จจริง ผู้ซื้อ รับข้าวตามสัญญาในคลังสินค้า A1 แล้ว คงมีเพียงปริมาณข้าวที่อยู่นอกคลังและมีสภาพไฟไหม้ มีการรับมอบตามสัญญาแล้ว ผู้ซื้อ พ้นภาระตามสัญญาซื้อขายแล้ว จึงได้รับหลักประกันที่ใช้ในการค้ำประกันสัญญาคืน  ดังนั้น เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2567 อดีตผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า ได้อนุมัติให้ยกเลิกการชำระเงินและรับมอบข้าวสารและคืนหลักประกันสัญญาให้กับผู้ซื้อ โดยองค์การคลังสินค้าได้ดำเนินการตามขั้นตอนด้วยความรอบคอบ ซึ่งขณะนี้เรื่องดังกล่าวอยู่ในกระบวนการพิจารณาในชั้นศาล.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password