บสย.ผนึก ‘สภาอุตฯ-30 พันธมิตร’ เปิดกล่องของขวัญปีนี้ พร้อมเดินสายช่วย SMEs ทั่วไทย
บสย. – สภาอุตฯ และ 30 พันธมิตรผนึกกำลังช่วย SMEs “เปิดกล่องของขวัญเพื่อ SMEs ปี 2566” คิกออฟ 31 ม.ค. นี้ เผย หลังจากนี้ เตรียมเดินสายจัดงานสัญจรทัวร์ทั่วไทยอีก 20 จังหวัด โดยสภาอุตสาหกรรมจังหวัดรับเป็นเจ้าภาพ คาด SMEs กว่า 2 พันรายรอรับประโยชน์จากโครงการดีๆ เช่นนี้
นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)พร้อมด้วย นายอภิชิต ประสพรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และประธานสถาบันวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมอุตสาหกรรมการผลิต (SMI) นายโมกุล โปษยะพิสิษฐ์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank และ นายชัยยศ ตันพิสุทธิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย ร่วมแถลงข่าวความร่วมมือกิจกรรม “เปิดกล่องของขวัญเพื่อ SMEs ปี 2566” ช่วยผู้ประกอบการ SMEs ภาคอุตสาหกรรมในกลุ่มสมาชิก ส.อ.ท. โดยมี นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เป็นประธานเปิดการแถลงข่าว ณ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
นายอภิชิต กล่าวว่า กิจกรรม “เปิดกล่องของขวัญเพื่อ SMEs ปี 2566” จะเป็นโครงการที่ช่วยให้ผู้ประกอบการ SMEs มีทางออก โดยมี 30 เครือข่ายพันธมิตรร่วมมือกัน เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก ทั้งเทคโนโลยี, การแข่งขัน, สภาพแวดล้อมทางธุรกิจ, การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19, ต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้นจากพลังงานและค่าแรง สร้างผลกระทบผู้ประกอบการ SMEs ซึ่ง ส.อ.ท.มีสมาชิกทั่วประเทศ และ ผู้ประกอบการ SMEs รายย่อย Micro SMEs กลุ่มพ่อค้า แม่ค้า หาบเร่ แผงลอย โดยเครือข่ายพันธมิตรจะร่วมมือกันส่งเสริมและพัฒนา SMEs หลักสูตรความรู้ด้านบัญชีและภาษี ผู้ประกอบการสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ สถาบัน SMI สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย Call Center 1453
ด้าน นายสิทธิกร กล่าวว่า ในช่วงสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา ผู้ประกอบการ SMEs ได้รับผลกระทบมาก ธุรกิจล้ม และมีปัญหาเรื่องหนี้จำนวนมาก บสย. ในฐานะหน่วยงานรัฐ ภายใต้กระทรวงการคลัง ทำหน้าที่ค้ำประกันสินเชื่อ ช่วยผู้ประกอบการเข้าถึงสินเชื่อและแหล่งทุน จึงได้ขยายขอบเขตและบทบาทการให้ความช่วยเหลือมากขึ้น ภายใต้แนวคิด TCG Fast & First รวดเร็ว รอบคอบ ที่หนึ่งในใจ SMEs เคียงข้าง SMEs ก้าวเดินอย่างมั่นใจ เพื่อช่วยลูกค้าและลูกหนี้ บสย.ก้าวข้ามวิกฤต เยียวยาและฟื้นฟู พลิกฟื้นธุรกิจก้าวเดินใหม่อย่างมั่นใจสู่ความยั่งยืน ภายใต้กลยุทธ์เชิงรุกเพื่อผู้ประกอบการ SMEs ผ่านมาตรการ บสย.พร้อมช่วย ตลอดปี 2566 ใน 3 มิติ คือ
มิติที่ 1 บสย.พร้อมช่วย “ค้ำประกันสินเชื่อ” เป็นหลักประกัน เติมทุน เสริมสภาพคล่องทางการเงิน ผ่านโครงการค้ำประกันสินเชื่อ พรก. สินเชื่อฟื้นฟู ที่เป็นโครงการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ และโครงการบีไอ 7 ที่มีโครงการค้ำประกันหลากหลายคู่กับโครงการสินเชื่อของธนาคารต่างๆ ที่ออกมาช่วย SMEs ให้กลับมาดำเนินธุรกิจต่อได้
มิติที่ 2 บสย.พร้อมช่วยเติมความรู้ทางการเงิน ผ่านศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงิน SMEs หรือ บสย.F.A. Center ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงด้วยจำนวนผู้ขอใช้บริการมากกว่า 11,000ราย จากผู้เชี่ยวชาญทางการเงิน ปรับโครงสร้างหนี้ และหลักสูตรการอบรมที่ครอบคลุมด้านบัญชี การเงิน ธุรกิจ และเตรียมตัวในช่วงวิกฤตเพื่อการขอสินเชื่อ
