กกต.ไฟเขียว ประกาศรับรอง ‘ชัชชาติ’ เป็นผู้ว่าฯกทม.แล้ว ขณะเจ้าตัว ขอบคุณ ‘ศรีสุวรรณ-กกต.’ ชี้ ‘ยิ่งตรวจสอบ ยิ่งชอบธรรม’ ประกาศรับใช้ประชาชน ไม่อยู่แต่ห้องแอร์

วันที่ 31 พ.ค.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นประธานการประชุม กกต.ผ่านระบบออนไลน์โปรแกรม Zoom Cloud Meeting ซึ่งเป็นการประชุมเพื่อพิจารณาผลคะแนนการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และสมาชิกกรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 หลังการประชุมวานนี้ สำนักงาน กกต.เสนอความเห็นต่อที่ประชุมว่ากรณีที่ นายชัชชาติ ถูกร้องเรียนเรื่องป้ายหาเสียงอาจเข้าข่ายทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตเที่ยงธรรม จึงควรตรวจสอบเพื่อให้เกิดความรอบคอบ โดยมีรายงานว่า การประชุม กกต.วันนี้ ที่ประชุมมีมติรับรอง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครหมายเลข 8 ในนามอิสระ ซึ่งได้รับคะแนนสูงสุดเป็นอันดับ 1 ด้วยคะแนน 1,386,215 คะแนน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทางด้าน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ พร้อมนายเรืองเดช พงษ์จันทรโอ ผู้ช่วยผอ.เขตดินแดง และนางอนงค์ เพชรทัต ว่าที่ส.ก.เขตดินแดง พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ลงพื้นที่บริเวณโรงเรียนวิชากร และแฟลตดินแดง หลัง กกต. มีมติรับรอง ให้เป็นผู้ว่าฯกทม. คนที่ 17 เพื่อดูปัญหาการเก็บขยะ และสิ่งตกค้าง เป็นห่วงเรื่องหนูเยอะ ส่งผลต่อสุขอนามัยของประชาชนโดยมีผู้คนในพื้นที่ร่วมถ่ายภาพและแสดงความยินดีเป็นจำนวนมาก

โดยเวลา 16.16 น. นายชัชชาติ เดินทางมาถึงบริเวณลานกีฬา พร้อม ให้สัมภาษณ์สื่อว่า นี่คือบทพิสูจน์ว่าประเทศมีความหวัง เราเห็นต่างกันได้ อย่าทะเลาะ อย่าโกรธ อย่าเกลียดกัน หลายคนเมื่อก่อนเกลียดเรา ก็มาให้โอกาสเรา ต้องขอบคุณพี่น้องประชาชนทุกท่าน สำหรับทุกคะแนนเสียงที่มอบให้ เป็นกำลังใจให้เราก้าวเดินต่อไป ถือว่าเราเป็นตัวแทนของผู้สมัครทั้งหมด ที่ได้มาทำหน้าที่เป็นผู้ว่าฯของทุกคน ก็เป็นจุดที่เริ่มเดิน จะทำให้เต็มที่และจะไม่ทำให้พวกเราผิดหวัง

“ผมเชื่อว่าเป็นบทพิสูจน์ที่ดีมากกว่าประเทศมีความหวัง ทุกคนพร้อมเดินไปด้วยกัน เป็นก้าวต่อไปที่สำคัญ นโยบายที่เขียนไว้ เจ้าหน้าที่กทม.ก็ทำเลย เป็นนิมิตหมายที่ดีจากการร่วมมือทุกๆคน จากการลงพื้นที่หลายวันที่ผ่านมาเหมือนเราเดินดูปัญหาจุดๆ แต่จริงๆเป็นการส่งสัญญาณ ว่าต้องแก้ไขไม่ต้องรอผู้ว่าฯรอไปแก้ เราได้ส่งสัญญาณแล้วว่าเราเอาจริง” นายชัชชาติกล่าว พร้อมระบุว่า จะเดินทางไปยังกกต. ในวันพรุ่งนี้ (1 มิ.ย.) เวลา 11.00 น. และเดินทางไปยังศาลาว่าการกทม. ในเวลา 13.00 น. พร้อมเปิดตัวคณะทำงานซึ่งเป็นทีมที่ศึกษามาตลอด พร้อมและลงพื้นที่เต็มที่

