กรมทรัพย์สินทางปัญญา เร่งคุ้มครอง ‘3 นวัตกรรมหลัก’ เสริมศักยภาพ ‘นักวิจัย-ผปก.ไทย’ แข่งขันระดับโลก

สิทธิบัตรขยับไวได้ไปเร็ว! กรมทรัพย์สินทางปัญญา มุ่งขับเคลื่อน “เร่งรัดสิทธิบัตรมุ่งเป้า” หนุนผลงานนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความท้าทายยุคปัจจุบัน โฟกัส “การแพทย์/สาธารณสุข อาหารแห่งอนาคต และนวัตกรรมรักษ์ สวล.” สั่งเร่งจดทะเบียนฯ ให้เร็วสุด ช่วย ผปก.ไทย นำผลงานไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ ทันต่อการแข่งขัน ย้ำ! เพิ่มความสามารถแข่งขันของชาติ ด้วยนวัตกรรมแห่งอนาคต ขับเคลื่อนไทยสู่ชาติพัฒนาที่ยั่งยืน

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า โครงการเร่งรัดสิทธิบัตรมุ่งเป้า (Target Patent Fast-Track) เริ่มดำเนินการในปี 2565 ด้วย ปัญหาด้านสาธารณสุข จากโรคติดเชื้ออุบัติใหม่ รวมถึง ภาวะวิกฤติทางสุขภาพอื่นๆ ที่ประเทศไทยและทั่วโลกต้องเผชิญ ทั้งนี้ กรมฯตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนานวัตกรรมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะเทคโนโลยีทางการแพทย์ อุปกรณ์ เครื่องมือ และวัสดุที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ซึ่งจะช่วยลดการพึ่งพาการนำเข้าและเสริมสร้างอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจรภายในประเทศ

ดังนั้น กรมฯจึงเปิดตัวโครงการเร่งรัดสิทธิบัตรมุ่งเป้า เปิดให้บริการ Fast Track หรือช่องทางพิเศษเพื่อให้สามารถจดทะเบียนสิทธิบัตรในสาขานวัตกรรมเป้าหมายได้รวดเร็วขึ้น โดยเริ่ม “นำร่อง” ในสาขานวัตกรรมด้านการแพทย์และสาธารณสุข (Medical Sciences and Public Health) ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 ตัวอย่าง นวัตกรรมที่น่าสนใจที่ได้รับการจดสิทธิบัตรผ่านระบบ Fast Track เช่น สเปรย์พ่นจมูกสำหรับป้องกันโรคโควิด-19 แผ่นดามกระดูกใกล้ข้อต่อ และหุ่นยนต์ผสมยาเคมีบำบัด เป็นต้น ซึ่ง ผลงานนวัตกรรมในสาขานี้สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจรวมกว่า 179 ล้านบาทต่อปี ผ่านการอนุญาตให้ใช้สิทธิ การโอนสิทธิ การจำหน่าย และใช้ประโยชน์โดยไม่ได้แสวงหากำไร

​ทั้งนี้ กรมฯได้ขยายบริการ Fast Track โดยเพิ่มสาขานวัตกรรมอาหารแห่งอนาคต (Future Food) ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เพื่อส่งเสริมเทคโนโลยีอาหารที่ดีต่อสุขภาพและสอดคล้องกับเทรนด์โลก ทั้งการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาสร้างสรรค์เป็นอาหารใหม่ และการนำนวัตกรรมมาใช้ในกระบวนการผลิตเพื่อเพิ่มคุณประโยชน์ทางโภชนาการมากขึ้น เช่น ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ต่อต้านอนุมูลอิสระและการอักเสบของร่างกาย หรือส่งเสริมการโภชนาการที่สร้างสรรค์ขึ้นเฉพาะกับความต้องการของร่างกายแต่ละบุคคล เป็นต้น

ตัวอย่างนวัตกรรมด้านนี้ ซึ่งได้ สิทธิบัตรผ่านระบบ Fast Track เช่น อาหารเหลวพร้อมบริโภค ไอศกรีมนมอัลมอนด์เสริมโปรตีนจากจิ้งหรีด ซึ่งเป็น นวัตกรรมที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ด้านสุขภาพและความยั่งยืน

ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2567 ได้ขยายบริการ Fast Track โดยเพิ่มสาขานวัตกรรมรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Innovation) เนื่องจากเล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate change) และ ผลักดันเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้นำมาใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์โดยเร็ว ตัวอย่าง นวัตกรรมสาขานี้ ที่ได้สิทธิบัตรผ่านระบบ Fast Track เช่น เตาเผาขยะมูลฝอยแบบก๊าซไอเสียหมุนวนซ้ำ อุปกรณ์และเครื่องมือสำหรับชาร์จแบตเตอรี่ ตัวเก็บประจุยิ่งยวด และน้ำยาสะท้อนความร้อนสำหรับเคลือบ เป็นต้น โดยถือเป็น การช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนและขับเคลื่อนสู่ระบบเศรษฐกิจฐานนวัตกรรมที่จะช่วยสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนบนสังคมเศรษฐกิจสีเขียว

