Krungthai CIO มองตลาดหุ้นทั่วโลกพักฐานเป็นโอกาสเข้าลงทุน ชี้หุ้นขนาดเล็ก-กลางในสหรัฐ ญี่ปุ่น และจีน น่าสนใจ
Krungthai CIO ชี้แนวโน้มตลาดหุ้นเดือนมิ.ย.67 อาจปรับฐาน หลังฟื้นตัวได้ดีในเดือนที่ผ่านมา เป็นโอกาสเข้าสะสมลงทุน โดยเฉพาะในหุ้นขนาดเล็กและกลางของสหรัฐ หุ้นญี่ปุ่น และจีน แนะล็อกผลตอบแทนในตลาดตราสารหนี้ เพื่อสร้างรายได้ให้พอร์ตลงทุน
ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน ธนาคารกรุงไทย (Krungthai Chief Investment Office) วิเคราะห์ตลาดและการลงทุนประจำเดือนมิถุนายน 2567 ว่า ในระยะสั้นตลาดหุ้นอาจปรับฐานลงบ้าง หลังจากฟื้นตัวได้ดีในเดือนพฤษภาคม และตลาดรับรู้ปัจจัยบวกต่างๆ ไปพอสมควรแล้ว ซึ่งเป็นโอกาสดีในการทยอยเข้าสะสมลงทุน โดยมีปัจจัยสนับสนุนคือ 1.เศรษฐกิจขยายตัวได้ดีในปีนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในไตรมาส 2 มีแนวโน้มขยายตัวได้ดีถึง 1.8% 2. โมเมนตัมของกำไรยังคงดีอยู่ กำไรของของบริษัทโดยรวมแข็งแกร่งและดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ และเห็นการปรับขึ้นของกำไรขยายตัวไปในวงกว้างมากขึ้น 3. ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีโอกาสที่จะลดดอกเบี้ยมากกว่าขึ้นดอกเบี้ย ทำให้ภาวะทางการเงินผ่อนคลายมากขึ้น สนับสนุนการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงต่อไป
ในระยะกลาง คงมุมมองค่อนข้างเป็นบวก (Slightly Positive) ต่อการลงทุนในหุ้นต่อไป โดยเฉพาะหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กของสหรัฐฯ ที่ได้รับประโยชน์จากแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ชะลอตัวลงแบบ “Soft Landing” สำหรับหุ้นญี่ปุ่น มีปัจจัยระยะยาวสนับสนุนจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางเศรษฐกิจ เงินเฟ้อและค่าจ้างที่ปรับตัวขึ้นมีความสมดุลมากขึ้น ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ วัฏจักรการส่งออกอิเล็กทรอนิกส์เข้าสู่ช่วงขาขึ้น โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีมุมมองเป็นบวก คือ กลุ่มเทคโนโลยี กำไรขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง และได้ประโยชน์จากการนำเทคโนโลยีมาเพิ่มประสิทธิภาพในดำเนินธุรกิจ สำหรับตลาดเกิดใหม่ มองว่า การปรับฐานของหุ้นจีนในช่วงที่ผ่านมา สอดคล้องกับการฟื้นตัวของหุ้นจีนในอดีตที่มักมีการปรับฐานประมาณ 6% ระหว่างทาง จึงมองว่า ตลาดหุ้นจีนมีโอกาสฟื้นตัวต่อ และเริ่มเห็นถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลกลางในการแก้ไขปัญหาภาคอสังหาฯ ทั้งกระตุ้นอุปสงค์ การจัดการกับอุปทานที่ล้นตลาด โอกาสที่จะเกิดวิกฤติภาคอสังหาฯลดลง
นอกจากนี้ ยังมีมุมมองเป็นบวกต่อการลงทุนในตราสารหนี้ แม้ว่าเฟดยืนยันจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่คงไม่รีบปรับขึ้นดอกเบี้ย Bond Yield จึงไม่น่าปรับตัวลงแรง และอาจมีความผันผวนตามทิศทางการคาดการณ์ดอกเบี้ยของเฟด โดยการที่ Bond Yield อยู่ในระดับสูง เป็นโอกาสที่ดีในการ Lock-in อัตราผลตอบแทน ด้วยกลยุทธ์การลงทุนแบบ “ซื้อ “และ “ถือ” เพื่อสร้างรายได้ให้พอร์ตลงทุน
Krungthai CIO คงมุมมองค่อนข้างบวกต่อการลงทุนในราคาน้ำมัน และหุ้นกลุ่มเหมือง โดยคาดว่า น้ำมันจะแกว่งตัวในกรอบ 70-90 ดอลลาร์/บาร์เรล แม้ว่ากลุ่ม OPEC+ จะขยายเวลาในการลดกำลังการผลิต แต่ราคาน้ำมันตอบรับในเชิงลบ เนื่องจากการปรับลดกำลังการผลิตโดยสมัครใจที่ 2.2 ล้านบาร์เรล/วัน จะไม่มีต่อหลังไตรมาส3 แต่ความต้องการในการใช้น้ำมันมีโอกาสเพิ่มขึ้นต่อตามเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และ OPEC จะทยอยเพิ่มกำลังการผลิต ทำให้มองว่า ราคาน้ำมันน่าจะทยอยฟื้นตัวได้จากนี้ไป.