“พาณิชย์”โชว์ ส่งออกขยายตัว8% ทำรายได้กว่า7แสนล้าน

รมว.พาณิชย์ งัดตัวเลขการส่งออกปี65 ขยายตัว ร้อยละ8 สร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 7 แสนล้านบาท โดยมี อินเดีย และ รัสเซีย เป็นคู่ค้าสำคัญลำดับแรก

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวถึง ตัวเลขการส่งออกเดือนมกราคม 2565 มีมูลค่า 21,258.6 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 8% คิดเป็นเงินบาท มีมูลค่า708,312 ล้านบาท ตลาดที่ขยายตัวสูง 10 ลำดับแรกประกอบด้วย1.อินเดีย (+31.9%) 2.รัสเซีย (+31.9%) 3.สหราชอาณาจักร (+29.7%) 4.เกาหลีใต้ (+26.8%) 5.สหรัฐฯ (+24.1%) 6.แคนาดา (+13.6%) 7.อาเซียน 5 (+13.2%) 8.จีน(+6.8%) 9.ลาตินอเมริกา (+5.0%) 10.สหภาพยุโรป (+1.4%)

ปัจจัยที่สนับสนุนให้การส่งออกขยายตัวถึง 8% เพราะการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับภาคเอกชน ภาคการผลิตทั่วโลกยังขยายตัวดูได้จากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตโลก (PMI) เหนือระดับ 50 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 19 สะท้อนว่าเศรษฐกิจยังฟื้นตัวต่อเนื่อง ปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์เริ่มดีขึ้น โดยเฉพาะท่าเรือแหลมฉบังและท่าเรือกรุงเทพ ซึ่งสหรัฐอเมริกากับภาคเอกชนร่วมมือกันขยายเวลาทำการในวันหยุด และเพิ่มการทำงานในช่วงกลางคืน ทำให้คล่องตัวขึ้นทำให้ปีนี้ยังตั้งเป้าการส่งออกไว้ที่ 3-4%

สำหรับสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนนั้นจากการประชุมกับภาคเอกชน ซึ่งมีทั้งสภาหอการค้า สภาอุตสาหกรรม สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือ สมาคมธนาคารไทย สมาพันธ์ SMEs และสมาคมอื่นที่เกี่ยวข้อง มีความเห็นร่วมกันว่าสถานการณ์ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปการประเมินผลกระทบที่มีต่อการส่งออกและนำเข้าของไทย จนถึงขณะนี้ยังไม่มีผลกระทบทางตรง เพราะรัสเซียเป็นตลาดส่งออกที่มีสัดส่วนแค่ 0.38% ของไทย และตลาดยูเครน 0.04% เมื่อเจาะรายสินค้าอาจจะกระทบต่อสินค้าประเภทยางรถยนต์ อาหารแปรรูป อัญมณีและเครื่องสำอาง ที่ส่งออกไปยังรัสเซียและยูเครนเป็นต้น และในอนาคตอาจกระทบต้นทุนธุรกรรมทางการเงิน และต้นทุนการขนส่งสินค้าทางเรือ หากราคาน้ำมันยังสูงขึ้นและหากมีการปิดท่าเรือบางท่าในรัสเซียหรือยูเครน การส่งสินค้าของไทยอาจต้องเปลี่ยนท่าเรือ จะมีผลกระทบต่อต้นทุนการขนส่งได้

ขณะที่ทางอ้อม อาจมีเรื่องราคาพลังงานหรือราคาเหล็กนำเข้า ที่นำมาผลิตสินค้าต่อเนื่อง เช่น กระป๋องหรือก่อสร้างเป็นต้น และผลกระทบต่อราคาธัญพืชที่นำเข้า เพื่อทำอาหารสัตว์ เช่น ข้าวสาลี และข้าวโพด เป็นต้น เพราะรัสเซีย-ยูเครนเป็นผู้ผลิตและส่งออกข้าวสาลีรายใหญ่ของโลก

อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้เตรียมมาตรการรองรับร่วมกันหากเกิดปัญหา เช่นเตรียมบุกตลาดทดแทนอาทิ ตะวันออกกลาง แอฟริกา ลาติน รวมทั้งบุกตลาดทดแทนสินค้าของรัสเซียหรือยูเครนที่ไม่สามารถส่งออกไปตลาดสำคัญในโลกได้ จะถือเป็นโอกาสเข้าไปทดแทนตลาดรัสเซียกับยูเครนเช่น มันสำปะหลัง อาจส่งไปจีนแทนข้าวโพดของยูเครนหรือผลิตภัณฑ์ยางในสหรัฐ อาหารสำเร็จรูปทดแทนตลาดรัสเซียยูเครน เป็นต้น

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password