ส.อ.ท. ชี้เศรษฐกิจไทย ‘ติดหล่ม-ไม่ฟื้นตัว’ หวังรบ.ตั้งครม.ใหม่ แก้ปากท้อง

“ส.อ.ท.” หวังรัฐบาลตั้งครม.โดยเร็ว เหตุเศรษฐกิจไทยยังคงติดหล่ม-ไม่ฟื้นตัวเต็มที่ หวัง “ทีมเศรษฐกิจ” ใหม่ เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ มีความรู้ความสามารถ
วันที่ 4 ก.ย.2567 นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า เวลานี้ภาคเอกชนต่างจับตารอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ ของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยอยากให้เร่งมีการแต่งตั้งโดยเร็วภายใน 1 เดือน และควรที่จะเข้ามาทำงานทันที เนื่องจากเวลานี้เศรษฐกิจไทยยังติดหล่มไม่สามารถฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมที่เผชิญแรงกดดันรอบด้าน

ทั้งนี้ จากความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ปัญหาความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ การแข่งขันที่รุนแรงในตลาดโลก ต้นทุนการผลิตที่ยังคงอยู่ในระดับสูง กำลังซื้อในประเทศที่อ่อนแอ ปัญหาหนี้ของผู้ประกอบการ และปัญหาอุทกภัย ปัจจัยเหล่านี้บั่นทอนขีดความสามารถแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมและเป็นโจทย์ใหญ่ที่ ครม. ชุดใหม่จะต้องเข้ามาแก้ไขปัญหาโดยเร็ว

นอกจากนี้ ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่จะต้องเป็นการรวมตัวของผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ ความสามารถ เข้าใจปัญหาเศรษฐกิจไทยและบริบทของโลกยุคใหม่ สามารถเชื่อมโยงและสร้างโอกาสให้กับประเทศได้ผ่านการดำเนินนโยบายที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน โดยยึดถือประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ

ซึ่งภาคเอกชนเราคาดหวังไปอีกว่ารัฐบาลชุดใหม่นี้จะมีการตั้ง “หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ” เข้ามาช่วยนายกฯ ในการเป็นประสานและกำกับการดำเนินนโยบายด้านเศรษฐกิจให้แต่ละกระทรวงทำงานไปในทิศทางเดียวกันและมีเป้าหมายที่ตรงกัน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคต

อย่างไรก็ตาม ส.อ.ท. ในฐานะตัวแทนภาคอุตสาหกรรม ส.อ.ท. ได้มีการนำเสนอข้อเสนอแนะไปยังทุกรัฐบาลมาโดยตลอด และจากการเข้าพบนายกรัฐมนตรีและคณะเมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2567 ที่ผ่านมา ได้มีการนำเสนอแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจยกระดับอุตสาหกรรมการผลิตไทยใน 5 ข้อเสนอเร่งด่วนที่สามารถทำได้ทันทีและเป็นการแก้ไขปัญหา Pain Point ของภาคอุตสาหกรรม ได้แก่

  1. การปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศจากสินค้านำเข้าที่ไม่มีคุณภาพและการทุ่มตลาด
  2. การส่งเสริมสินค้าที่ผลิตในประเทศไทย และสินค้าที่ได้รับการรับรอง Made in Thailand (MiT)
  3. การลดต้นทุนด้านการผลิตเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรม
  4. การส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการ SME ผ่านแนวคิด 4Go 5. การส่งเสริมการค้าชายแดนและพัฒนาระบบโลจิสติกส์

ทั้งนี้ นายกฯ ได้เห็นชอบตามข้อเสนอดังกล่าว และหลังจากมีการแต่งตั้ง ครม. แล้ว จะมอบหมายผู้รับผิดชอบในแต่ละเรื่องมาหารือร่วมกับภาคเอกชนในการแก้ไขปัญหา นอกจากนี้ นายกฯ อยากให้มีการรื้อฟื้นการประชุมหารือระหว่างภาครัฐและกลุ่มอุตสาหกรรมรายเดือน เพื่อรับฟังความเห็นและข้อเสนอแนะในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมรายสาขา ซึ่งถือเป็นแนวคิดที่ดีที่จะช่วยให้ภาครัฐเข้าใจปัญหาและความต้องการของภาคเอกชนมากขึ้น นำไปสู่ความร่วมมือในการพัฒนาอุตสาหกรรมได้ต่อไป

“ในส่วนของบทบาทการเป็นนายกรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นั้นคงตัดสินด้วยอายุหรือการเป็นคนรุ่นใหม่ไม่ได้ เพราะหลายประเทศก็มีผู้นำที่มีอายุน้อยแต่มีความสามารถในการบริหารประเทศได้ดี ซึ่งคงต้องให้เวลาท่านได้พิสูจน์ความสามารถในการบริหารประเทศก่อน” นายเกรียงไกร กล่าว.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password