นางอรมน ยังกล่าวอีกว่า โครงการการเร่งรัดสิทธิบัตรมุ่งเป้านี้ มีเงื่อนไขว่าจะต้องยื่นคำขอจดสิทธิบัตรการประดิษฐ์และอนุสิทธิบัตรในประเทศไทยเป็นที่แรก ซึ่งกระบวนการพิจารณาคำขอ จะเร่งให้ไวขึ้นและดำเนินการเสร็จสิ้นภายใน 12 เดือนสำหรับสิทธิบัตรการประดิษฐ์ (จากเดิมใช้เวลา 38.5 เดือน นับจากวันยื่นให้ตรวจสอบการประดิษฐ์) และภายใน 6 เดือนสำหรับอนุสิทธิบัตร (จากเดิม 12 เดือน)

ล่าสุด มีคำขอที่ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ Fast track ทั้ง 3 นวัตกรรมรวม 130 คำขอ แบ่งเป็น นวัตกรรมการแพทย์และสาธารณสุข 96 คำขอ (สิทธิบัตรการประดิษฐ์ 32 คำขอ และอนุสิทธิบัตร 64 คำขอ) นวัตกรรมอาหารแห่งอนาคต 18 คำขอ (สิทธิบัตรการประดิษฐ์ 1 คำขอ และอนุสิทธิบัตร 17 คำขอ) นวัตกรรมรักษ์สิ่งแวดล้อม 16 คำขอ (สิทธิบัตรการประดิษฐ์ 10 คำขอ และอนุสิทธิบัตร 6 คำขอ) โดยมีนวัตกรรมที่ได้รับจดทะเบียนแล้วทั้งสิ้น 100 ฉบับ คิดเป็น 77% ของคำขอ Fast Track ทั้งหมด โดยมีระยะเวลาเฉลี่ยในการพิจารณาคำขอสิทธิบัตรการประดิษฐ์อยู่ที่ 4.5 เดือน และคำขออนุสิทธิบัตรอยู่ที่ 1.5 เดือน นับแต่วันที่กรมประกาศให้คำขอนั้นได้เข้าร่วมโครงการ

ซึ่ง นักประดิษฐ์ นักวิจัยใน 3 สาขานวัตกรรมที่สนใจเข้าร่วมโครงการ สามารถยื่นสมัครผ่านระบบ e-Filing ของกรมได้ ระหว่างวันที่ 1 – 10 ของทุกเดือน โดยกรมฯจะประกาศผลการคัดเลือกภายในวันที่ 5 ของเดือนถัดไป

ทั้งนี้ จากสถิติที่ผ่านมา พบว่า ผู้ที่ยื่นคำขอเข้าร่วมโครงการมากที่สุด เช่น สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และกรมการแพทย์ ในกลุ่มนวัตกรรมการแพทย์และสาธารณสุขมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในกลุ่มนวัตกรรมอาหารแห่งอนาคต บริษัท ชินเนอร์ยี่ ไลฟ์ จำกัด และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ในกลุ่มนวัตกรรมรักษ์สิ่งแวดล้อม

นางอรมน กล่าวทิ้งท้ายว่า กระแสตอบรับดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของภาคส่วนต่างๆ ที่พร้อมเดินหน้าผลักดันนวัตกรรมให้ก้าวทันโลก และใช้กลไกทรัพย์สินทางปัญญาเป็นเครื่องมือสร้างความสามารถในการแข่งขันในระดับสากล สิทธิบัตรจึงไม่ใช่เพียงแค่เอกสารทางกฎหมายที่กรมออกให้นักประดิษฐ์คิดค้น แต่เป็น “เครื่องมือที่จะช่วยสร้างมูลค่าและขับเคลื่อนธุรกิจ” ทั้งในระดับผู้ประกอบการและระดับประเทศ โครงการเร่งรัดการตรวจสอบสิทธิบัตรแบบพุ่งเป้าของกรมจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับสาขาการประดิษฐ์ที่เป็นเทรนด์แห่งอนาคตของไทยให้สามารถไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์และทำตลาดต่อได้รวดเร็ว

​สำหรับ ในปี 2569 กรมฯมีแผนจะเพิ่มนวัตกรรมสาขาใหม่ๆ ในโครงการ Fast Track สิทธิบัตร เช่น อุตสาหกรรมชีวภาพ อุตสาหกรรมดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ เซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง จึงขอเชิญชวนผู้สนใจเตรียมพร้อมสมัครเข้าร่วมโครงการ โดยสามารถติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวในการเปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมโครงการเร่งรัดสิทธิบัตรมุ่งเป้าได้ที่เว็บไซต์กรมทรัพย์สินทางปัญญา www.ipthailand.go.th หรือโทรสายด่วน 1368.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password