คลังคลาย ‘3 กฎเหล็ก’ หนุนผุดผู้ผลิตสุราชุมชนหน้าใหม่ คาด ก.พ.68 เดินเครื่องปั้นแบรนด์เหล้า/เบียร์
“เผ่าภูมิ” นำแถลงแนวทางการปรับปรุงแก้ไขหลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกับการผลิตสุรา ประกาศคลายกฎเหล็ก 3 ข้อ หวังสร้างผู้ประกอบการสุราชุมชนรายใหม่ขนาดเล็กและกลางทั่วไทย มั่นใจทำภายใต้หมวก 2 ใบ “ส่งเสริมและป้องกัน” คาด ม.ค.ปีหน้า ชงเรื่องเข้า ครม. ก่อนประกาศใช้จริงไม่เกินกลาง ก.พ.2568
เมื่อช่วงสายวันที่ 25 ธันวาคม 2567 ณ ชั้น 1 อาคารอเนกประสงค์ กรมสรรพสามิต, ดร. เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วย ดร.กุลยา ตันติเตมิต อธิบดีกรมสรรพสามิตและผู้บริหารกรมสรรพสามิต แถลงถึง แนวทางการปรับปรุงแก้ไขหลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกับการผลิตสุรา ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการส่งเสริมสุราชุมชนด้วยการลดข้อจำกัดในการเข้าสู่ธุรกิจของผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับสุรารายใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มผู้ประกอบการผลิตสุราขนาดเล็กและขนาดกลาง (สุราชุมชน) ให้มีคุณสมบัติและเงื่อนไขของการได้รับใบอนุญาตผลิตสุราที่มีความเหมาะสมสอดคล้องกับบริบทของธุรกิจ ส่งเสริมความสามารถในการแข่งขัน เพื่อส่งเสริมการเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพที่จะสามารถยกระดับรายได้ของชุมชนและส่งเสริมการใช้ผลผลิตภายในประเทศมาต่อยอดได้
รมช.คลัง ย้ำว่า จากการรับฟังความคิดเห็นในการลงพื้นที่ไปพูดคุยกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ประกอบกับได้หารือกับผู้ประกอบการเห็นว่า มีประเด็นที่สามารถปรับปรุงแก้ไขหลักเกณฑ์และเงื่อนไขต่าง ๆ ให้ผ่อนคลายขึ้นบนพื้นฐานของการสร้างสมดุลระหว่างการสนับสนุนประชาชนและการดูแลด้านสิ่งแวดล้อมและมาตรฐานคุณภาพที่เกี่ยวข้องกับการผลิตสุรา โดยกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการพิจารณาปรับปรุงกฎระเบียบเพื่อส่งเสริมผู้ผลิตสุราขนาดเล็กและขนาดกลางที่อยู่ระหว่างดำเนินการเพิ่มเติม ได้แก่…
(1) การลดข้อจำกัดเกี่ยวกับสถานที่ตั้งโรงงานขนาดเล็กและขนาดกลาง ให้สามารถตั้งอยู่ห่างจากแหล่งน้ำสาธารณะน้อยกว่า 100 เมตร โดยต้องมีการติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสียตามที่กำหนด
(2) การเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการที่มีศักยภาพสามารถตั้งโรงอุตสาหกรรมขนาดกลางได้ทันที โดยไม่ต้องรอเป็นโรงอุตสาหกรรมขนาดเล็ก 1 ปี
(3) การขยายโอกาสให้โรงเบียร์ Brewpub ที่ต้องผลิตเพื่อขายและบริโภคในร้านเท่านั้น ให้สามารถบรรจุถัง Keg ออกขายนอกสถานที่ได้
ดร. เผ่าภูมิ ย้ำว่า แนวทางการปรับปรุงแก้ไขหลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกับการผลิตสุราในครั้งนี้ จะสามารถช่วยลดข้อจำกัดด้านกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคสำหรับผู้ผลิตรายย่อยและรายกลาง เพิ่มความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจและส่งเสริมความสามารถในการแข่งขัน และกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจท้องถิ่นผ่านการพัฒนาธุรกิจสุราขนาดเล็กและขนาดกลางได้ ซึ่งแนวทางเหล่านี้ เป็นการสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของกระทรวงการคลังในการสร้างความสมดุลระหว่างการสนับสนุนผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมสุรา และการควบคุมตามมาตรฐานที่เหมาะสม เพื่อให้มั่นใจว่าการผลิตสุราจะมีคุณภาพและมาตรฐานที่เหมาะสม พร้อมทั้งไม่กระทบต่อการบริหารการจัดเก็บภาษี และการรักษาคุณภาพผลิตภัณฑ์ให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่กำหนดด้วย
“รัฐบาลโดยกรมสรรพสามิต จะดำเนินการภายใต้หมวก 2 ใบ คือ ส่งเสริมสนับสนุนและป้องกันควบคุม โดยจะส่งเสริมและสนับสนุนในการสร้างกลุ่มผู้ประกอบการผลิตสุราชุมชนรายใหม่ ขณะเดียวกันก็ต้องมีมาตรการในดูแลควบคุม เพื่อสร้างมาตรฐานคุณภาพของสุราชุมชน แม้ว่ากรมสรรพสามิตจะดูแลผลิตภัณฑ์สุรา เบียร์ ฯลฯ ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ แต่ที่ผ่านมา ก็ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เพื่อสร้างมาตรฐานคุณภาพของเครื่องดื่มในกลุ่มนี้ ตั้งแต่รสชาติไปจนถึงบรรจุภัณฑ์ เพื่อที่ผู้บริโภคจะได้สบายใจกับการดื่มสุราและเบียร์จากผู้ประกอบการเหล่านี้” รมช.คลัง ย้ำ
สำหรับขั้นตอนการปรับปรุงกฎหมายดังกล่าว ขณะนี้ กรมสรรพสามิตอยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นของผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องและ/หรือประชาชน โดยสามารถให้ความคิดเห็นต่อร่างกฎกระทรวงการผลิตสุรา (ฉบับที่..) พ.ศ. ….ผ่านเว็บไซต์กรมสรรพสามิต www.excise.go.th ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2567 ถึงวันที่ 9 มกราคม 2568 เพื่อให้กรมสรรพสามิตรวบรวมความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณา ก่อนนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในเดือนมกราคมปีหน้า และคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ไม่เกินกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2567.