ท่องเที่ยวไทยช้ำ! รัฐมุ่งใช้เป็นฐาน ผุด ‘มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ’ ดึงเงินเข้าประเทศ

“พิชัย ชุณหวชิร” นัด 3 องค์กรเศรษฐกิจระดับชาติ ร่วมถกหา “มาสเตอร์แพลน” หวังคลอดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ตอบโจทย์มากสุด! ในยุค “งบประมาณสูง แต่งบลงทุนต่ำ” หวังใช้ท่องเที่ยวเป็นแม่เหล็กดึงเงินไทยเข้าประเทศ จี้! แบงก์ชาติดูแลค่าเงินบาท ลดแรงเสียดทานแข่งขันส่งออก ย้ำ! ต้องพัฒนา 5 สินค้าเกษตรหลัก หากหวังแข่งขันในเวทีโลก

เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 27 ก.พ.2568 ณ ห้องประชุมชั้น 20 อาคาร 150 กระทรวงการคลัง, นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว. คลัง เชิญผู้บริหารของหน่วยงานเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงคลัง, ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และ สภาการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) เข้าร่วมประชุมถึงการจัดทำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยมีเป้าหมายที่จะผลักดันให้จีดีพีในปี 2568 ขยายตัวที่ระดับร้อยละ 3-3.5
นายพิชัย ย้ำว่า หลังจากนายกรัฐมนตรีสั่งการในที่ประชุม ครม.ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น ก็ต้องมาดูว่าเราจะทำมาสเตอร์แพลนอะไร ถึงจะได้คำตอบที่แท้จริง ทั้งนี้ ต้องไปดูที่โครงสร้างการผลิตและการลงทุนที่จะก่อการจ้างงานและรายได้ทั้งในและนอกประเทศ ดังนั้น จึงต้องมาดูทั้งหมดที่เราได้ทำแผนกันมาว่ามีอะไรที่จับต้องได้บ้าง รวมถึงดูว่าอะไรที่เป็นจุดแข็งที่สุดของเรา

ส่วนตัวเห็นว่า การท่องเที่ยวไทยยังมีศักยภาพที่สูง จึงต้องใช้เป็นกลไกหลักในการดึงเงินเข้าประเทศจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึง การกระตุ้นเศรษฐกิจไปยังหลายสาขาที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร บริการขนส่ง สินค้าเกษตร ดังนั้น ต้องมาดูว่าจะผลักดันเงินลงทุนผ่านสาขาต่าง ๆ อย่างไร เช่น ปรับปรุงสนามบิน พัฒนาแหล่งท่องเที่ยว เป็นต้น
สำหรับ งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 ที่มีวงเงินราว 3.75 ล้านล้านบาท แม้จะเป็นตัวเลขที่สูง แต่ก็มีช่องว่างทางการคลังรองรับการลงทุนที่ไม่สูงมากนัก จึงต้องบริหารจัดการให้ได้ผลผลักดันเศรษฐกิจได้เชิงรูปธรรมให้มากที่สุด ทั้งนี้ รัฐบาลยังต้องการแก้ไขปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขกับสินค้าเกษตรหลัก 5 ชนิด อาทิ ข้าว อ้อย มันสำปะหลัง ปาล์ม และยางพารา ดังนั้น จึงต้องยกระดับให้สินค้าเกษตรไทยมีคุณภาพส่งออกกำหนดราคาให้แข่งขันกับต่างประเทศได้ การบริหารจัดการต้นทุนของเกษตรกรให้ดี รวมถึงดูแลค่าเงินบาทไม่ให้ผันผวน ซึ่งนอกจากเรื่องการท่องเที่ยวแล้ว การดูแลเรื่องค่าเงินบาทก็เป็นเรื่องที่ ธปท.จะต้องให้ความสำคัญ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ต้องเชิญตัวแทนจาก ธปท.มาหารือในครั้งนี้.
