‘พาณิชย์’ เร่งทรานส์ฟอร์มรัฐด้วย AI–Cloud จับมือ 4 ยักษ์เทคโนโลยีเปิดตัว MOC Plus ยกระดับบริการสู่มาตรฐานใหม่

กระทรวงพาณิชย์เปิดตัวความก้าวหน้าของโครงการ MOC Plus เดินหน้าปฏิรูประบบบริการรัฐด้วย AI และ Cloud ภายใต้นโยบาย Quick Big Win ผนึกความร่วมมือ AWS, Google Cloud, Huawei และ Microsoft พัฒนาสถาปัตยกรรมข้อมูลกลางและระบบความปลอดภัยระดับสากล ตั้งเป้าให้บริการ “จุดเดียว จบจริง” โปร่งใส ตรวจสอบได้ เชื่อมโยงทุกกรม–ทุกพื้นที่ พร้อมนำร่อง 3 หน่วยงานและเตรียมยกระดับบุคลากรด้าน AI ในปี 2569

วันที่ 11 ธันวาคม 2568 กระทรวงพาณิชย์ประกาศความก้าวหน้าครั้งสำคัญของโครงการ MOC Plus การปฏิรูประบบบริการของกระทรวงพาณิชย์ด้วยเทคโนโลยี AI และ Cloud ภายใต้นโยบาย Quick Big Win กระตุ้นสั้น ให้ได้ผลยาว และกระจายตัว โดยมี นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ แถลงถึงทิศทางใหม่ของ “พาณิชย์ดิจิทัล” ที่มุ่งให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลและบริการของกระทรวงแบบ “จุดเดียว จบจริง” ลดความซับซ้อน ลดงานซ้ำซ้อน และยกระดับประสบการณ์บริการภาครัฐสู่มาตรฐานสากลด้วยความร่วมมือของ 4 องค์กรเทคโนโลยีระดับโลก ได้แก่ Amazon Web Services (AWS) (นางสาวภัคธภา ฉัตรโกเมศ ผู้จัดการประจำประเทศไทย หน่วยงานภาครัฐ) Google Cloud ประเทศไทย (นายอรรณพ ศิริติกุล Country Director) Huawei Technologies (Thailand) (ดร.ชวพล จริยาวิโรจน์ ประธานบริหาร) Microsoft ประเทศไทย (นางชนิกานต์ โปรณานันท์ รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจภาครัฐ) ทั้ง 4 องค์กรร่วมสนับสนุนการพัฒนาสถาปัตยกรรมข้อมูลกลาง (Central Data Architecture) ระบบ Cloud ความมั่นคงปลอดภัยระดับสากล และโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการใช้งาน AI ในทุกกรมของกระทรวง เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงข้อมูลอย่างเป็นระบบ โปร่งใส และตรวจสอบย้อนกลับได้

นางศุภจี กล่าวว่า การเดินหน้าทรานส์ฟอร์มครั้งนี้เป็นการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างของกระทรวงพาณิชย์ ทั้งการทำงานแบบไซโล ข้อมูลกระจัดกระจาย และความซับซ้อนของขั้นตอนงาน โดย MOC Plus จะเข้ามาเปลี่ยน “ภาระ” ให้เป็น “ความสะดวก” ลดความยุ่งยาก ทำให้ข้าราชการมีเวลาไปทำงานที่สร้างคุณค่ามากขึ้น
รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า “ประชาชนไม่ได้ต้องการข้อมูลที่แยกส่วน เขาต้องการบริการที่ ครบวงจรตั้งแต่ต้นจนจบ เราจึงต้องทำให้กระทรวงพาณิชย์เป็น Single Window เชื่อมโยงทุกกรมทุกกองเข้าด้วยกัน ใช้ AI ช่วยตอบคำถามพื้นฐาน ตรวจสอบข้อมูล รวมถึงทำให้บริการโปร่งใส ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน”
การทรานส์ฟอร์มครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องของส่วนกลางเท่านั้น แต่เป็นงานร่วมกันของสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ รวมถึงทูตพาณิชย์ในต่างประเทศทั่วโลก เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการได้อย่างเท่าเทียม และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของภาคธุรกิจไทย

นางศุภจี อธิบายว่า MOC Plus มี 4 เป้าหมายสำคัญ ได้แก่
1.Excellence Services ยกระดับมาตรฐานการให้บริการด้วยข้อมูลที่ถูกต้อง แม่นยำ เชื่อถือได้
2.Good Experience ให้บริการ 24 ชั่วโมง ผ่าน AI Assistant ลดการรอสาย ลดการเดินทาง
3.Personalized Service ใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อให้คำแนะนำเฉพาะบุคคล เช่น สิทธิประโยชน์ FTA ที่ตรงกับสินค้า
4.Transparency ทุกขั้นตอนตรวจสอบย้อนกลับได้ ลดช่องว่างทุจริต

โดยเริ่มต้นด้วยโครงการนำร่องในงานของ 3 หน่วยงาน ได้แก่ 1. กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) ใช้ AI ตรวจจับความเสี่ยงนอมินีผ่าน Risk Score Card วิเคราะห์ข้อมูลนิติบุคคล รูปแบบบัญชีม้า ที่อยู่ซ้ำ การถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ไม่สอดคล้องรายได้ รวมถึงการตรวจสอบกรรมการเป็นคนไทยจริงหรือไม่ ลดช่องโหว่การจดทะเบียนโดยมิชอบ 2. กรมทรัพย์สินทางปัญญา (DIP) ใช้ Chatbot AI และระบบ AI ตรวจความทับซ้อนของเครื่องหมายการค้า ลดเวลาการตรวจสอบ เพิ่มความแม่นยำ และอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการยื่นคำขอได้รวดเร็วขึ้น และ 3. กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) พัฒนา AI ผู้ช่วยด้านข้อมูลการค้าระหว่างประเทศ ให้เลือกใช้สิทธิประโยชน์ FTA ที่เหมาะสม เพื่อให้ SMEs เข้าถึงข้อมูลส่งออก–นำเข้าได้ง่ายขึ้นและพร้อมแข่งขันในตลาดโลก

โครงการแรกที่ประชาชนจะสัมผัสได้คือ Call Center กลางของกระทรวง ที่ใช้ AI ช่วยตอบคำถามพื้นฐานจากฐานข้อมูลกลางของทุกกรม ลดปัญหากดเมนูซ้ำและการโทรผิดหน่วยงาน พร้อมส่งต่อเรื่องซับซ้อนให้เจ้าหน้าที่อย่างรวดเร็ว และในปี 2569 จะเป็นปีแห่งการ Upskill บุคลากรพาณิชย์ด้าน AI โดย 4 บริษัทเทคโนโลยีจะร่วมสนับสนุนการอบรม เพื่อให้ข้าราชการทุกกรมสามารถใช้ AI ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และความร่วมมือครั้งนี้จะนำไปสู่ Master Plan ระยะ 5 ปี เพื่อวางระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูล AI–Cloud ให้กระทรวงพาณิชย์ก้าวเป็น “Digital Commerce Ministry” อย่างเต็มรูปแบบ และเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน
“MOC Plus ไม่ใช่แค่โครงการเทคโนโลยี แต่เป็นการปฏิรูประบบราชการของกระทรวงพาณิชย์อย่างแท้จริง เพื่อประโยชน์ของประชาชนและภาคธุรกิจ เราจะทำให้บริการรัฐทันสมัย โปร่งใส เชื่อถือได้ และตอบโจทย์ยุคใหม่” นางศุภจี กล่าว.








