“พิชัย” ไม่สนศาล รธน. ประกาศไม่ขอใช้ “รักษาการฯ” นำหน้าตำแหน่งรัฐมนตรี ย้ำ! หากยุบสภาฯยังไม่มีผล เดินหน้าสานต่องานเดิม สร้างประโยชน์/โอกาสให้ประเทศ ยกเว้น! งานที่ไม่เร่งด่วนและผูกพันกับรัฐบาลชุดหน้า เชื่อการเมือง “สุญญากาศ” ไม่กระทบการลงทุนต่างชาติ เหตุเห็นกันบ่อย มั่นใจ! จีดีพีปีนี้ โต 2% ด้าน ‘เผ่าภูมิ’ ขอรอดูความชัดเจน แม้ ร่าง กม.หวยเกษียณ จะอยู่ในวาระประชุมสภาฯ แล้วก็ตาม

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กล่าวว่า แม้ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร และคณะรัฐมนตรี พ้นจากตำแหน่ง โดยมีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2568 กระนั้น ตนยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติในฐานะรัฐมนตรี ไม่ได้ใช้คำว่า “รักษาการ” อย่างไรก็ตาม จากการที่ นายภูมิธรรม เวชชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ทูลเกล้าฯยื่นยุบสภาฯตั้งแต่เมื่อค่ำวันที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมา แต่ในระหว่างที่ยังไม่มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา ตนจะยังคงทำหน้าที่ต่อไป แม้ในทางข้อกฎหมายจะห้ามมิให้ดำเนินการในสิ่งที่จะเป็นความผูกพันธ์กับรัฐบาลชุดหน้าก็ตาม

ทั้งนี้ มีหลายประเด็นที่สังคมรู้สึกเป็นห่วง โดยเฉพาะ การเจรจาเรื่องภาษีกับสหรัฐฯ ซึ่งยืนยันว่า ในฐานะ “หัวหน้าทีมไทยแลนด์” ตนยังคงเจรจาในประเด็นเหล่านี้ เพราะเป็นการเจรจาเพื่อหารือถึงข้อยุติ มิใช่ทำข้อตกแต่อย่างใด อะไรที่เป็นสิ่งจำเป็นและเป็นประโยชน์ต่อประเทศ ตนพร้อมจะดำเนินการอย่างเต็มที่

สำหรับสถานการณ์การเมืองไทยในขณะนี้ อาจทำให้ นักลงทุนต่างชาติลดระดับการลงทุนในไทย รวมถึงอาจทำให้ บริษัทจัดอันดับเครดิตของโลก ทำการปรับลดเครดิตของไทย นั้น นายพิชัย กล่าวว่า การวางแผนลงทุนในไทยเป็นเรื่องของแผนระยะยาว และการประเมินเครดิตของไทย ก็ไม่ต่างกัน ที่ผ่านมา ทั้งนักลงทุนต่างชาติ บริษัทจัดอันดับเครดิต รวมถึงองค์กรระหว่างประเทศ ล้วนเห็นภาพของสถานการณ์การเมืองไทยในลักษณะนี้มายาวนาน แต่ถึงที่สุด ทุกอย่างก็จะคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น ครั้งนี้ก็เช่นกัน ตนหวังว่าทุกอย่างจะกลับมาสู่ภาวะปกติได้ในไม่ช้านี้

อย่างไรก็ตาม คงมีบางธุรกิจหรือกิจกรรมทางเศรษฐกิจบางประเภท ที่อาจต้องชะลอตัวหรือรอผลการตัดสินใจในทางการเมืองบ้าง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ปกติ ส่วน ประเด็นกฎหมายที่ดินเช่าระยะยาว 99 ปีนั้น ตอนนี้ได้จัดทำร่างกฎหมายแล้วเสร็จ และอยู่ระหว่างการเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นอกจากนี้ หลายๆ โครงการหรือมาตรการของรัฐบาล ที่หากมีรัฐบาลใหม่และเห็นว่ามีประโยชน์ต่อประเทศ ก็อาจนำเอาไปใช้และผลักดันกันต่อไปได้

“ส่วนที่ กกร.(คณะกรรมการภาคเอกชน 3 สถาบัน) แถลงเมื่อช่วงสายวันนี้ (3) มองว่า เศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังอาจขยายตัวได้เพียงแค่ 1% นั้น ผมคิดว่าเป็นการประเมินผ่านข้อมูลเก่า ก่อนมีเรื่องภาษีสหรัฐฯ ส่วนตัวพร้อมจะผลักดันให้เศรษฐกิจไทยในปีนี้ โตไม่ต่ำกว่า 2%” นายพิชัย ระบุ

ด้าน นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวว่า แม้ร่างกฎหมายสลาก กอช. (หวยเกษียณ) จะถูกบรรจุเข้าไว้ในวาระการประชุมของสภาผู้แทนราษฎรแล้ว แต่จากสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน คงต้องรอดูความเจนในทางการเมืองอีกที รวมถึง โครงการสถาบันค้ำประกันเครดิตแห่งชาติ (NaCGA) ด้วย ส่วนตัวเชื่อว่า เมื่อทุกอย่างเข้าที่และมีความชัดเจนแล้ว ทุกอย่างก็จะเดินหน้าต่อไปได้.