เมื่อถามว่าพรุ่งนี้ที่จะไปศาลาว่าการกทม.จะเข้าไปทำอะไร นายชัชชาติกล่าวว่า ไหว้ศาล และเชิญผู้บริหารมาคุย อยากฟังความเห็นต่อนโยบาย อยากจะถามว่าเห็นอย่างไรเกี่ยวกับนโยบาย เห็นด้วยไหม เพื่อหาคำตอบร่วมกัน ปรับแผนและทำเคพีไอร่วมกัน เมื่อถามว่านโยบายทั้ง 214 ข้อจะสามารถทำได้หมดหรือไม่ นายชัชชาติ กล่าวว่า หลายๆข้อก็ทำไปแล้วนะ เรื่องแจกผ้าอนามัยก็ทำไปแล้ว อย่างที่เมื่อวานเราเปิด Traffy Fondue มีคนแจ้งเหตุเข้ามาเป็นหลักหมื่น และมีเขตเข้ามาเอาปัญหาไปดำเนินการแล้วประมาณ 5-6 เขต ทั้งที่เรายังไม่ได้เริ่มงานเลย นี่คือความกระตือรือร้นของเขต เห็นกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เอานโยบายเราไปดูว่าอะไรที่จะทำร่วมกันได้ ตนคิดว่านี่เป็นสิ่งที่ดีมากๆ

นายชัชชาติ กล่าวว่า จะมีการพูดคุยกับสาธารณสุข มี 9 เรื่องที่จะต้องเข้าไปพูดคุยกับทาง สปสช. ตั้งคณะกรรมการที่พร้อมจะเข้าไปคุย สำหรับพรุ่งนี้ก็พร้อมคุยได้เลย เรื่องการขยายการให้บริการ เรื่องสิทธิบัตรทองให้สามารถเข้ารับการรักษาที่ไหนก็ได้ การช่วยดำเนินคุณภาพของคลินิกชุมชนอบอุ่น เมื่อเช้าได้มีการคุยนอกรอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวกับ สาธารณสุข เขาก็นำแผนเราไปวิเคราะห์ รวมถึงเรื่องภาคประชาสังคม ทุกคนตื่นตัว ข้อดีคือพอเรามีแผนที่ชัดเจนทุกคนก็สามารถเอาไปศึกษาได้ ทำงานล่วงหน้าและสามารถหาจุดปรับปรุงได้

เมื่อถามถึงกรณีการตรวจสอบรับรองของกกต.และนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย นายชัชชาติ กล่าวว่า ไม่กังวลเรื่องการรับรอง มีการตรวจสอบแล้ว ตรวจสอบเต็มที่ ขอบคุณนายศรีสุวรรณ และกกต.ที่ตรวจสอบ ยิ่งตรวจสอบเรายิ่งมีความชอบธรรมมากขึ้น มีคนตรวจสอบเรา เราก็ดีใจ เราเชื่อว่าเราพร้อมที่จะได้รับการตรวจสอบ เมื่อถามถึงกรณีที่มีผู้ร้องเรียนนายชัชชาตินั้น จะมีการดำเนินการต่อผู้ร้องเรียนอย่างไรบ้าง นายชัชชาติ กล่าวว่า คงต้องปรึกษาฝ่ายกฎหมาย ตนคิดว่าก็เป็นไปตามกระบวนการตามระบบ

“ต้องขอบคุณนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ที่ร้องเรียน เพราะทำให้มีการตรวจสอบ ซึ่งก็เป็นไปตามระบบไม่มีการลัดขั้นตอน เราก็มาอย่างสง่าภาคภูมิ ผมคิดว่ามีเรื่องอื่นต้องทำอีกมาก เดี๋ยวก็คงต้องปรึกษาฝ่ายกฎหมายอีกทีว่าเป็นอย่างไร” นายชัชชาติกล่าวและย้ำว่า ตนขอรับใช้ประชาชน ไม่ได้อยู่แต่ในห้องแอร์.