มิติที่ 3 บสย.พร้อมช่วยแก้หนี้ SMEs ลูกค้า บสย. ตามนโยบายรัฐบาลปีแห่งการแก้หนี้ยั่งยืนต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา ผ่านมาตรการ 3 สี แก้หนี้ยั่งยืน 3 ระดับ ตามความสามารถในการผ่อนชำระ โดยปีที่ผ่านมาสามารถช่วยลูกหนี้กว่า 6,800 ราย บรรเทาหนี้รวมกว่า 3,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ บสย. ได้เตรียมหลักสูตรอบรม ให้ความรู้ทางการเงิน (Finance Literacy) รวม 4 หลักสูตร ได้แก่ 1.หลักสูตร “ตั้งรับ ปรับตัว เตรียมพร้อมสู่การเป็นนิติบุคคล 2.หลักสูตร “SMEs รวยด้วยบัญชีเดียว รู้ข้อดีบัญชีเดียวพร้อมตัวช่วย” 3.หลักสูตร “SMEs รวยด้วยบัญชีเดียว การวิเคราะห์งบการเงินสำหรับ CEO” และ 4.หลักสูตร “SMEs รวยด้วยบัญชีเดียว บัญชีศรีธนญชัย”
สำหรับ โครงการ“เปิดกล่องของขวัญเพื่อ SME ปี 2566” จะช่วยเติมเต็ม เติมทุน เติมความรู้ และช่วยแก้หนี้ ให้กับผู้ประกอบการ SMEs ทั่วประเทศ ที่เข้าร่วมโครงการได้มากกว่า 2,000 ราย ช่วยต่อลมหายใจและร่วมพลิกฟื้นกิจการเพื่อผู้ประกอบการ SMEs ครบทุกมิติ โดยสามารถลงทะเบียนเพื่อเป็นเพื่อนกับ บสย.ได้ที่ไลน์ Line @TCG Frist
ส่วน นายโมกุล กล่าวว่า SME D Bank จัดเตรียมบริการ “เติมทุนคู่พัฒนา” สำหรับสมาชิก ส.อ.ท. โดยด้านเงินทุน ได้เตรียมสินเชื่ออัตราดอกเบี้่ยพิเศษ วงเงินรวมกว่า 30,000 ล้านบาท ครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจ กู้ได้สูงสุดถึง 50 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 4% ต่อปี ผ่อนสบายสูงสุดถึง 15 ปี ปลอดชำระเงินต้นสูงสุดถึง 24 เดือน ที่สำคัญ มีโปรโมชั่นพิเศษ เมื่อยื่นกู้สินเชื่อที่ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน วงเงินตั้งแต่ 5-50 ล้านบาท หากได้รับอนุมัติและทำสัญญาภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 รับฟรี “บัตรเติมน้ำมัน” มูลค่าสูงสุดถึง 5,000 บาท
นอกจากนั้น SME D Bank ได้จัดเตรียมบริการ “ด้านพัฒนา” ผ่านโครงการ “SME D Coach” ให้คำปรึกษาธุรกิจครบวงจรจากโค้ชมืออาชีพ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ช่วยเพิ่มศักยภาพให้เอสเอ็มอีเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ สามารถแจ้งความประสงค์รับบริการ “เติมทุนคู่พัฒนา” ได้ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น เว็บไซต์ธนาคาร LINE Official Account : SME Development Bank และสาขาของ SME D Bank ทั่วประเทศ เป็นต้น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Call Center 1357
ขณะที่ นายชัยยศ กล่าวว่า ในปีนี้น่าจะเป็นปีที่เอสเอ็มอีต้องปรับตัวหลังวิกฤตโควิด โดยธนาคารจะสนับสนุน 3 เรื่อง คือ
1. การเพิ่มสภาพคล่องให้แก่ธุรกิจ และลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ลูกค้า ด้วยวงเงินสินเชื่อฟื้นฟู เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ลูกค้าธุรกิจที่ยังต้องการความช่วยเหลือ หรือยังไม่ฟื้นตัวจากวิกฤตที่ผ่านมา
2. สนับสนุนการลงทุน ปรับปรุง หรือพัฒนาให้ธุรกิจสามารถแข่งขันและดำเนินต่อไปได้อย่างยั่งยืน ด้วยสินเชื่อเพื่อการปรับตัว ซึ่งลูกค้าสามารถนำเงินทุนไปปรับธุรกิจให้สอดคล้องกับ New Normal ทั้งจากกระแสดิจิทัลเทคโนโลยี การดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และนวัตกรรมแห่งโลกอนาคต
3. ให้เงินทุนทำธุรกิจสำหรับธุรกิจรายย่อย ด้วยสินเชื่อเอสเอ็มอีเอนกประสงค์ เพื่อส่งเสริมให้ธุรกิจรายย่อยสามารถสร้างความมั่งคั่งและเติบโตต่อไปในอนาคต
โดยสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ ผู้ดูแลความสัมพันธ์ลูกค้า หรือ K-BIZ Contact Center 02-888 8822
ทั้งนี้ ได้กำหนดจัดกิจกรรมครั้งแรกที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 31 มกราคม 2566 ณ สามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ ชั้น 5 และหลังจากนั้นจะสัญจรไปอีก 20 จังหวัดทั่วประเทศ โดยจะมีสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเป็นเจ้าภาพ คาดว่าจะมี SMEs ได้รับประโยชน์จากโครงการนี้ไม่น้อยกว่า 2,000 ราย.