สรรพากรปรับปรุง ม.ภาษีส่งเสริมการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของไทย

ครม.เห็นชอบแผนการปรับปรุงมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทย หวังเพิ่มแรงจูงใจของการลงทุนในกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG) ตามที่กรมสรรพากร กระทรวงการคลังเสนอ เฉพาะหน่วยลงทุนที่ซื้อตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 67 ถึงวันที่ 31 ธ.ค.2569

น.ส.กุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2567 อนุมัติหลักการตามที่ กระทรวงการคลัง โดยกรมสรรพากร ตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการใช้ตลาดทุนไทยเป็นกลไกบรรลุเป้าหมายด้านความสามารถในการแข่งขันควบคู่ไปกับความยั่งยืนของประเทศ จึงได้เสนอร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ….) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากรต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อเพิ่มเติมสิทธิประโยชน์ทางภาษีให้แก่การลงทุนใน Thai ESG เฉพาะหน่วยลงทุนที่ซื้อตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 67 ถึงวันที่ 31 ธ.ค.2569 ดังนี้

1. เพิ่มวงเงินการหักลดหย่อน

เดิม สามารถหักลดหย่อนได้  ไม่เกิน 30% ของเงินพึงประเมินที่ต้องเสียภาษี

แต่ไม่เกิน 100,000 บาท เป็น

ใหม่ สามารถหักลดหย่อนได้ไม่เกิน 30% ของเงินพึงประเมินที่ต้องเสียภาษี

แต่ไม่เกิน 300,000 บาท

2. ลดระยะเวลาถือหน่วยลงทุน

เดิม ต้องถือหน่วยลงทุนไว้ไม่น้อยกว่า 8 ปี และถ้าถือหน่วยลงทุนไว้ครบ 8 ปี จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับ Capital Gains จากการขายหน่วยลงทุนคืน

ใหม่ ต้องถือหน่วยลงทุนไว้ไม่น้อยกว่า 5 ปี และถ้าถือหน่วยลงทุนไว้ครบ 5 ปี จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับ Capital Gains จากการขายหน่วยลงทุนคืน

นอกจากนี้ ยังมีการขยายขอบเขตการลงทุนของ Thai ESG โดยสำนักงาน ก.ล.ต. จะออกประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนขยายขอบเขตให้ครอบคลุมหุ้นที่อยู่ในดัชนี ESG ที่ได้รับความเชื่อถือในระดับสากลกับบริษัทจดทะเบียนที่มีระดับการประเมิน CG Rating ของ IOD ตั้งแต่ 3 ดาวขึ้นไป และมีการเปิดเผยข้อมูลด้านบรรษัทภิบาล (G)

ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานสรรพากรทุกแห่งทั่วประเทศ หรือศูนย์สารนิเทศสรรพากร (RD Intelligence Center) โทร. 1161.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password