โฆษกคลัง เผย ครม.อนุมัติโครงการช่วยเหลือ ประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปีการผลิต 2566

ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะ โฆษกกระทรวงการคลัง เผย คณะรัฐมนตรี อนุมัติ ช่วยเหลือเกษตรกร ใน โครงการประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปีการผลิต 2566

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2566 มีมติเห็นชอบโครงการประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (โครงการฯ) ปีการผลิต 2566 เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติให้แก่เกษตรกรผู้เพาะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และ เป็นการต่อยอดความช่วยเหลือของภาครัฐ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยดำเนินโครงการฯ ปีการผลิต 2566 มีรูปแบบและความคุ้มครอง ดังนี้

1.ผู้รับประกันภัย บริษัทเอกชนที่สมัครเข้าร่วมโครงการประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปีการผลิต 2566 ตามกรมธรรม์ 2. ผู้เอาประกัน เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเพาะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และปรับปรุงทะเบียนในปีการผลิต 2566 3. พื้นที่รับประกันภัย ดังนี้ การรับประกันภัยพื้นฐาน (Tier 1) จำนวน 2.06 ล้านไร่ การรับประกันภัยโดยภาคสมัครใจ (Tier 2) ไม่เกิน 6 หมื่นไร่ รวม Tier 1 และ Tier 2 จำนวน 2.12 ล้านไร่ 4. อัตราค่าเบี้ยประกันภัย จำแนกเป็น การรับประกันภัยพื้นฐาน (Tier 1) แบ่งเป็น 4 อัตรา (ไม่รวมอากรแสตมป์และภาษีมูลค่าเพิ่ม) ดังนี้ (1) เกษตรกรลูกค้าสินเชื่อ ธ.ก.ส. 160 บาทต่อไร่ เท่ากันทุกพื้นที่ (2) เกษตรกรทั่วไปในพื้นที่เสี่ยงต่ำ 150 บาทต่อไร่ (3) เกษตรกรทั่วไปในพื้นที่เสี่ยงปานกลาง 350 บาทต่อไร่ และ (4) เกษตรกรทั่วไปในพื้นที่เสี่ยงสูง 550 บาทต่อไร่ และการรับประกันภัยส่วนเพิ่ม (Tier 2) แบ่งเป็น 3 อัตรา (เกษตรกรจ่ายเอง พร้อมทั้งอากรแสตมป์และภาษีมูลค่าเพิ่ม) ดังนี้ (1) พื้นที่เสี่ยงต่ำ 90 บาทต่อไร่ (2) พื้นที่เสี่ยงปานกลาง 100 บาทต่อไร่ และ (3) พื้นที่เสี่ยงสูง 110 บาทต่อไร่

5.การอุดหนุนค่าเบี้ยประกันภัย ธ.ก.ส. จะอุดหนุนค่าเบี้ยประกันภัย 64 บาทต่อไร่ (สูงสุดไม่เกิน 30 ไร่ต่อราย) สำหรับเกษตรกรที่เป็นลูกค้าสินเชื่อเพื่อการเพาะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปีการผลิต 2566 ของ ธ.ก.ส. และรัฐบาลอุดหนุนค่าเบี้ยประกันภัย 96 บาทต่อไร่ พร้อมทั้งภาษีมูลค่าเพิ่มและอากรแสตมป์ ให้แก่ลูกค้าสินเชื่อ ธ.ก.ส. และ 90 บาทต่อไร่ พร้อมทั้งภาษีมูลค่าเพิ่มและอากรแสตมป์ ให้แก่เกษตรกรทั่วไป ทั้งนี้ การอุดหนุนค่าเบี้ยประกันภัยดังกล่าวเป็นการอุดหนุนเฉพาะการประกันภัยในส่วนที่ 1 (Tier 1) เท่านั้น

6.วงเงินคุ้มครอง จำแนกเป็นวงเงินคุ้มครองภัยธรรมชาติทั้งหมด 7 ภัย ได้แก่ น้ำท่วม หรือฝนตกหนัก, ภัยแล้ง ฝนแล้งหรือฝนทิ้งช่วง, ลมพายุหรือพายุไต้ฝุ่น, ภัยอากาศหนาวหรือน้ำค้างแข็ง, ลูกเห็บ, ไฟไหม้ และช้างป่า สำหรับการรับประกันภัยพื้นฐาน (Tier 1) มีวงเงินความคุ้มครอง 1,500 บาทต่อไร่ และการรับประกันภัยโดยภาคสมัครใจ (Tier 2) มีวงเงินความคุ้มครอง 240 บาทต่อไร่ รวมวงเงินความคุ้มครอง Tier 1 และ Tier 2 จำนวน 1,740 บาทต่อไร่ และวงเงินคุ้มครองภัยศัตรูพืชและโรคระบาด การรับประกันภัยพื้นฐาน (Tier 1) มีวงเงินความคุ้มครอง 750 บาทต่อไร่ และการรับประกันภัยโดยภาคสมัครใจ (Tier 2) มีวงเงินความคุ้มครอง 120 บาทต่อไร่ รวมวงเงินความคุ้มครอง Tier 1 และ Tier 2 จำนวน 870 บาทต่อไร่

7.ระยะเวลาการจำหน่ายกรมธรรม์ กำหนดวันเริ่มจำหน่ายกรมธรรม์ประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ฤดูฝน ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ความเห็นชอบโครงการฯ และกรมธรรม์ประกันภัยและอัตราเบี้ยประกันภัยได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน คปภ. จนถึงไม่เกินวันที่ 31 พฤษภาคม 2566 และสำหรับกรมธรรม์ประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ฤดูแล้ง เริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 จนถึงไม่เกินวันที่ 15 มกราคม 2567 ทั้งนี้ เกษตรกรสามารถซื้อกรมธรรม์ประกันภัยได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขา.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password