“จุรินทร์” ผ่อนปรนนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ลดต้นทุนอาหาร ช่วยไม่ให้ “ราคาหมู-ไก่พุ่ง”

รมว.พาณิชย์ แถลงมติประชุมร่วม 5 ฝ่ายเห็นตรงกัน ผ่อนปรนมาตรการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 3 เดือน เพื่อลดต้นทุนด้านวัตถุดิบ ให้เบาลง มั่นใจจะช่วยลดต้นทุนสูงขึ้นได้ระดับหนึ่ง ขณะเดียวกันยังเปิดเผย มีหลายสินค้าขอขยับขึ้น แต่ขอให้ตรึงราคาไปก่อน

วันที่ 2 พ.ค. 2565 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (นบขพ.) และคณะกรรมการนโยบายอาหาร ครั้งที่ 1/2565 โดยมีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ สภาเกษตรกรแห่งชาติ สมาคมการค้าพืชไร่ สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย สมาคมชาวไร่มันสำปะหลัง สมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ และผู้แทนหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ที่กระทรวงพาณิชย์

หลังการประชุม นายจุรินทร์ กล่าวว่า จากผลประชุมครั้งที่แล้ว ได้มอบหมาย 5 ฝ่าย หารือร่วมกันในการแก้ปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบอาหารสัตว์ในอนาคต โดยที่ประชุม 5 ฝ่าย ประกอบด้วย 1.ผู้แทนส่วนราชการ กระทรวงพาณิชย์กระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงการคลัง เป็นต้น 2.ผู้แทนสภาเกษตรกรที่เกี่ยวกับข้าวโพดและสมาคมชาวไร่มันสำปะหลัง 3.สมาคมการค้าพืชไร่ 4.สมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ หมูและไก่เนื้อ 5.สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์

โดยมีข้อสรุปเสนอที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวโพดในวันนี้ เพื่อดูแลปริมาณวัตถุดิบอาหารสัตว์ให้เพียงพอภายในประเทศและการผลิตอาหารสัตว์ต่อไป จากมาตรการที่เคยกำหนดไว้เดิมให้สามารถนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ได้สะดวกและคล่องตัวยิ่งขึ้น และส่งเสริมการนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์มาชดเชยส่วนที่ขาดในปัจจุบัน และส่งเสริมให้มีการนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์จากประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะเมียนมา โดยจัดให้มีกิจกรรมจับคู่ออนไลน์ OBM ในวันที่ 3 พ.ค. นี้

อย่างไรก็ตาม ประเด็นสำคัญประกอบด้วย 1.ยกเว้นเงื่อนไขที่กำหนดไว้เดิม ในการนำเข้าข้าวสาลี 1 ส่วน ต้องซื้อข้าวโพดในประเทศ 3 ส่วนเป็นการชั่วคราวก่อน คือระหว่าง พ.ค. ถึง 31 ก.ค. 2565 ซึ่งเป็นการผ่อนปรนมาตรการที่กำหนดไว้เดิมในการนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ เพื่อชดเชยส่วนที่ขาดในประเทศ 2.เพิ่มโควต้านำเข้าข้าวโพดจากเดิมกำหนดไว้ 54,700 ตัน เป็นไม่เกิน 600,000 ตัน ภายในเดือน พ.ค.ถึง 31 ก.ค. 2565 จะมีผลให้ลดภาษีนำเข้าข้าวโพดจากอัตรา 20% เป็น 0% เป็นการชั่วคราว ในช่วง 3 เดือนนี้ 3.การนำเข้าช่องทางอื่นตามปกติ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะช่วยจับคู่ธุรกิจ เพื่อส่งเสริมการนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ให้เพียงพอในประเทศในช่วง 3 เดือนนี้ต่อไป

ทั้งนี้ เป็นการกำหนดให้นำเข้าวัตถุดิบผลิตอาหารสัตว์ได้ 3 ช่องทาง มีปริมาณรวมกันไม่เกิน 1,200,000 ตัน แต่ เม.ย.ถึง 31 ก.ค.2565 เพื่อชดเชยส่วนที่ยังขาดให้มีเหลือพอใช้หนึ่งเดือน และให้ตั้งคณะอนุกรรมการ 5 ฝ่าย เพื่อติดตามประเมินการผลดำเนินการทั้งหมดและสามารถเสนอให้ทบทวนหรือปรับปรุงมาตรการต่อไปได้เพื่อความเหมาะสม

นอกจากนี้ หลังจากรัฐบาลปล่อยลอยตัวน้ำมันดีเซลลอยตัวตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. ได้รับรายงานจากกรมการค้าภายในที่ได้มีการหารือกับกลุ่มสินค้าต่างๆ อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ซึ่งแต่ละหมวดสินค้าที่ได้รับผลกระทบจากต้นทุนการผลิตสินค้าโดยเฉพาะจากน้ำมันดีเซลที่มีสัดส่วนต่อต้นทุนมากถึงร้อยละ 40-50 ต่างยอมรับว่ามีภาระต้นทุนสูงขึ้นมากจริง และได้ยื่นเรื่องขอปรับขึ้นราคาสินค้าให้กรมการค้าภายในพิจารณา 17 รายการสินค้า แต่หลังจากที่ได้พูดคุยกับทางกรมการค้าภายในและผู้ประกอบการที่ขอปรับขึ้นสินค้า ไม่อยากสร้างภาระความเดือดร้อนให้กับผู้บริโภคมากจนเกินไป จึงได้รับปากกับกรมการค้าภายในจะขอตรึงสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพในกลุ่ม 18 หมวดสินค้าไปอีกระยะหนึ่งก่อน โดยจะยังไม่ปรับเพิ่มขึ้นหลังจากนี้ไปแน่นอน ทั้งนี้ ก็คงจะต้องติดตามราคาน้ำมันในตลาดโลกด้วยว่าจะมีการปรับเพิ่มขึ้นไปมากกว่านี้หรือไม่.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password