‘พิพัฒน์’ กำชับ สปส.เร่งช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ-เสียชีวิต เหตุกราดยิงเรือประมงไทย
รัฐมนตรีแรงงาน กำชับ เลขาธิการ สปส.เร่งช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ-ทายาทผู้เสียชีวิต จากเหตุการณ์ ทหารเมียนมา กราดยิงเรือประมงไทย บริเวณน่านน้ำ จ.ระนอง
จากกรณีเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 ได้เกิดเหตุเรือประมงไทย 3 ลำ ถูกเรือรัฐบาลทหารเมียนมาติดอาวุธ กราดยิงขณะวางอวนล้อมจับปลาในเขตน่านน้ำจังหวัดระนอง อยู่ห่างจากเกาะพยามทางทิศตะวันตกประมาณ 19 กิโลเมตร นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และนายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน มีความห่วงใยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้กำชับให้ นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เร่งให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ได้รับบาดเจ็บและทายาทของผู้เสียชีวิตโดยด่วน
นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ในครั้งนี้ พร้อมสั่งการให้ นางสาวพรรษชล พุ่มม่วง ประกันสังคมจังหวัดระนอง ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบผู้ได้บาดเจ็บจำนวน 2 ราย ได้แก่ นายศรีเพ็ชร บุตรทัด อายุ 47 ปี ตำแหน่งไต๋เรือมหาลาภธนวัฒน์ 4 ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ปัจจุบันแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านแล้ว นายสุชาติ ชูเมือง อายุ 42 ปี ตำแหน่งลูกเรือของเรือมหาลาภธนวัฒน์ 4 ได้รับบาดเจ็บจากการถูกไฟฟ้าช็อตบริเวณนิ้วมือข้างขวา เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลระนอง และ พบผู้เสียชีวิตจำนวน 1 ราย ชื่อ นายวรากร จูศิริพงษ์กุล อายุ 24 ปี ตำแหน่งช่างเครื่องประจำเรือดวงทวีผล 333 เสียชีวิตจากการจมน้ำ ส่วนเรือ ส.เจริญชัย 8 มีลูกเรือจำนวน 31 คน ถูกเรือรัฐบาลทหารเมียนมาควบคุมไปยังเกาะย่านเชือก ประเทศเมียนมา
ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ เป็นการประสบอันตรายเนื่องจากการทำงานให้นายจ้าง ทายาทของผู้เสียชีวิตจะได้รับสิทธิประโยชน์จากกองทุนเงินทดแทน ดังนี้ ค่าทำศพ จำนวน 50,000 บาท ค่าทดแทนกรณีเสียชีวิต ร้อยละ 70 ของค่าจ้างเป็นระยะเวลา 10 ปี และเงินบำเหน็จชราภาพ ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า นายจ้างของเรือประมงไทยทั้ง 3 ลำ อยู่ในพื้นที่ และได้ขึ้นทะเบียนกองทุนเงินทดแทนกับสำนักงานประกันสังคมจังหวัดพังงา เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม จึงได้มอบหมายให้ นางสาวขนกาญจน์ เทพนอก นักวิชาการแรงงานชำนาญการ รักษาการในตำแหน่งนักวิชาการแรงงานชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนประกันสังคมจังหวัดพังงา ลงพื้นที่เพื่อให้ความช่วยเหลือ และชี้แจงสิทธิประโยชน์แก่ทายาทผู้เสียชีวิต ต่อไป
ทั้งนี้แม้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้น ขอให้ผู้ประกันตนทุกคนเชื่อมั่นว่า สำนักงานประกันสังคมพร้อมดูแล ให้การช่วยเหลือ เยียวยาแก่ผู้ประกันตน รวมทั้งทายาทของผู้เสียชีวิตให้ได้รับสิทธิประโยชน์อย่างครบถ้วน และทันท่วงที เพื่อเป็นหลักประกันในการดำรงชีวิตของผู้ประกันตนทุกคน.